Enalapril (อีนาลาพริล)

Enalapril (อีนาลาพริล)

Enalapril (อีนาลาพริล) คือยาต้านเอนไซม์เอซีอี (Angiotensin Converting Enzyme Inhibitors: ACE Inhibitors) ใช้รักษาความดันโลหิตสูงในผู้ใหญ่และเด็กอายุ 1 ขวบขึ้นไป ภาวะหัวใจล้มเหลวในผู้ใหญ่ ทั้งยังใช้ในการรักษาความผิดปกติของหัวใจห้องล่างซ้ายซึ่งทำหน้าที่ส่งเลือดไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายด้วยเช่นกัน

Enalapril ใช้ได้ทั้งแบบตัวเดียว และใช้ร่วมกับยาอื่น ๆ เพื่อรักษาความดันโลหิตสูง ภาวะหัวใจล้มเหลว และภายหลังการเกิดภาวะหัวใจวาย ซึ่งช่วยให้การทำงานของหัวใจดียิ่งขึ้น โดยขยายหลอดเลือดจากการยับยั้ง Angiotensin Converting Enzyme ทั้งนี้ ยานี้มีทั้งในรูปแบบรับประทาน (ยาเม็ดและยาน้ำ) และสารละลาย โดยสารละลายมักใช้ในกรณีที่ไม่สามารถรักษาด้วยยารูปแบบรับประทานได้

Enalapril

เกี่ยวกับยา Enalapril

กลุ่มยา ยาต้านเอนไซม์เอซีอี (ACE Inhibitors)
ประเภทยา ยาตามใบสั่งแพทย์
สรรพคุณ รักษาความดันโลหิตสูงและภาวะหัวใจล้มเหลว
กลุ่มผู้ป่วย เด็กอายุ 1 ขวบขึ้นไปและผู้ใหญ่
รูปแบบของยา ยารับประทานและสารละลาย

 

คำเตือนในการใช้ยา Enalapril

  • ผู้มีประวัติแพ้ยานี้หรือยาต้านเอนไซม์ ACE อื่น ๆ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบ
  • ห้ามใช้ในสตรีมีครรภ์และให้นมบุตร กรณีตั้งครรภ์ภายหลังการใช้ยา ควรหยุดใช้และแจ้งแพทย์ทันที เนื่องจากยาอาจทำร้ายทารกในครรภ์จนเสียชีวิตได้
  • ผู้ป่วยที่เคยแพ้ยาในกลุ่มนี มีโรคลมพิษแบบแองจิโออีดีมา (Angioedema) ซึ่งคืออาการบวมภายใต้ผิวหนังอ่อนโดยเฉพาะหนังตาและริมฝีปาก ไม่ควรใช้ยานี้
  • ผู้ป่วยโรคเบาหวานไม่ควรใช้ยานี้ร่วมกับยาที่มีส่วนผสมของยาอะลิสคิเรน (Aliskiren) เช่น ยา Amturnide, Tekturna, Tekamlo และ Valturna
  • Enalapril อาจส่งผลกระทบต่อไต หัวใจ และระดับอิเล็กโทรไลต์ (Electrolyte) ในร่างกาย ซึ่งทำให้เกิดอาการบวมอักเสบตามร่างกาย ปัสสาวะน้อย น้ำหนักขึ้นอย่างรวดเร็ว หายใจติดขัด เจ็บหน้าอก หัวใจเต้นแรง ชีพจรลดหรืออ่อนลง รู้สึกอ่อนแรง หรือกล้ามเนื้อตึง หากผู้ป่วยมีอาการเหล่านี้ควรแจ้งให้แพทย์ทราบ
  • ควรปรึกษาแพทย์หากมีการใช้สารทดแทนเกลือ (Salt Substitutes) ที่มีส่วนผสมของโปแตสเซียม และควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด

ปริมาณการใช้ยา Enalapril

ความดันโลหิตสูง

ผู้ใหญ่

  • ยารับประทาน

ปริมาณเริ่มต้น 5 มิลลิกรัม รับประทาน 1 ครั้งต่อวัน

ปริมาณต่อเนื่อง 10-40 มิลลิกรัม รับประทาน 1 ครั้งต่อวัน หรือแบ่งเป็น 2 ครั้งต่อวัน

ปริมาณสูงสุด 40 มิลลิกรัม รับประทาน 1 ครั้งต่อวัน หรือแบ่งเป็น 2 ครั้งต่อวัน

กรณีใช้ร่วมกับยาขับปัสสาวะ (Diuretics)

ปริมาณเริ่มต้น 2.5 มิลลิกรัม รับประทาน 1 ครั้งต่อวัน

ควรหยุดใช้ยาขับปัสสาวะ 2-3 วันก่อนเริ่มใช้ Enalapril

  • สารละลาย

ฉีดสารละลายเข้าหลอดเลือดปริมาณ 1.25-5 มิลลิกรัมเป็นเวลา 5 นาที ทุก ๆ 6 ชั่วโมง

การตอบสนองทางการรักษามักเกิดขึ้นภายใน 15 นาทีหลังการฉีดสารละลาย

เด็ก

  • ยารับประทาน

ปริมาณเริ่มต้น 0.8 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัมต่อวัน (สูงสุด 5 กิโลกรัม) รับประทาน 1 ครั้งต่อวันหรือแบ่งเป็น 2 ครั้งต่อวัน

หมายเหตุ: ปริมาณยาอาจปรับเปลี่ยนได้ตามการตอบสนองของผู้ป่วย

ไม่ควรใช้ยาในทารกแรกเกิดและผู้ป่วยเด็กที่มีอัตราการกรองไต (Glomerular Filtration Rate) ต่ำกว่า 30 มิลลิลิตรต่อนาที ทั้งยังไม่มีการประเมินการใช้ยาเกิน 0.58 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม (40 มิลลิกรัม) ในผู้ป่วยเด็กอีกด้วย

ภาวะหัวใจล้มเหลว

ผู้ใหญ่

  • ยารับประทาน

ปริมาณเริ่มต้น 2.5 มิลลิกรัม รับประทาน 1 ครั้งต่อวัน

ปริมาณต่อเนื่อง 2.5-20 มิลลิกรัม โดยแบ่งรับประทาน 2 ครั้งต่อวัน

ปริมาณสูงสุด 40 มิลลิกรัม โดยแบ่งรับประทาน 2 ครั้งต่อวันครั้ง

หมายเหตุ: ปริมาณยาอาจเพิ่มขึ้นตามระยะเวลาและปริมาณที่ผู้ป่วยสามารถรับได้

แพทย์มักใช้ยานี้รักษาร่วมกับยาขับปัสสาวะและยาดิจิตาลิส (Digitalis)

ความผิดปกติของหัวใจห้องล่างซ้าย (Left Ventricular Dysfunction)

ผู้ใหญ่

  • ยารับประทาน

ปริมาณเริ่มต้น 2.5 มิลลิกรัม รับประทาน 2 ครั้งต่อวัน

ปริมาณต่อเนื่อง 20 มิลลิกรัม โดยแบ่งรับประทาน 2 ครั้งต่อวัน

หมายเหตุ: ผู้ป่วยควรลดปริมาณยาขับปัสสาวะลง เพราะอาจทำให้เกิดความดันโลหิตต่ำได้

ภายหลังผู้ป่วยรับประทานยาเป็นเวลา 2 ชั่วโมง จะเริ่มเห็นการตอบสนองต่อยา แพทย์ควรสังเกตอาการผู้ป่วยจนกว่าระดับความดันโลหิตจะคงที่ โดยควรใช้เวลาสังเกตอาการอย่างน้อย 1 ชั่วโมง

การใช้ยา Enalapril

ควรใช้ยา Enalapril ตามคำแนะนำของแพทย์หรือฉลากยาอย่างเคร่งครัด การเปลี่ยนแปลงปริมาณยาอาจช่วยให้อาการของผู้ป่วยดีขึ้น ห้ามผู้ป่วยลดหรือเพิ่มปริมาณยาหรือระยะเวลาในการใช้ยานอกเหนือจากที่แพทย์แนะนำ

กรณีลืมรับประทานยา ควรรับประทานทันทีเมื่อนึกได้ แต่หากใกล้เวลาต้องรับประทานยาในรอบถัดไป ให้ข้ามไปรับประทานยาตามเวลาปกติ โดยไม่ต้องเพิ่มปริมาณยาเป็น 2 เท่าและสามารถรับประทานร่วมกับอาหารได้

กรณีจำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัด ควรแจ้งศัลยแพทย์ล่วงหน้าว่ากำลังใช้ยานี้ ซึ่งอาจมีความจำเป็นต้องงดใช้ยาชั่วคราว ผู้ป่วยควรเข้ารับการตรวจเลือดเป็นประจำ เพื่อตรวจดูการทำงานของตับและไต ทั้งนี้ Enalapril อาจทำให้ความดันโลหิตต่ำลงเช่นกัน จึงควรแจ้งให้แพทย์ทราบ หากผู้ป่วยมีอาการเหงื่อออกมากกว่าปกติ อาเจียนหรือท้องเสีย

ห้ามใช้สารทดแทนเกลือหรือโปแตสเซียมเสริมขณะใช้ยานี้ เว้นแต่ได้รับคำแนะนำจากแพทย์ และควรหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ เพราะอาจช่วยเพิ่มโอกาสในการเกิดผลข้างเคียงจากยามากขึ้น ทั้งยังไม่ควรเปลี่ยนอิริยาบถจากการนั่งหรือนอนอย่างรวดเร็ว เนื่องจากอาจเกิดอาการมึนงงจากการใช้ยาได้

ยาที่ต้องแจ้งให้แพทย์ทราบและใช้อย่างระมัดระวังเมื่อใช้ร่วมกับ Enalapril ได้แก่ ลิเธียม (Lithium) ยาขับปัสสาวะ (Diuretic) ยารักษาโรคข้ออักเสบ (Gold injections) ยากดภูมิต้านทานขณะปลูกถ่ายอวัยวะ เช่น Everolimus, Sirolimus, Temsirolimus หรือยาลดการอักเสบ (NSAIDs) เช่น แอสไพริน (Aspirin),  อินโดเมทาซิน (Indomethacin) นาพรอกเซน (Naproxen-Aleve) ไอบูโปรเฟน (Ibuprofen-Advil, Motrin) ไดโคลฟีแนค (Diclofenac) เซเลโคซิบ (Celecoxib)  มีลอกซิแคม (Meloxicam) เป็นต้น

ควรเก็บยาไว้ในอุณหภูมิห้องให้ห่างจากความชื้นและความร้อน สำหรับยาน้ำ ควรปิดขวดให้สนิทและเก็บไว้ในตู้เย็น โดยไม่ควรแช่ไว้ในช่องแช่แข็ง และทิ้งยาหลังจากเปิดขวด 60 วัน

ผลข้างเคียงจากการใช้ยา Enalapril

ผลข้างเคียงที่พบบ่อย ได้แก่

  • มึนงงหรือหน้ามืด
  • รู้สึกเหนื่อย
  • ไอ

ผลข้างเคียงที่พบและควรไปพบแพทย์ ได้แก่

  • หัวใจเต้นแรง
  • เวียนศีรษะคล้ายจะเป็นลม
  • เม็ดเลือดขาวต่ำลง อาจพบอาการอักเสบหรือติดเชื้อ เช่น เจ็บช่องปากขณะกลืนอาหาร รู้สึกเหนื่อยหรืออ่อนล้า รู้สึกหนาว มีไข้ ไอ หรือมีอาการคล้ายไข้หวัด หายใจลำบาก หรือติดขัด
  • ความผิดปกติของไต อาจพบปัสสาะวะน้อย เจ็บปวดขณะปัสสาวะหรือปัสสาวะลำบาก บวมที่เท้าหรือข้อเท้า เหนื่อย หายใจลำบาก

ผลข้างเคียงที่ควรรีบพบแพทย์ทันที ได้แก่

  • หายใจลำบาก
  • มีอาการบวมบริเวณใบหน้า ริมฝีปาก ลิ้นหรือช่องคอ
  • ปวดท้องรุนแรง
  • ผื่น