กีวี่ ประโยชน์ต่อหัวใจและร่างกาย

กีวี่ เป็นผลไม้รสชาติเปรี้ยวอมหวาน อุดมไปด้วยวิตามินและเกลือแร่หลากชนิด หลายคนเชื่อว่ากีวี่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น ช่วยบรรเทาการติดเชื้อที่ระบบทางเดินหายใจส่วนบน กระตุ้นการทำงานของลำไส้และระบบขับถ่าย ช่วยให้หลับสบาย ส่งผลดีต่อระดับความดันโลหิต รวมถึงอาจมีประโยชน์ต่อสุขภาพหัวใจ เป็นต้น

กีวี่

ในประเทศไทยนิยมรับประทานกีวี่เนื้อสีเขียว แต่ก็มีผู้บริโภคกีวี่เนื้อสีทองหรือสีอื่น ๆ เช่นกัน กีวี่เป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง โดยกีวี่เนื้อสีเขียว 100 กรัม จะประกอบไปด้วยวิตามินซี 92.7 มิลลิกรัม อีกทั้งยังเป็นแหล่งของสารโภชนาการอื่น ๆ เช่น วิตามินอี วิตามินเค กรดโฟลิค ไฟเบอร์ รวมถึงสารแคโรทีนอย (Carotenoids) และสารโพลีฟีนอล (Polyphenols) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระด้วย

คำกล่าวอ้างถึงสรรพคุณด้านต่าง ๆ ของกีวี่นั้นจะจริงหรือเท็จมากน้อยเพียงใด มีการศึกษาและหลักฐานทางการแพทย์ได้พิสูจน์แง่มุมบางส่วนเกี่ยวกับกีวี่ไว้ ดังนี้

กีวี่กับโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจส่วนบน

โรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจส่วนบนมักเกิดจากการติดเชื้อไวรัส อาจส่งผลให้ผู้ป่วยเป็นหวัดหรือเกิดการอักเสบที่เยื่อจมูก ไซนัส และคอหอย หลายคนเชื่อว่าวิตามินซีและสารอาหารในกีวี่อาจเป็นประโยชน์ต่อผู้ป่วยโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจส่วนบน จากการศึกษาโดยให้ผู้สูงวัยที่มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไปที่ป่วยเป็นโรคติดเชื้อชนิดนี้รับประทานกีวี่สีทองวันละ 4 ลูก เปรียบเทียบกับการรับประทานกล้วย 2 ผล เป็นเวลาทั้งสิ้น 4 สัปดาห์ พบว่าการบริโภคกีวี่สีทองช่วยเพิ่มระดับวิตามินซีและวิตามินอีในเลือด รวมถึงช่วยให้หายจากอาการป่วยเร็วขึ้นและบรรเทาความรุนแรงของอาการปวดศีรษะและเจ็บคอในผู้สูงอายุที่ป่วยเป็นโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจส่วนบนได้

อย่างไรก็ตาม แม้การทดลองดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มที่ดีของการรับประทานกีวี่ว่าอาจเป็นประโยชน์ต่อการบรรเทาอาการจากโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจส่วนบน แต่เป็นเพียงการศึกษาเฉพาะกลุ่มและอาจเห็นผลเฉพาะบุคคลเท่านั้น จึงยังจำเป็นต้องค้นคว้าเพิ่มเติมก่อนนำกีวี่ไปใช้ประโยชน์กับผู้ป่วยในวัยอื่น ๆ ต่อไป

กีวี่กับการทำงานของลำไส้

ไฟเบอร์เป็นสารอาหารสำคัญต่อการทำงานของลำไส้ ช่วยดูดซึมน้ำทำให้อุจจาระนิ่มและเคลื่อนตัวได้ง่ายซึ่งเป็นผลดีต่อระบบขับถ่าย กีวี่เป็นผลไม้ชนิดหนึ่งที่มีไฟเบอร์ซึ่งอาจช่วยส่งเสริมการทำงานของลำไส้ จากการศึกษาโดยให้ผู้ป่วยโรคลำไส้แปรปรวนกลุ่มที่มีอาการท้องผูกรับประทานกีวี่วันละ 2 ลูก เป็นเวลา 4 สัปดาห์ พบว่าการรับประทานกีวี่ช่วยร่นระยะเวลาการเคลื่อนตัวของอุจจาระภายในลำไส้ใหญ่ กระตุ้นให้ขับถ่ายบ่อยขึ้น และช่วยปรับปรุงการทำงานของลำไส้ในผู้ป่วยโรคลำไส้แปรปรวนกลุ่มที่มีอาการท้องผูกได้ด้วย ดังนั้น กีวี่อาจเป็นประโยชน์ต่อการทำงานของลำไส้และระบบขับถ่ายหากรับประทานอย่างเหมาะสม

กีวี่กับการนอนหลับ

หลายคนมีเคล็ดลับการนอนหลับที่แตกต่างกันไป เช่น ดื่มนมอุ่น ๆ หรืองดเครื่องดื่มคาเฟอีนก่อนเข้านอน แต่บางรายเลือกรับประทานกีวี่เพราะเชื่อว่าอาจช่วยทำให้นอนหลับได้ง่ายขึ้น จากการศึกษาโดยให้อาสาสมัครรับประทานกีวี่ 2 ลูก ก่อนเข้านอน 1 ชั่วโมง ทุกคืนเป็นเวลา 4 สัปดาห์ พบว่าการรับประทานกีวี่ก่อนเข้านอนอาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและชั่วโมงการนอนหลับได้

อย่างไรก็ตาม การศึกษานี้เป็นเพียงการทดลองระยะสั้น มีผู้เข้าร่วมการทดลองจำนวนน้อย และส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง จึงยังจำเป็นต้องศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับประสิทธิภาพของกีวี่ที่ส่งผลดีต่อการนอนหลับให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ก่อนนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง

กีวี่กับสุขภาพหัวใจ

การมีสุขภาพหัวใจที่ดีเป็นสิ่งสำคัญ เพราะช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจชนิดต่าง ๆ ซึ่งเป็นอันตรายต่อชีวิตได้ หลายคนจึงดูแลตัวเองด้วยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ หรือรับประทานผักผลไม้ที่มีประโยชน์เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงของโรคหัวใจ ซึ่งกีวี่นับเป็นหนึ่งในบรรดาผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามิน เกลือแร่ และสารอาหารที่การศึกษาบางส่วนได้แนะนำว่าอาจช่วยป้องกันความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือดได้

1 ในปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด คือ ระดับคอเลสเตอรอลในเลือดสูง ในทางการแพทย์มีการศึกษาชิ้นหนึ่งแสดงให้เห็นว่า การรับประทานกีวี่วันละ 2 ลูก เป็นเวลา 8 สัปดาห์ ช่วยเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลชนิดที่ดี (HDL) ให้สูงขึ้น แต่ไม่พบความแตกต่างของระดับไตรกลีเซอร์ไรด์ คอเลสเตอรอลรวม หรือคอเลสเตอรอลชนิดที่ไม่ดี (LDL) ทั้งก่อนและหลังการทดลองแต่อย่างใด

นอกจากนี้ ยังมีอีกหนึ่งการศึกษาที่แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของกีวี่ในการลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด โดยให้อาสาสมัครที่มีความดันโลหิตระดับปกติค่อนไปทางสูง หรือมีความดันโลหิตสูงระดับ 1 รับประทานกีวี่วันละ 3 ลูก เทียบกับการรับประทานแอปเปิ้ลวันละ 1 ลูก เป็นเวลา 8 สัปดาห์ พบว่ากลุ่มที่รับประทานกีวี่มีระดับความดันโลหิตลดลงมากกว่าอีกกลุ่ม

จากผลการทดลองข้างต้นจึงอาจกล่าวได้ว่า การรับประทานกีวี่เป็นประจำอาจช่วยเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลชนิดที่ดี และอาจลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดในผู้ที่มีความดันโลหิตระดับปกติค่อนไปทางสูงหรือผู้ที่มีความดันโลหิตสูงไม่มากได้ด้วย

อย่างไรก็ตาม แม้การศึกษาดังกล่าวแสดงถึงผลลัพธ์ที่ดีของการรับประทานกีวี่ต่อสุขภาพหัวใจ แต่ยังจำเป็นต้องศึกษาเพิ่มเติมกับผู้ทดลองกลุ่มอื่น ๆ ที่แตกต่างหลากหลายมากขึ้น และต้องศึกษารายละเอียดของกลไกในการรับประทานกีวี่ที่ส่งผลดีต่อหัวใจให้ชัดเจนยิ่งขึ้น

รับประทานกีวี่อย่างไรให้ปลอดภัยต่อสุขภาพ

การรับประทานกีวี่เป็นอาหารในปริมาณที่พอดีนั้นค่อนข้างปลอดภัยสำหรับคนส่วนใหญ่ แต่ในปัจจุบันยังไม่มีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่เพียงพอจะระบุปริมาณในการรับประทานกีวี่ที่เหมาะสม และผู้บริโภคบางรายก็อาจแพ้กีวี่ได้ นอกจากนั้น ผู้บริโภคควรคำนึงถึงปัจจัยอื่น ๆ ของตนด้วย เช่น อายุ หรือปัญหาสุขภาพ ดังนั้น หากมีข้อสงสัยควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนรับประทานกีวี่หรือใช้ผลิตภัณฑ์ใด ๆ จากกีวี่ เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพ

ส่วนบุคคลในกลุ่มต่อไปนี้ ควรระมัดระวังในการรับประทานกีวี่เป็นพิเศษ

  • หญิงตั้งครรภ์และผู้ที่อยู่ในช่วงให้นมบุตร การรับประทานกีวี่เป็นอาหารในปริมาณที่เหมาะสมนั้นค่อนข้างปลอดภัย
  • ผู้ป่วยที่มีเลือดออกง่าย การรับประทานกีวี่อาจทำให้เลือดแข็งตัวช้าลง ซึ่งทำให้เลือดออกได้ง่ายขึ้น
  • ผู้ที่แพ้กีวี่ รวมถึงอาหารชนิดอื่น ๆ ในกลุ่มที่ใกล้เคียงกัน เช่น อะโวคาโด มะเดื่อฝรั่ง งา เฮเซลนัต หรือข้าวสาลี ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานกีวี่หรือผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่ทำจากกีวี่ เพราะอาจทำให้เกิดอาการแพ้ขึ้นได้ เช่น มีผื่นคันขึ้นตามร่างกาย หายใจไม่ออก หรืออาเจียน
  • ผู้ที่ต้องเข้ารับการผ่าตัด ไม่ควรรับประทานกีวี่ก่อนการผ่าตัดอย่างน้อย 2 สัปดาห์ เพราะกีวี่อาจทำให้เลือดแข็งตัวช้าลง และอาจทำให้เลือดไหลออกมามากในระหว่างการผ่าตัด