ผมร่วงเป็นหย่อม โรคไม่ร้ายแรงแต่ส่งผลต่อใจ

ผมร่วงเป็นหย่อม (Alopecia Areata) จัดอยู่ในกลุ่มโรคภูมิต้านเนื้อเยื่อของตนเอง (Autoimmune Disease) โรคนี้จะส่งผลให้ขน ผม หรือหนังศีรษะของผู้ป่วยหลุดเป็นหย่อม ๆ ไม่เท่ากัน แม้ว่าอาการที่เกิดขึ้นจะไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต แต่ก็อาจกระทบต่อความมั่นใจหรือสุขภาพจิตของผู้ป่วยอยู่ไม่น้อย

ผมร่วงเป็นหย่อมเกิดขึ้นได้กับทุกเพศ ส่วนมากมักพบในวัยรุ่นไปจนถึงวัยผู้ใหญ่ตอนต้น ปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด และไม่มีวิธีป้องกันโรคผมร่วงเป็นหย่อมได้ มาดูกันว่าข้อมูลที่ควรรู้เกี่ยวกับโรคผมร่วงเป็นหย่อมนั้นมีอะไรบ้าง 

ผมร่วงเป็นหย่อม โรคไม่ร้ายแรงแต่ส่งผลต่อใจ

อาการของผมร่วงเป็นหย่อมและผลกระทบต่อสุขภาพจิต

ผมร่วงเป็นหย่อมจะเริ่มแสดงอาการให้เห็นได้จากความผิดปกติของผมหรือขนในบริเวณต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น

  • ผม ขนคิ้ว ขนตา หนวด ขนรักแร้ หรือขนในบริเวณอื่น ๆ ร่วงอย่างฉับพลันจนเห็นเป็นวงอย่างชัดเจน โดยผิวหนังบริเวณที่ขนหรือผมหลุดร่วงไปมักจะดูเรียบเนียน หากเป็นบริเวณหนังศีรษะมักไม่พบความผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย
  • ผมหรือขนที่ขึ้นใหม่ใกล้กับบริเวณที่มีอาการจะเปราะ หักง่าย และเห็นเป็นตอ
  • รู้สึกแสบ คัน เกิดเหน็บ หรือกดเจ็บในบริเวณที่มีอาการผมร่วง
  • อาจมีผมหรือขนขึ้นใหม่แต่เป็นสีขาวในช่วงแรก ก่อนจะค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีธรรมชาติในเวลาต่อมา
  • บางรายอาจเกิดความผิดปกติเกี่ยวกับเล็บ เช่น เกิดหลุมหรือร่องเล็ก ๆ บนผิวเล็บ ผิวเล็บแตกหรือเกิดเป็นรอยแดง

แม้ว่าโรคผมร่วงเป็นหย่อมจะไม่ได้เป็นโรคร้ายแรง แต่อาการที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่กระทบต่อรูปลักษณ์ภายนอกซึ่งอาจสร้างผลกระทบทางใจได้ เช่น ทำให้รู้สึกทุกข์ใจ วิตกกังวล หวาดระแวง ซึมเศร้า กลัวสังคม (Social Phobia) ความสนใจต่อสิ่งต่าง ๆ รอบตัวลดลง และอาจมองเห็นคุณค่าในตัวเองน้อยลง ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจกระทบต่อบุคลิกภาพ การใช้ชีวิตประจำวัน และประสิทธิภาพในการทำงานมากกว่าที่คิด

ผมร่วงเป็นหย่อมรักษาได้ไหม

ผมร่วงเป็นหย่อมเป็นโรคที่ยังไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่แพทย์จะบรรเทาอาการที่เกิดขึ้นด้วยการใช้ยาชนิดต่าง ๆ เช่น ยาไมนอกซิดิล (Minoxidil) หรือยาแอนทราลิน (Anthralin) ในรูปแบบของยาทาภายนอก ควบคู่ไปกับการใช้ยาคอร์ติโคสเตียรอยด์ (Corticosteroids) ในรูปแบบของยาทาภายนอก ยารับประทาน หรือยาฉีดเข้าผิวหนังในบริเวณที่มีอาการ 

ในกรณีที่ผู้ป่วยมีรอยผมร่วงหลายตำแหน่ง แพทย์อาจรักษาด้วยการทำภูมิคุ้มกันบำบัดเฉพาะที่ (Topical Immunotherapy) โดยแพทย์จะทาสารก่อภูมิแพ้ลงไปบนผิวหนังที่ผมหรือขนร่วงไปแล้วเพื่อให้เกิดการระคายเคือง จากนั้นจึงเพิ่มระดับความเข้มข้นของสารก่อภูมิแพ้ไปจนถึงระดับที่ช่วยกระตุ้นให้ผมหรือขนกลับมางอกใหม่อีกครั้งได้

เพื่อให้ใช้ชีวิตได้ตามปกติและมีความสุขระหว่างการรักษาผมร่วงเป็นหย่อม ผู้ป่วยอาจใช้แฮร์พีซ วิก หรือเครื่องสำอางเพื่อปกปิดบริเวณที่ผมร่วง ทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ สวมแว่นกันแดดหากขนตาหรือขนคิ้วร่วง รับประทานอาหารที่มีประโยชน์เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหาร แร่ธาตุ และวิตามินในปริมาณที่เหมาะสม รวมทั้งคลายความเครียดด้วยการพูดคุยกับคนรอบข้าง นั่งสมาธิ เล่นโยคะ นวด หรือทำกิจกรรมที่ต้องการ 

อย่างไรก็ตาม หากสังเกตเห็นว่าตนเองมีอาการของโรคผมร่วงเป็นหย่อมหรือมีผมร่วงผิดปกติในรูปแบบอื่น ๆ ก็ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุของความผิดปกติและรับการรักษา เพราะหากได้รับการรักษาตั้งแต่ในระยะเริ่มต้น ก็อาจช่วยป้องกันอาการผมร่วงที่รุนแรงได้ ซึ่งจะทำให้เราสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมั่นใจและมีความสุขอย่างที่ต้องการ