Minoxidil (ไมนอกซิดิล)

Minoxidil (ไมนอกซิดิล)

Minoxidil (ไมนอกซิดิล) เป็นยาขยายหลอดเลือดที่มีฤทธิ์ให้หลอดเลือดขยายตัว โดยนำมาใช้รักษาความดันโลหิตสูงที่ทำให้เกิดอาการต่าง ๆ หรือทำลายอวัยวะที่สำคัญ ยาไมนอกซิดิลอาจนำมาใช้ร่วมกับยาอื่น ๆ อีก 2 ชนิด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรง ที่สำคัญยารับประทานต้องสั่งโดยแพทย์เท่านั้น นอกจากนั้น ยาไมนอกซิดิลแบบใช้เฉพาะที่ จะนำมาใช้ในการรักษาศีรษะล้านอีกด้วย

Minoxidil

เกี่ยวกับยา Minoxidil

กลุ่มยา ยาลดความดันโลหิต (Antihypertensive)
ประเภทยา ยาตามใบสั่งแพทย์
สรรพคุณ ลดความดันโลหิตสูง รักษาศีรษะล้าน
กลุ่มผู้ป่วย เด็ก ผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ สตรีมีครรภ์ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการใช้ยา
รูปแบบของยา ยาเม็ด ยาทา โฟม สเปรย์

 คำเตือนเกี่ยวกับยา Minoxidil

  • โดยปกติ ยาไมนอกซิดิลจะใช้ร่วมกับยาอื่นอีก 2 ชนิดเพื่อป้องการเกิดผลข้างเคียง และต้องใช้ยาตามที่แพทย์สั่ง
  • หลีกเลี่ยงการใช้ยาไมนอกซิดิล หากพบว่ามีประวัติแพ้ยา หรือเป็นเนื้องอกต่อมหมวกไต (Pheochromocytoma) และเพื่อให้แน่ใจว่ายาไมนอกซิดิลมีความปลอดภัยกับผู้ใช้ ควรแจ้งกับแพทย์ทุกครั้งหากผู้ใช้มีภาวะหัวใจล้มเหลว เจ็บหน้าอก หรือเป็นโรคหัวใจ โรคไต หอบหืด ไมเกรน หรือโรคลมชัก
  • ควรติดต่อแพทย์ หากมีอาการเจ็บหน้าอก หายใจเร็ว หอบเหนื่อย (แม้ขณะที่กำลังนอนอยู่) มีอาการเจ็บเวลาหายใจ หรือหัวใจเต้นเร็ว
  • ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่ายาไมนอกซิดิลมีอันตรายต่อเด็กในครรภ์ อย่างไรก็ตาม หากสตรีตั้งครรภ์ใช้ยานี้ระหว่างตั้งครรภ์ จะพบว่าทารกแรกเกิดจะมีเส้นผมที่เติบโตเร็วมากกว่าปกติ ดังนั้นควรแจ้งและปรึกษาแพทย์หากกำลังตั้งครรภ์หรือวางแผนจะมีบุตร
  • ยาไมนอกซิดิล สามารถผ่านเข้าสู่นมแม่ได้และอาจทำให้เป็นอันตรายต่อบุตร ดังนั้นจึงไม่ควรใช้ยานี้ระหว่างให้นมบุตร
  • ห้ามให้เด็กใช้ยานี้หากไม่ได้รับคำแนะนำหรือปรึกษาแพทย์

ปริมาณการใช้ยา Minoxidil

ยารับประทาน รักษาความดันโลหิตสูงรุนแรงที่ไม่ตอบสนองต่อยาอื่น ๆ

  • เด็ก อายุน้อยกว่าหรือเท่ากับ 12 ปี ใช้ร่วมกับยาที่ลดอัตราการเต้นของหัวใจ ได้แก่ ยาเบต้า บล็อกเกอร์ (Beta Blocker) หรือยาเมทิลโดปา (Methyldopa) และยาขับปัสสาวะ ขนาดรับประทานเพื่อการรักษาเริ่มต้น: ใช้ 0.2 มิลลิกรัม ใช้ 1 ครั้ง หรือแบ่งเป็น 2 ครั้ง และเพิ่มขึ้นครั้งละ 0.1-0.2 มิลลิกรัม ในช่วงเวลาอย่างน้อย 3 วัน ใช้ยาสูงสุดไม่เกิน 1 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม หรือ 50 มิลลิกรัม ต่อวัน
  • ผู้ใหญ่ ใช้ร่วมกับยาที่ลดอัตราการเต้นของหัวใจ ได้แก่ ยาเบต้า บล็อกเกอร์ (Beta Blocker) หรือยาเมทิลโดปา (Methyldopa) และยาขับปัสสาวะ ขนาดรับประทานเพื่อการรักษาเริ่มต้น: ใช้ 5 มิลลิกรัม ต่อวัน จากนั้นค่อย ๆ เพิ่มปริมาณขึ้นในช่วงเวลาอย่างน้อย 3 วัน เพิ่มเป็น 40 มิลลิกรัม หรือ 50 มิลลิกรัม รับประทานในครั้งเดียว หรือแบ่งเป็น 2 ครั้ง ตามแพทย์สั่ง รับประทานได้สูงสุดไม่เกิน 100 มิลลิกรัมต่อวัน
  • ผู้สูงอายุ ขนาดรับประทานเพื่อการรักษาเริ่มต้น 2.5 มิลลิกรัมต่อวัน และค่อย ๆ เพิ่มปริมาณตามแพทย์สั่ง

ยาใช้เฉพาะที่ รักษาศีรษะล้าน

  • ผู้ชาย
    • ใช้ยาชนิดสารละลายบนหนังศีรษะ 2% หรือ 5% ใช้ปริมาณ 1 มิลลิลิตรที่หนังศีรษะ
    • ยาชนิดโฟมหรือสเปรย์พ่นลงบนหนังศีรษะ 5% ใช้ปริมาณครึ่งถ้วยลงบนหนังศีรษะ
    • ยาชนิดโฟมหรือสเปรย์พ่นลงบนหนังศีรษะ 5% ใช้ปริมาณครึ่งถ้วยลงบนหนังศีรษะ
  • ผู้หญิง
    • ยาชนิดสารละลายใช้บนหนังศีรษะ 2% ใช้ปริมาณ 1 มิลลิลิตรที่หนังศีรษะ
    • ยาชนิดโฟมหรือสเปรย์พ่นลงบนหนังศีรษะ 5% ใช้ปริมาณครึ่งถ้วยลงบนหนังศีรษะ วันละครั้ง

ข้อแนะนำในการใช้ยา Minoxidil

  • สำหรับยาชนิดสารละลาย ควรใช้บนหนังศีรษะเท่านั้น ห้ามใช้ที่บริเวณอื่นในร่างกาย
  • ใช้ทาลงบนหนังศีรษะโดยตรงและนวดด้วยนิ้วมือ
  • ล้างมือทุกครั้งหลังจากการใช้ยา
  • อ่านคำเตือนและทำตามคำแนะนำตามฉลาก
  • สำหรับยาชนิดโฟม โฟมจะสามารถละลายได้หากสัมผัสกับนิ้วมือที่อุ่น ควรล้างมือกับน้ำเย็นและเช็ดให้แห้งสนิทก่อนการใช้ยา

การใช้ยา Minoxidil

ใช้ยาตามคำแนะนำบนฉลากอย่างเคร่งครัด แพทย์อาจเปลี่ยนแปลงปริมาณการใช้ยาเพื่อให้ผู้ป่วยได้รับผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ห้ามใช้ยานี้ในปริมาณมากเกินไปหรือน้อยเกินไป หรือใช้เป็นเวลานานกว่าที่แพทย์แนะนำ

ยารับประทาน

  • แพทย์อาจให้ผู้ป่วยใช้ยานี้ครั้งแรกที่โรงพยาบาลหรือคลินิกเพื่อดูผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น และเพื่อจะได้รับการรักษาป้องกันได้อย่างทันการณ์
  • อ่านข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวกับผู้ป่วยหรือคู่มือการใช้ยาที่แนบมาให้อย่างละเอียด ห้ามเปลี่ยนปริมาณการใช้ยาหรือตารางการใช้ยาโดยที่แพทย์ไม่ได้แนะนำ
  • ในระหว่างที่ใช้ยาไมนอกซิดิล ผู้ใช้ยาควรวัดอัตราการเต้นของหัวใจด้วยการวัดชีพจร
  • ตรวจสอบน้ำหนักหรือชั่งน้ำหนักตัวเองเสมอขณะที่ใช้ยาไมนอกซิดิล หากพบว่าน้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมากกว่า 2 กิโลกรัมขึ้นไป ควรแจ้งให้แพทย์ทราบ
  • ควรตรวจสอบความดันโลหิตเป็นประจำและตรวจสอบการทำงานของหัวใจด้วยการใช้เครื่องตรวจคลื่นไฟฟ้าของหัวใจ
  • ควรใช้ยานี้ตามคำแนะนำที่กำหนดแม้ว่าจะมีอาการดีขึ้นแล้วก็ตาม เนื่องจากความดันโลหิตสูงมักจะไม่แสดงอาการให้เห็น นอกจากนั้นในบางรายอาจต้องใช้ยาลดความดันไปตลอดชีวิต
  • อย่าแบ่งยานี้ให้ผู้อื่นใช้ แม้จะมีอาการที่คล้าย ๆ กัน
  • หากลืมใช้ยา ให้ใช้ยานี้ในทันทีที่นึกขึ้นได้ หรือหากลืมใช้ยามาเป็นเวลานานและใกล้กับเวลาที่ต้องรับประทานถัดไป ก็ให้ข้ามมื้อที่ลืม ห้ามรับประทานยาเพิ่มเพื่อเป็นการทดแทนครั้งที่ขาด
  • หากรับประทานยาเกินขนาดให้รีบติดต่อเพื่อขอความช่วยเหลือทางการแพทย์ทันที
  • เก็บยาไมนอกซิดิลไว้ที่อุณหภูมิห้อง เก็บให้ห่างจากความชื้นและความร้อน

ยาทา

  • ยาทาจะต้องใช้เฉพาะบนหนังศีรษะเท่านั้น ห้ามใช้กับส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย
  • หลีกเลี่ยงอย่าให้ยาเข้าตา ปาก จมูก หรือเนื้อเยื่อเมือก (Mucous Membranes) อื่น ๆ ในร่างกาย
  • ควรใช้เป็นประจำต่อเนื่องเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี
  • หากใช้ยาด้วยตัวเองและเกิดอาการ ได้แก่ เจ็บหน้าอก หัวใจเต้นเร็ว อ่อนแอ หรือเวียนศีรษะ น้ำหนักตัวเพิ่มฉับพลันหรืออธิบายไม่ได้  มีอาการบวมที่มือหรือเท้า หนังศีรษะระคายเคืองและมีรอยแดง เกิดขนขึ้นที่ใบหน้า หรือหากไม่เห็นว่าผมเจริญเติบโตขึ้นใน 4-6 เดือน ให้ติดต่อพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

ผลข้างเคียงจากการใช้ยา Minoxidil

หากพบว่ามีอาการแพ้ยา ได้แก่ ลมพิษ หายใจลำบาก หน้าบวม ปากบวม ลิ้นบวม หรือคอบวม ให้ติดต่อเพื่อรับการช่วยเหลือทางการแพทย์โดยเร็วที่สุด และหากพบว่ามีอาการต่อไปนี้ ให้รีบพบแพทย์ 

ยารับประทาน

  • มีอาการเจ็บหน้าอก ทั้งที่เพิ่งเป็น หรือที่เป็นอยู่แล้วมีอาการแย่ลง ซึ่งจะเจ็บที่หน้าอกและอาจลามไปที่กรามหรือไหล่
  • หัวใจเต้นเร็ว
  • เกิดอาการบวมที่ขา ข้อเท้า หรือเท้า
  • น้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
  • หายใจถี่
  • รู้สึกหวิว
  • มีของเหลวเกิดขึ้นที่ปอด รู้สึกเจ็บเวลาหายใจ หายใจเร็ว หอบเหนื่อย เวลาเอนตัวนอน หอบ ไอมีเสมหะ
  • เกิดปฏิกริยากับผิวรุนแรง มีไข้ เจ็บคอ บวมที่ใบหน้าหรือลิ้น แสบตา แสบหรือเจ็บผิว พร้อมกับมีผื่นสีแดงหรือม่วง

ยาใช้เฉพาะที่

  • ผมเปลี่ยนสีหรือผิวสัมผัสที่เปลี่ยนแปลงไป
  • โรคหัวใจ เนื่องจากอาจมีการดูดซึมยาเข้าสู่ร่างกาย
  • ผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจต้องใช้อย่างระมัดระวัง ต้องมีการประเมินความปลอดภัยก่อนการใช้

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดได้ทั่วไป ได้แก่

  • ผมหรือขนตามร่างกายเปลี่ยนสี่ ความยาวหรือความหนา
  • คลื่นไส้และอาเจียน
  • เกิดผื่นคัน
  • เจ็บเต้านมหรืออาการกดเจ็บ

อาจมีผลข้างเคียงอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นได้นอกเหนือจากนี้ หากผู้ป่วยพบว่ามีความผิดปกติหรือผลข้างเคียงใด ๆ ควรไปพบแพทย์เพื่อปรึกษาและหาทางแก้ไขต่อไป