วิธีใส่ผ้าอนามัยอย่างถูกต้องและปลอดภัย

วิธีใส่ผ้าอนามัยอย่างถูกต้องเป็นสิ่งที่ผู้หญิงทุกคนควรรู้ โดยเฉพาะเพศหญิงที่เริ่มเข้าสู่วัยมีประจำเดือน เพราะการใส่ผ้าอนามัยที่ถูกต้องจะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดอาการระคายเคืองบริเวณจุดซ่อนเร้นได้ รวมถึงอาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ กลุ่มอาการท็อกซิกช็อก (Toxic Shock Syndrome) และโรคมะเร็งปากมดลูกด้วย

ผ้าอนามัยที่นิยมใช้กันส่วนใหญ่มี 2 ชนิดคือผ้าอนามัยแบบแผ่นและผ้าอนามัยแบบสอด ผ้าอนามัยแบบแผ่นมักได้รับความนิยมมากกว่าเพราะมีวิธีใส่ที่ง่าย แต่ผ้าอนามัยแบบสอดก็มีข้อดีที่ต่างออกไป เพราะสามารถใส่ในขณะว่ายน้ำหรือทำกิจกรรมที่ต้องเคลื่อนไหวร่างกายมากได้ ดังนั้นสาว ๆ จึงควรศึกษาความแตกต่างของผ้าอนามัยแต่ละชนิด เพื่อที่จะสามารถเลือกใช้ผ้าอนามัยที่เหมาะสมและปลอดภัยต่อตัวเองมากที่สุด 

วิธีใส่ผ้าอนามัย

วิธีใส่ผ้าอนามัยอย่างถูกต้องและปลอดภัย

วิธีการใส่ผ้าอนามัยอย่างถูกต้องและปลอดภัยต่อสุขภาพสามารถทำได้ตามขั้นตอนดังต่อไปนี้

ขั้นตอนง่าย ๆ ในการใส่ผ้าอนามัยแบบแผ่น

ผ้าอนามัยแบบแผ่นมีลักษณะเป็นแผ่นคล้ายผ้าหรือเส้นใยนุ่ม ๆ สีขาว ด้านหลังจะมีแถบกาวสำหรับแปะผ้าอนามัยลงบนกางเกงชั้นใน ซึ่งผ้าอนามัยจะทำหน้าที่ซึมซับเลือดประจำเดือนที่ไหลออกมาจากช่องคลอด โดยวิธีใส่ผ้าอนามัยแบบแผ่นมี 3 ขั้นตอนดังนี้

1. ล้างมือให้สะอาดและเช็ดให้แห้งก่อนใส่ผ้าอนามัย

2. ลอกแผ่นกาวออกจากผ้าอนามัย หากเป็นผ้าอนามัยชนิดมีปีกจะต้องลอกแผ่นกาวเล็ก ๆ ที่ติดอยู่บริเวณปีกของผ้าอนามัยออกด้วย

3. แปะผ้าอนามัยโดยให้ด้านที่มีกาวแนบลงบริเวณกึ่งกลางของเป้ากางเกงชั้นใน หากเป็นผ้าอนามัยชนิดมีปีกจะต้องพับปีกของผ้าอนามัยลงไปที่อีกด้านของเป้ากางเกงชั้นในด้วย จากนั้นสวมกางเกงชั้นในตามปกติ

ส่วนการถอดผ้าอนามัยแบบแผ่น ควรล้างมือให้สะอาดทั้งก่อนและหลังการถอดหรือเปลี่ยนผ้าอนามัยเช่นกัน รวมถึงควรใช้กระดาษห่อผ้าอนามัยให้เรียบร้อยก่อนแล้วค่อยทิ้งลงในถังขยะ เพื่อรักษาสุขอนามัยที่ดีด้วย 

ขั้นตอนง่าย ๆ ในการใส่ผ้าอนามัยแบบสอด

ผ้าอนามัยแบบสอดมีลักษณะเป็นแท่งสำลีอัดแข็งทรงกระบอกขนาดเล็กสำหรับสอดเข้าไปในช่องคลอด การใส่ผ้าอนามัยแบบสอดจะมีความซับซ้อนกว่าการใส่ผ้าอนามัยแบบแผ่น จึงควรอ่านคำแนะนำบนฉลากอย่างละเอียดก่อนการใช้ โดยวิธีใส่ผ้าอนามัยแบบสอดมี 5 ขั้นตอนดังนี้

1. ล้างมือให้สะอาดและเช็ดให้แห้งก่อนใส่ผ้าอนามัย

2. ใช้ท่านั่งยอง ๆ หรือท่ายืนชันเข่าเพื่อให้สามารถใส่ผ้าอนามัยได้ง่ายขึ้น

3. แกะผ้าอนามัยออกจากบรรจุภัณฑ์ บางชนิดอาจมีอุปกรณ์ที่ช่วยในการสอดผ้าอนามัยเข้าไปในช่องคลอดอยู่ในบรรจุภัณฑ์ด้วย

4. ใช้นิ้วดันแท่งสำลีเข้าไปในช่องคลอดโดยให้ปลายเชือกอยู่ด้านนอก หากมีอุปกรณ์ช่วยใส่ให้ใส่อุปกรณ์เข้าไปก่อนแล้วดันแกนของอุปกรณ์เพื่อผลักผ้าอนามัยเข้าไปในช่องคลอด

5. ลองเคลื่อนไหวร่างกายตามปกติ หากใส่ผ้าอนามัยอย่างถูกต้องจะไม่รู้สึกอึดอัดภายในช่องคลอด

ส่วนการถอดผ้าอนามัยแบบสอด ควรล้างมือให้สะอาดทั้งก่อนและหลังการถอดหรือเปลี่ยนผ้าอนามัยเช่นกัน โดยใช้ท่าทางเดียวกับตอนใส่เพื่อความสะดวก จากนั้นจับปลายเชือกที่อยู่ด้านนอกของช่องคลอดและดึงผ้าอนามัยออกมาเบา ๆ และใช้กระดาษห่อผ้าอนามัยให้เรียบร้อยก่อนทิ้งลงในถังขยะ

ในระหว่างนอนหลับสามารถใส่ผ้าอนามัยติดต่อกันได้โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนผ้าอนามัย แต่ควรใช้ผ้าอนามัยชนิดกลางคืนที่สามารถซึมซับได้มาก และควรใช้ผ้าอนามัยแบบแผ่นแทนผ้าอนามัยแบบสอด เพราะการใส่ผ้าอนามัยแบบสอดนานเกินไปอาจทำให้เกิดกลุ่มอาการท็อกซิกช็อก รวมถึงควรหลีกเลี่ยงผ้าอนามัยที่มีการใส่น้ำหอมระงับกลิ่น เพราะอาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองอวัยวะเพศได้

ข้อควรรู้เพิ่มเติมในการใส่ผ้าอนามัย

ก่อนที่จะใช้ผ้าอนามัย คุณควรรู้เคล็ดลับและข้อควรระวังเหล่านี้ เพื่อให้สามารถใช้ผ้าอนามัยได้อย่างเหมาะสมและเกิดความปลอดภัยต่อสุขภาพ 

  • ผ้าอนามัยมีหลายรูปแบบซึ่งสามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสมของแต่ละสถานการณ์ เช่น เลือกใช้ผ้าอนามัยแบบซึมซับมากในวันแรกของการมีประจำเดือน หรือเลือกใช้ผ้าอนามัยแบบบางเมื่อต้องใส่เสื้อผ้ารัดรูป 
  • ควรอ่านคำแนะนำบนฉลากผลิตภัณฑ์ของผ้าอนามัยแต่ละชนิดอย่างละเอียดก่อนใช้ผ้าอนามัย
  • ควรล้างมือให้สะอาดทั้งก่อนและหลังการใส่หรือถอดผ้าอนามัยทุกครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการอาการคันระคายเคืองอวัยวะเพศ หรือการติดเชื้อภายในช่องคลอดตามมา
  • ควรเปลี่ยนผ้าอนามัยแบบแผ่นทุก 3–4 ชั่วโมง และเปลี่ยนผ้าอนามัยแบบสอดทุก 3–5 ชั่วโมง แม้ประจำเดือนจะมาเพียงนิดเดียว เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการหมักหมมของเชื้อแบคทีเรีย
  • ควรเปลี่ยนผ้าอนามัยวันละประมาณ 4–5 แผ่น หรือมากกว่าหากมีปัจจัยอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ประจำเดือนมามาก มีเหงื่อออกมากจากอากาศร้อนหรือจากการออกกำลังกาย

นอกจากการรู้วิธีใส่ผ้าอนามัยอย่างถูกต้องแล้ว คุณควรหมั่นสังเกตอาการผิดปกติที่เกิดขึ้นในระหว่างการใช้ผ้าอนามัย เช่น มีผื่นขึ้น มีอาการคันอวัยวะเพศ หากมีอาการเหล่านี้เกิดขึ้นควรเปลี่ยนยี่ห้อของผ้าอนามัยที่ใช้ หรือไปพบแพทย์หากมีอาการรุนแรง โดยเฉพาะกลุ่มอาการท็อกซิกช็อก ซึ่งเป็นผลข้างเคียงที่ร้ายแรงของการใช้ผ้าอนามัยแบบสอด