ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับหลั่งนอก ความเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์และสุขภาพ

หลั่งนอก เป็นหนึ่งในวิธีที่หลายคนเชื่อกันว่าเป็นการคุมกำเนิดที่ได้ผล เพราะการหลั่งอสุจิภายนอกร่างกายเพศหญิงจะช่วยลดปริมาณอสุจิที่อาจเข้าไปปฏิสนธิได้ อย่างไรก็ตาม ความจริงแล้วการหลั่งนอกเป็นวิธีการป้องกันการตั้งครรภ์ที่มีประสิทธิภาพค่อนข้างต่ำ อีกทั้งยังมีความเสี่ยงอื่น ๆ ที่ควรรู้อีกมากมาย โดยเฉพาะในด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

หลั่งนอกเป็นวิธีคุมกำเนิดที่เกิดขึ้นในระหว่างการมีเพศสัมพันธ์ โดยเมื่อฝ่ายชายถึงจุดสุดยอด จะนำอวัยวะเพศออกจากช่องคลอดของเพศหญิงก่อนที่อสุจิจะหลั่งออกมา เพื่อให้อสุจิหลั่งภายนอกร่างกายเพศหญิงและป้องกันการตั้งครรภ์ อย่างไรก็ตามวิธีนี้ก็ยังมีความเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์อยู่ดี เนื่องจากอาจมีอสุจิบางส่วนที่หลั่งออกมาก่อนที่จะนำอวัยวะเพศออกจากช่องคลอดได้ทัน

หลั่งนอก

ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการหลั่งนอกเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์

การหลั่งนอกไม่ใช่การคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังเป็นวิธีคุมกำเนิดที่แพทย์ไม่ค่อยแนะนำ เพราะแม้จะหลั่งอสุจิภายนอกร่างกายของเพศหญิง แต่ในระหว่างที่นำอวัยวะเพศออกมาจากช่องคลอดก็อาจมีอสุจิบางส่วนหลั่งออกมาแล้ว และทำให้อสุจิเหล่านั้นตกค้างอยู่ภายในและมีโอกาสที่อสุจิเหล่านั้นจะเข้าไปปฏิสนธิได้เช่นกัน

นอกจากนี้ ในระหว่างมีเพศสัมพันธ์ น้ำหล่อลื่นที่ออกมาจากอวัยวะเพศชายจะมีอสุจิปะปนออกมาด้วยอยู่แล้ว แม้จะออกมาในปริมาณน้อยแต่ก็เสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ได้เช่นกัน หากการหลั่งนอกเกิดขึ้นใกล้กับช่องคลอด ก็มีโอกาสที่อสุจิจะเข้าไปด้านในของช่องคลอดได้เพราะน้ำหล่อลื่นของฝ่ายหญิงจะทำให้อสุจิเคลื่อนที่ได้สะดวกขึ้น

สำหรับประสิทธิภาพของการคุมกำเนิดด้วยวิธีหลั่งนอกนั้นขึ้นอยู่กับความเร็วของฝ่ายชายที่จะนำอวัยวะเพศออกจากช่องคลอดหลังจากถึงจุดสุดยอด ก่อนที่อสุจิจะถูกหลั่งออกมา เพราะหากนำออกมาช้าก็จะทำให้มีอสุจิตกค้างอยู่ในช่องคลอดของฝ่ายหญิงได้

ความเสี่ยงและผลข้างเคียงที่อาจเกิดจากการหลั่งนอก

เนื่องจากการหลั่งนอกโดยส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นในระหว่างการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน การหลั่งนอกจึงเป็นวิธีการคุมกำเนิดที่มีความเสี่ยงหลายอย่าง เช่น

  • ความเสี่ยงในการตั้งครรภ์สูงพอ ๆ กับการมีเพศสัมพันธ์แบบปกติ เนื่องจากหากไม่ยังชำนาญก็จะไม่สามารถควบคุมการหลั่งได้ และหากมีเพศสัมพันธ์ต่ออีกครั้งทันที ก็จะยิ่งเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์มากขึ้น เพราะอาจมีอสุจิค้างอยู่ที่ปลายอวัยวะเพศและท่อปัสสาวะ
  • เสี่ยงต่อโรคติดต่อที่เกิดจากเพศสัมพันธ์ต่าง ๆ เช่น โรคหนองใน ซิฟิลิส เริม หูดหงอนไก่ หรือแม้แต่การติดเชื้อเอชไอวี (HIV)
  • กระทบต่อความสุขระหว่างการมีเพศสัมพันธ์ เนื่องจากฝ่ายชายจะต้องระมัดระวังไม่ให้เกิดการหลั่งอสุจิภายในหลังจากถึงจุดสุดยอด ส่วนฝ่ายหญิงอาจมีความรู้สึกที่ไม่ดี และไม่อิ่มเอมกับเพศสัมพันธ์ที่มีเท่าที่ควร และอาจนำไปสู่ปัญหาเรื่องความสัมพันธ์ได้ในที่สุด

อย่างไรก็ตาม หากคู่รักคู่ใดที่ไม่ค่อยมีความกังวลว่าจะเกิดการตั้งครรภ์โดยไม่ถึงประสงค์ ก็สามารถใช้การหลั่งนอกเป็นตัวเลือกได้ โดยอาจใช้การนับวันปลอดภัยร่วมด้วย และก่อนมีเพศสัมพันธ์ฝ่ายชายควรปัสสาวะก่อน เพื่อให้ปัสสาวะกำจัดอสุจิบางส่วน ก็อาจช่วยให้ความเสี่ยงการตั้งครรภ์ลดลงบ้าง

วิธีการคุมกำเนิดให้มีประสิทธิภาพ

แม้ว่าการหลั่งนอกจะมีความเสี่ยง แต่หากรู้วิธีคุมกำเนิดที่ถูกต้องก็จะช่วยลดความเสี่ยงในการตั้งครรภ์ได้ ซึ่งอาจลดความเสี่ยงได้ด้วยการใช้วิธีคุมกำเนิดอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ห่วงคุมกำเนิด ยาคุม หรือถุงยางอนามัย เพราะแม้ฝ่ายชายจะนำอวัยวะเพศออกมาจากช่องคลอดไม่ทันแต่ก็ยังช่วยคุมกำเนิดได้ โดยเฉพาะถุงยางอนามัย เพราะสามารถคุมกำเนิดและป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ในเวลาเดียวกัน

ทั้งนี้ หากเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้น เช่น ฝ่ายชายเกิดการหลั่งของอสุจิก่อนที่จะนำอวัยวะเพศออกมาจากช่องคลอด การรับประทานยาคุมฉุกเฉินก็อาจช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ได้ โดยประสิทธิภาพจะอยู่ที่ประมาณ 80% และขึ้นอยู่กับว่าฝ่ายหญิงรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินเมื่อไร เพราะหากยิ่งรับประทานเร็วก็จะยิ่งป้องกันได้มากขึ้น