ถามแพทย์

  • มีเพศสัมพันธ์แบบหญิง-หญิง ช่วงแรกมีเลือดออก ต่อมามีปวดท้องมา 2-3 สัปดาห์ ปวดท้องบิด รักษาอย่างไร

  •  cchhhhh
    สมาชิก
    คือเราเป็นคู่รักแบบญญ ค่ะแล้วมีอะไรกันตอนแรกเลือดจะออกค่ะ แล้วหลังๆมา 1-2วัน เค้าจะมีอาการปวดท้องค่ะปวดมากๆ เป็นมา2-3 อาทิตย์แล้วค่ะ ไม่หายสักทีแต่หลังมานี้ก็ไม่มีอาการเลือดออกแล้วค่ะแต่อาการปวดท้องยังมีอยู่ อาการยังปวดแรงเหมือนเดิม เข้าห้องน้ำเค้าก็มันจะเจ็บด้วยค่ะตรงท้องมันจะมีอาการบิดด้วยอะคะ ไม่แน่ใจว่าจะต้องรักษาเบื้องต้นยังไงคะพอดีเค้าไม่มีเวลาไปหาหมอเลยเลยจะสอบถามว่า ควรกินยาชนิดไหนอ่ะคะ

    สวัสดีค่ะ คุณ cchhhhh,

                         การมีเลือดออกหลังจากที่มีเพศสัมพันธ์ อาจเกิดจากการบาดเจ็บของเยื่อบุช่องคลอดได้ ซึ่งหากเลือดได้หยุดไหลไปแล้ว ก็ไม่ได้อันตรายอะไร ส่วนอาการปวดท้องที่เกิดตามมา โดยเป็นมา 2-3 สัปดาห์แล้ว อาจเกิดจาก

                       - มดลูกอักเสบ ซึ่งหากมีการใช้นิ้วหรืออุปกรณ์สิ่งของต่างๆ สอดใส่เข้าช่องคลอด  ก็อาจเป็นการนำพาเชื้อโรคในช่องคลอดเข้าสู่มดลูก และทำให้เกิดมดลูกอักเสบได้

                       - มีโรคของมดลูกและรังไข่ เช่น เนื้องอกมดลูก เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ ช็อกโกแลตซีสต์ เป็นต้น แต่มักจะทำให้มีอาการปวดท้องน้อยขณะมีประจำเดือนมา ส่วนในช่วงที่ไม่มีประจำเดือน มักจะไม่ได้ปวดมาก และมักมีประจำเดือนที่ผิดปกติด้วย

                        - มีโรคของกระเพาะปัสสาวะ เช่น กระเพาะปัสสาะวอักเสบ นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ เป็นต้น  แต่น่าจะมีอาการปัสสาวะที่ผิดปกติด้วย

                          แนะนำว่าควรไปพบสูติ-นรีแพทย์เพื่อหาสาเหตุ ไม่ควรซื้อยาทานเอง แต่สามารถซื้อยาแก้ปวดบรรเทาอาการปวดท้องไปก่อนได้ เช่น พาราเซตามอล ไอบูโพนเฟน เป็นต้น และควรงดการมีเพศสัมพันธ์ไปก่อนชั่วคราวด้วยค่ะ