หวัดลงคอ อาการและความหมายที่หลายคนอาจเข้าใจผิด

หวัดลงคอ เป็นภาษาพูดที่ไม่ได้มีการนิยามอาการและสาเหตุที่แน่ชัด อีกทั้งยังไม่ใช่ศัพท์ที่ใช้กันในทางการแพทย์ จึงอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดและสับสนกันอยู่ไม่น้อย เพราะอาการไอ จาม คัดจมูก และเจ็บคอนั้นพบได้ในหลายโรค จึงทำให้คนมักเข้าใจผิด บางคนเข้าใจว่าเป็นอาการจากโรคภูมิแพ้ บ้างก็เข้าใจว่าเป็นอาการจากโรคหวัดที่เกิดจากการติดเชื้อ

อย่างที่ได้กล่าวไปว่าอาการไอ จาม มีน้ำมูก คัดจมูก และเจ็บคอเป็นอาการที่พบได้บ่อยมาก แต่การจะรักษาอาการเหล่านี้อย่างถูกต้องและปลอดภัยนั้นจำเป็นต้องทราบสาเหตุที่แท้จริงของโรค ซึ่งความเข้าใจผิดเกี่ยวกับคำว่าหวัดลงคอก็อาจส่งผลต่อการใช้ยาและการรักษาด้วยตนเองได้ โดยในบทความนี้จะให้ความรู้เกี่ยวกับการจำแนกอาการหวัดลงคอกับสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการดังกล่าวขึ้น

หวัดลงคอ

หวัดลงคอจากโรคภูมิแพ้

คนไทยจำนวนไม่น้อยที่เข้าใจว่าโรคหวัดลงคอ คือ โรคภูมิแพ้อากาศหรือที่ทางการแพทย์เรียกว่า โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ (Allergic Rhinitis) โรคนี้มีสาเหตุจากการที่ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายไวต่อสารบางอย่างมากเกินไป ส่วนใหญ่มักจะเป็นไรฝุ่น ละอองเกสรดอกไม้ เชื้อรา รังแคจากสัตว์เลี้ยง สารเคมี น้ำหอม บุหรี่ และควันรถยนต์ หากผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ได้สัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้เหล่านี้ อาจทำให้เกิดอาการคัดจมูก ไอ จาม น้ำมูกไหล เจ็บคอ คันปาก คันคอ คันตา หรือตาบวมได้

แม้ว่าจะเรียกอาการเหล่านี้จนติดปากว่าเป็นหวัดลงคอและมีคำว่าหวัด แต่อาการที่เกิดจากโรคภูมิแพ้จะไม่ทำให้มีไข้อย่างที่โรคไข้หวัดเป็น ดังนั้น หากมีอาการดังกล่าวและต้องการใช้ยารักษาหรือไปพบแพทย์ ควรแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรให้ทราบถึงโรคประจำตัวของตนเอง โดยเฉพาะโรคภูมิแพ้

ในเบื้องต้น การรักษาโรคหวัดลงคอจากภูมิแพ้นั้นควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ เช่น 

  • สวมหน้ากากอนามัยเมื่อต้องออกจากบ้าน 
  • ทำความสะอาดบ้านอยู่เสมอ โดยเฉพาะเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากผ้า 
  • รักษาความสะอาดของสัตว์เลี้ยง 
  • เมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูที่มีลมแรง ควรปิดหน้าต่างและประตูให้มิดชิดเพื่อป้องกันละอองเกสรและเชื้อราเข้ามาภายในบ้าน 
  • ใช้ยาแก้แพ้เพื่อช่วยบรรเทาอาการแพ้อากาศ แต่ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยาเสมอ

หวัดลงคอจากโรคหวัด

ในทางการแพทย์แล้วอาการหวัดลงคอมักหมายถึง อาการคออักเสบหรือคอหอยอักเสบ (Pharyngitis) ที่เกิดจากการติดเชื้อ เดิมทีโรคหวัดนั้นเป็นการติดเชื้อไวรัสบริเวณระบบทางเดินหายใจส่วนบน มักทำให้เกิดอาการไอ จาม คัดจมูก น้ำมูกไหล และมีไข้ เมื่อเชื้อหวัดลามลงไปในคอจึงทำให้เกิดอาการคออักเสบและเจ็บคอได้ 

ความแตกต่างของอาการหวัดลงคอที่เกิดจากภูมิแพ้และที่เกิดจากเชื้อหวัด คือ เชื้อหวัดมักจะทำให้เป็นไข้และส่งผลให้น้ำมูกเหนียวมีสีเหลืองหรือสีเขียวที่เป็นสัญญาณของการติดเชื้อ ซึ่งพบได้ทั้งการติดเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย ดังนั้น เมื่อไปพบแพทย์จึงควรแจ้งอาการให้แพทย์ทราบอย่างละเอียด

โดยส่วนใหญ่ โรคหวัดที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสมักไม่อันตรายและหายได้เองตามกลไกของร่างกาย ไม่จำเป็นต้องใช้ยาปฏิชีวนะหรือยาฆ่าเชื้อ ซึ่งอาการจากโรคหวัดอาจบรรเทาได้ด้วยยาแก้ไข้ ยาแก้ปวด ยาแก้ไอ และยาลดน้ำมูกขึ้นอยู่กับอาการ โดยยาเหล่านี้หาซื้อได้ทั่วไปตามร้านขายยา แต่เพื่อความปลอดภัยในการใช้ ควรแจ้งอาการกับเภสัชกรโดยละเอียด โดยเฉพาะผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรือมีโรคประจำตัว

นอกจากการรักษาด้วยยาแล้ว ผู้ป่วยจากโรคหวัดควรดูแลตนเองด้วยวิธีอื่น ๆ เพื่อช่วยรักษาสมดุลของร่างกายและอาจช่วยให้อาการหวัดหายได้เร็วขึ้น เช่น 

ด้วยอาการที่คล้ายคลึงกันจึงไม่น่าแปลกที่หลายคนเข้าใจผิด แต่เพื่อการรักษาและการดูแลตนเองที่ถูกต้องในยามเจ็บป่วย จึงควรสังเกตอาการของตนเองอย่างละเอียด และเมื่อไปพบแพทย์หรือเภสัชกร ควรหลีกเลี่ยงคำว่าหวัดลงคอและใช้วิธีอธิบายอาการ โรคประจำตัว และประวัติการรักษา เพื่อหลีกเลี่ยงการเข้าใจผิดระหว่าง 2 ฝ่าย แม้ว่าทั้ง 2 โรคนี้ไม่ได้เป็นโรคที่เป็นอันตรายร้ายแรง แต่หากมีการต่อเนื่องกันนาน อาการรุนแรงขึ้นจนส่งผลต่อการใช้ชีวิต ควรไปพบแพทย์เพื่อความปลอดภัย

เราอาจลดความเสี่ยงของทั้ง 2 โรคนี้ด้วยการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันโดยการออกกำลังกายอย่างเหมาะสมและเป็นประจำ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ รวมไปถึงการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะผักและผลไม้ เนื่องจากทั้ง 2 โรคนี้มีจุดร่วมเดียวกัน คือ ระบบภูมิคุ้มกัน ซึ่งโรคภูมิแพ้เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันที่ไวกว่าปกติ ขณะที่โรคหวัดเกิดจากการต่อต้านเชื้อของระบบภูมิคุ้มกัน ดังนั้น ผู้ที่ป่วยจากโรคเหล่านี้บ่อยครั้งอาจลองหันมาดูแลตนเองด้วยวิธีในข้างต้นเพื่อสุขภาพที่แข็งแรง