กะพริบตาบ่อย เรื่องทั่วไปหรือสัญญาณสุขภาพที่ควรระวัง

การกะพริบตาเป็นกลไกของร่างกายทั่วไป แต่หากคุณมีอาการกะพริบตาบ่อยเกินไปก็อาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพด้วยเช่นกัน โดยการกะพริบตาบ่อยอาจมีสาเหตุมาจากการระคายเคืองตา หรืออาจเกิดจากสาเหตุอื่น ๆ ได้อีกหลายประการ อาการกะพริบตาบ่อยส่วนใหญ่ไม่อันตรายและสามารถรักษาได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเองที่บ้าน

การกะพริบตาเป็นกลไกของร่างกายในการปกป้องดวงตา ซึ่งมักจะเกิดขึ้นอย่างอัตโนมัติเมื่อดวงตาแห้งหรือมีสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่ดวงตา โดยการกะพริบตาจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ดวงตา ช่วยปกป้องดวงตาจากแสงจ้าหรือสิ่งระคายเคือง เช่น ฝุ่น ควัน อย่างไรก็ตาม หากมีการกะพริบตาบ่อยอย่างผิดปกติ ควรไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยหาสาเหตุและรับการรักษาอย่างเหมาะสม

กะพริบตาบ่อย

6 สาเหตุที่อาจทำให้เกิดอาการกะพริบตาบ่อย

อาการกะพริบตาบ่อยสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ดังนี้

1. อาการระคายเคืองตา

ผู้ที่กะพริบตาบ่อยอาจมีสาเหตุมาจากการระคายเคืองตา โดยอาจเกิดจากการที่ตาแห้งหรือการมีสิ่งแปลกปลอมเข้าไปภายในดวงตา ไม่ว่าจะเป็นขนตา ฝุ่น หรือสิ่งสกปรก ทำให้ต้องกะพริบตาบ่อยเพื่อกระตุ้นการหลั่งน้ำตาออกมาเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ดวงตา หรือเพื่อขจัดสิ่งแปลกปลอมออกจากดวงตา

2. การใช้สายตามากเกินไป

การใช้สายตามากเกินไป เช่น การอ่านหนังสือเป็นเวลานาน การจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือ รวมถึงการอยู่ในที่ที่มีแสงจ้าหรือแสงกะพริบเป็นเวลานาน จะทำให้ดวงตาเกิดอาการตาแห้ง ตาล้า ปวดเมื่อยดวงตา และอาจทำให้เกิดอาการกะพริบตาบ่อยตามมาได้ 

3. โรคตาแห้ง

การกะพริบตาบ่อยอาจมีสาเหตุมาจากโรคตาแห้ง โดยมีสาเหตุหลายประการที่ทำให้เกิดโรคตาแห้ง เช่น การมีอายุเกิน 50 ปี การสูบบุหรี่ การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การใช้ยาบางชนิด การใส่คอนแทคเลนส์ การอยู่ในที่ที่มีอากาศแห้ง หนาวเย็น มีลมแรง หรือมีฝุ่นมาก รวมถึงในอาคารที่มีการเปิดแอร์ตลอดเวลาด้วย ซึ่งสาเหตุเหล่านี้อาจส่งผลให้เกิดอาการกะพริบตาบ่อยได้

4. อาการภูมิแพ้

การกะพริบตาบ่อยอาจเกิดจากปฏิกิริยาของร่างกายที่ตอบสนองต่อสารก่อภูมิแพ้ที่เข้ามาภายในดวงตา เช่น ฝุ่น ละอองเกสรดอกไม้ สะเก็ดผิวหนังของสัตว์ ทำให้เกิดอาการภูมิแพ้ขึ้นตา ซึ่งจะมีอาการตาแดง คันตา น้ำตาไหล และกะพริบตาบ่อยเกิดขึ้น นอกจากนี้ ภาวะเยื่อบุตาอักเสบซึ่งมักเกิดจากการติดเชื้อไวรัสหรือเชื้อแบคทีเรีย ก็อาจทำให้เกิดอาการกะพริบตาบ่อยได้เช่นกัน

5. ปัญหาสายตา

ปัญหาสายตาไม่ว่าจะเป็นสายตาสั้น สายตายาว หรืออาการตาเหล่ สามารถทำให้เกิดอาการกะพริบตาบ่อยได้ เพราะหากปัญหาเหล่านี้ไม่ได้รับการรักษาหรือแก้ไขอย่างเหมาะสม เช่น การใส่แว่นสายตา หรือการผ่าตัดเพื่อแก้ปัญหาสายตา จะทำให้เกิดอาการกะพริบตาบ่อย และอาจส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันด้วย

6. ปัญหาสุขภาพบางอย่าง

โรคหรือปัญหาสุขภาพบางอย่างที่ทำให้เกิดการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อดวงตาที่ผิดปกติ อาจเป็นสาเหตุของอาการกะพริบตาบ่อยได้ โดยมักเป็นโรคที่เกี่ยวกับความผิดปกติของระบบประสาทและการเคลื่อนไหว เช่น โรคพาร์กินสัน โรคหนังตากระตุก กลุ่มอาการทูเร็ตต์ (Tourette Syndrome) กลุ่มอาการยึกยือ (Tardive Dyskinesia) หรือโรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง (Multiple Sclerosis)

วิธีรับมืออาการกะพริบตาบ่อยง่าย ๆ ด้วยตัวเอง

อาการกะพริบตาบ่อยส่วนใหญ่เกิดจากสาเหตุทั่วไปที่ไม่เป็นอันตรายร้ายแรงต่อร่างกาย ซึ่งอาจสามารถแก้ไขหรือบรรเทาอาการง่าย ๆ ด้วยตัวเอง ดังนี้

  • หากมีอาการตาแห้งอาจใช้น้ำตาเทียมหยอดตา เพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ดวงตา
  • หากมีอาการภูมิแพ้ขึ้นตาหรืออาการเยื่อบุตาอักเสบ อาจใช้ยาหยอดตาเพื่อช่วยบรรเทาอาการ
  • หลีกเลี่ยงการใช้สายตาติดต่อกันเป็นเวลานาน โดยควรกำหนดเวลาพักสายตาจากการอ่านหนังสือหรือการจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน 
  • หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ที่มีแสงจ้า รวมถึงที่ที่มีสิ่งสกปรกอย่างฝุ่น ควัน หรือมลภาวะ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการตาแห้ง ตาล้า หรืออาการระคายเคืองในดวงตา
  • เข้ารับการตรวจวัดสายตาอย่างสม่ำเสมอและแก้ไขอย่างเหมาะสมหากมีปัญหาสายตา เช่น การใส่แว่นสายตา หรือการทำเลสิก 

อย่างไรก็ตาม หากมีอาการกะพริบตาบ่อยมากเกินไปจนส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น รบกวนการมองเห็น หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ เกิดขึ้นกับดวงตาไม่ว่าจะเป็นอาการตาแดง ปวดตา น้ำตาไหล ตาอักเสบ มีอาการบาดเจ็บหรือมีแผลบริเวณกระจกตา รวมถึงมีปัญหาในการมองเห็น อาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพที่รุนแรงและควรไปพบแพทย์