-
มีไข้ ปวดหัวมาก ปวดเบ้าตา เป็น 5 วันอาการดีขึ้น ต่อมาเป็นอีก อาการเป็นนาน 20 วัน มีคนในหมู่บ้านเป็นหลายคน
-
Aug 24, 2017 at 01:49 PM
สวัสดีครับคุณหมอ ผมไม่สบายเป็นไข้ เป็นหวัดมาประมาณ 20 วันครับ สาเหตุเนื่องจากอะไรไม่รู้ครับ แต่หลังจากน้ำลด(ที่หมู่บ้านน้ำท้วม) ทุกคนก็พากันเป็นไข้เยอะมาก แต่ส่วนใหญ่พากันหายภายใน 2-4 วัน แต่ผมก็กินยาทุกวัน พารา+cpm เข้าวันที่5 ของไข้ผมก็ฉีดยา อาการเริ่มดีขึ้นแต่ในวันเดียวกันลูกผมก็ admid ผมเลยต้องเฝ้าลูกคนเดียวปรากฎว่าคืนนั้นไม่ได้นอนเลย ตื่นเช้ามาอาการของผมหนักมากปวดหัว ปวดเบ้าตาทั้ง 2 ข้าง ไข้ขึ้นสูงและประจวบกับผมต้องทำงานเพื่อรับประเมินด้วย ก็ต้องกินยา และทำงานไม่ค่อยได้พัก วันนี้ ประมาณวันที่ 20 ของอาการปวดหัว ไม่หายลงเลย ปวดตลอดเวลา มีไข้อ่อนๆ บ้างช่วง ไม่มีน้ำมูก ผมอยากทราบว่ามันจะหายไหมเพราะตอนนี้ผมพักทั้งวัน ตื่นมาก็ยังปวดหัวยอยู่ ไม่เคยเป็นครับทรมาณมากAug 24, 2017 at 06:17 PM
สวัสดีค่ะ คุณ Makok Dokjompa,
อาการมีไข้ ปวดหัว ปวดเบ้าตาดังกล่าว อาจเกิดจาก
1. โรคฉี่หนู หรือ leptospirosis เป็นโรคติดเชื้อแบคทีเรียจากสัตว์มาสู่คน โดยสัตว์ที่นำโรค เช่น หนู หมู วัว ควาย เป็นต้น แต่พบว่ามาจากหนูบ่อยที่สุด โดยพบเชื้อโรคอยู่ในปัสสาวะของหนู เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายคนผ่านทางผิวหนังที่มีบาดแผลหรือมีรอยขีดข่วน หรืออาจไชเข้าทางผิวหนังปกติที่เปียกชุ่มจากการแช่น้ำนานๆ หรืออาจไชเข้าทางเยื่อบุตา ปาก จมูก การดื่มน้ำหรืออาหารที่ปนเปื้อนเชื้อก็สามารถเป็นโรคได้ จึงมักพบการระบาดของโรคนี้ในช่วงหน้าฝน ซึ่งมักมีน้ำขัง และน้ำท่วม
จากประวัติที่คุณ Makok Dokjompa เกิดอาการหลังจากน้ำท่วม ประกอบกับมีคนในหมู่บ้านเป็นกันหลายคน จึงมีโอกาสที่จะเป็นโรคนี้ค่ะ โดยอาการแบ่งออกเป็น
- กลุ่มที่ไม่มีอาการ ประมาณ 15 - 40% ของคนที่ติดเชื้อ ไม่แสดงอาการให้ปรากฏ
- กลุ่มอาการไม่รุนแรง พบเป็นส่วนมาก อาการจะแบ่งเป็น 2 ช่วง โดยในช่วงแรก ผู้ป่วยจะมีอาการคล้ายโรคไข้หวัดใหญ่ คือ มีไข้ หนาวสั่น ปวดศีรษะค่อนข้างมาก โดยเฉพาะหลังลูกตา เบ้าตา ไอ เจ็บคอ เจ็บหน้าอก คลื่นไส้ อา เจียน และอาการปวดกล้ามเนื้อปวดน่องและขา อาการอื่นๆ เช่น เยื่อบุตาบวม มีเลือดออกที่เยื่อบุตา มีผื่น ต่อมน้ำเหลืองบริเวณคอหรือรักแร้โต ตับ ม้ามโต อาจมีตัวเหลืองเล็กน้อย ปวดท้องจากตับอักเสบ ตับอ่อนอักเสบ หรือถุงน้ำดีอักเสบ ปวดตามข้อ อุจจาระร่วง อาการจะเป็นอยู่ประมาณ 2 สัปดาห์แล้วหายไป ประมาณ 1 - 3 วันต่อมา อาการจะกลับมาเป็นอีก ซึ่งเป็นลักษณะที่สำคัญอย่างหนึ่งของโรคนี้ อาการจะค่อนข้างหลากหลายกว่าช่วงแรก แต่ที่เป็นลักษณะเฉพาะของอาการในช่วงที่ 2 คือ เกิดภาวะเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ซึ่งผู้ป่วยจะมีอาการต้นคอแข็ง ปวดศีรษะรุนแรง อาเจียน อาการอาจจะเป็นอยู่ 2 - 3 วัน หรืออาจนานหลายสัปดาห์ แต่ในที่สุดอาการจะหายไปโดยไม่มีภาวะแทรกซ้อนเกิดขึ้น
- กลุ่มที่มีอาการแสดงแบบรุนแรง พบประมาณ 5 - 10% ของผู้ป่วยที่ติดเชื้อจมีอัตราการตายประมาณ 10% เริ่มต้น อาการจะเหมือนผู้ป่วยที่อาการไม่รุนแรง ต่อมาจะมีตัวเหลือง ตาเหลืองมาก เกิดภาวะไตวายฉับพลัน ภาวะหายใจล้มเหลว กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ จนกระทั่งเกิดภาวะหัวใจวาย และเสียชีวิตได้ในที่สุด
2. เป็นไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่แล้วเกิดภาวะแทรกซ้อน โดยทั่วไปอาการของโรคไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่จะหายได้เองภายใน 1 สัปดาห์ แต่อาจมีอาการไอ หรืออ่อนเพลียต่อได้นานหลายสัปดาห์ ในบางรายโดยเฉพาะเด็กเล็ก คนสูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัว หรือมีภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ อาจเสี่ยงต่อการเกิดโรคแทรกซ้อน เช่น ไซนัสอักเสบ หูชั้นกลางอักเสบ ปอดบวม เยื่อหุ้มสมองอักเสบ สมองอักเสบ เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ เป็นต้น ซึ่งหากเป็นเยื่อหุ้มสมองอักเสบ จะมีอาการมีไข้สูง ปวดหัวรุนแรง คอแข็ง อาเจียน เป้นต้น
ดังนั้นแนะนำให้คุณ Makok Dokjompa รีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุนะคะ การวอนิจฉัยอาจต้องอาศัยการเจาะเลือดตรวจ หรือหากจำเป็นอาจต้องเจาะน้ำไขสันหลังตรวจค่ะ
-
ถามแพทย์
-
มีไข้ ปวดหัวมาก ปวดเบ้าตา เป็น 5 วันอาการดีขึ้น ต่อมาเป็นอีก อาการเป็นนาน 20 วัน มีคนในหมู่บ้านเป็นหลายคน