ถามแพทย์

  • ปวดประจำเดือนมากมาหลายเดือนแล้ว ปวดรุนแรงขึ้น ได้อัลตราซาวด์แล้วไม่พบอะไร จะรักษาอย่างไร

  •  Eggdog
    สมาชิก
    รบกวนสอบถามคุณหมอค่ะ พอดีตอนนี้มีอาการปวดประจำเดือนมากค่ะ แาการคือเวลาลุกขึ้นแล้วเริ่มเดินจะค่อยๆปวดมากขึ้นค่ะ แต่ถ้ากลับมานอนราบหรือนั่งจะทุเลาลงจนหายปวด ปวดบริเวณแถวๆท้องใต้สะดือค่ะเหนือส่วนท้องน้อยที่เวลาเป็นประจำเดือนจะรู้สึกปวดขึ้นมาอีกปวดแบบเจ็บ เป็นแบบนี้มาหลายเดือนแล้วค่ะลุกไปไหนไม่ได้เลยและเป็นเฉพาะช่วงที่มีประจำเดือน ( ปกติช่วงก่อนเป็นคนที่ปวดประตำเดือนหนักอยู่แล้วแต่ช่วงหลังๆจดที่ปวดเปลี่ยนไปและปวดมากขึ้นค่ะ ปวดจนเดินไม่ได้) แต่เดือนที่แล้วปวดหนักจนอาเจียนออกมาค่ะพออาเจียนแล้วก็รู้สึกดีขึ้นแต่พอสักพักอาการก็กลับมาแล้วก็อาเจียนอีกค่ะถ้าลุกเดิน ตอนนี้ทานยาแก้ปวดและยาพวกพอนสแตนด์พาราเอาไม่อยู่ค่ะ เคยไปอัลตราซาวด์มดลูกมาแต่ไม่พบความผิดปกติ(หลายเดือนมาแล้ว) อยากทราบว่าสามารถรักษาอาการได้อย่างไรบ้างคะในเบื้องต้น มียาแนะนำมั้ยคะ

    สวัสดีค่ะ คุณ Eggdog,

                          หากอาการปวดท้องประจำเดือน เป็นมาตั้งแต่วัยรุ่น หรือเกิดขึ้นในช่วงอายุ 15-25 ปี โดยที่อาการปวดจะเกิดขึ้นก่อนหรือขณะมีประจำเดือนมา และจะหายไปเมื่อประจำเดือนหมดไป ถือเป็นการปวดประจำเดือนชนิดปฐมภูมิ ซึ่งไม่ได้เกิดจากความผิดปกติของมดลูกหรือรังไข่ ดังนั้นจึงไม่ได้อันตรายแต่อย่างใด เชื่อว่ามีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในระหว่างมีประจำเดือน และมาจากสารพรอสตาแกลนดิน ที่หลั่งออกมาจากเยื่อบุโพรงมดลูกมากกว่าปกติและมาออกฤทธิ์ที่มดลูก ทำให้มดลูกมีการบีบเกร็งตัวและเกิดอาการปวดที่บริเวณท้องน้อย ทั้งนี้อาการปวดท้อง จะปวดมากที่สุดในช่วงอายุ 15-25 ปี หลังจากวัยนี้ไปอาการจะค่อย ๆ ลดลง มีเพียงส่วนน้อยที่ยังอาจมีอาการตลอดไปจนถึงวัยหมดประจำเดือนได้

                         แต่หากไม่เคยมีอาการปวดท้องประจำเดือนมาก่อนในช่วงวัยรุ่น และอาการปวดเป็นรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ หรือยังคงปวดต่อเนื่องแม้ประจำเดือนจะหมดไปแล้ว จึงจะถือว่าเป็นอาการปวดประจำเดือนที่ผิดปกติ ซึ่งอาจเกิดจาก การมีเนื้องอกมดลูก มีเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญขึ้นผิดที่ มีซีสต์ที่รังไข่ โดยเฉพาะช็อกโกแลตซีสต์ค่ะ

                         ทั้งนี้ หากเคยไปพบสูติ-นรีแพทย์ และตรวจอัลตราซาวด์แล้วไม่พบความผิดปกติของมดลูกและรังไข่ แต่หากได้ทำมาหลายเดือนแล้ว และต่อมาอาการปวดท้องเป็นมากขึ้น อาจต้องกลับไปพบสูติ-นรีแพทย์เพื่อพิจารณาตรวจซ้ำดูอีกครั้งค่ะ

                         หากยังคงไม่พบความผิดปกติอะไร ก็น่าจะเป็นอาการปวดประจำเดือนชนิดปฐมภูมิ ซึ่งไม่สามารถรักษาให้หายขาด เพียงแต่มีวิธีบรรเทาปวดต่างๆ เช่น การประคบอุ่นที่ท้องน้อยด้วยกระเป๋าน้ำร้อน การอาบน้ำอุ่น การแช่น้ำอุ่นในอ่าง ดื่มน้ำมากๆ หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ น้ำอัดลมหรือช็อกโกแลต ไม่ใส่เสื้อผ้าที่รัดช่วงเอวแน่นเกินไป ทานแก้ปวด เช่น พาราเซตามอล (paracetamol) หรือยาในกลุ่มยาต้านอักเสบชนิดไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAID) เช่น พอนสแตน (ponstan) ไอบูโพรเฟน (ibuprofen) เป็นต้น แต่หากอาการไม่ดีขึ้น การทานยาคุมกำเนิด หรือฉีดยาคุมกำเนิด ก็จะเป็นทางเลือกในลำดับถัดไปค่ะ