ตั้งครรภ์ได้เดือนกว่าๆ แต่ไม่ถ่ายเลย กินอะไรก็อ้วกออกหมด แพ้ท้องมาก มีวิธีแก้ไหม

สวัสดีค่ะ คุณ Bi Kloi,

                     การมีท้องผูกในระหว่างการตั้งครรภ์ช่วงแรก สาเหตุอาจเกิดจากมีการเพิ่มขึ้นของระดับฮอร์โมนโปรเจสเทอโรน ส่งผลให้ลำไส้เคลื่อนตัวและย่อยอาหารได้ช้าลง ทำให้อาการท้องผูกตามมา นอกจากนี้ การที่ทานอาหารได้น้อยจากการแพ้ท้อง ก็ทำให้ไม่มีกากใยอาหารที่จะไปกระตุ้นการขับถ่าย หรือเกิดจากการทานยาธาตุเหล็กเสริม ก็จะมีผลทำให้ท้องผูกได้

                      ในเบื้องต้น ควรรักษาอาการแพ้ท้องให้ดีขึ้นก่อน  ได้แก่

                    - ทานอาหารย่อยง่าย  งดอาหารทอด อาหารมันๆ และอาหารรสจัด เน้นอาหารที่มีโปรตีนและวิตามินบี 6 สูง เช่น ข้าวที่ไม่ขัดสี ข้าวโอ๊ต ปลา ไข่ ถั่วเหลือง ถั่วลิสง มันฝรั่ง แคนตาลูป กะหล่ำปลี เป็นต้น

                   - ทานครั้งละน้อยแต่บ่อยครั้ง เนื่องจากอาการแพ้ท้องมักเกิดขึ้นในช่วงท้องว่าง

                   - ทานอาหารที่อุณหภูมิห้องหรืออาหารเย็น ไม่ทานอาหารที่ร้อน เนื่องจากกลิ่นของอาหารร้อนๆ จะกระตุ้นการอาเจียนได้มากกว่า แต่หากเป็นน้ำดื่มควรเป็นน้ำอุ่นค่ะ

                   - ดื่มน้ำให้เพียงพอ โดยจิบน้ำบ่อย ๆ ระหว่างวัน การจิบน้ำขิงอุ่น ๆ อาจช่วยลดอาการแพ้ท้องได้ หากมีอาเจียนมากอาจดื่มน้ำเกลือแร่เสริม ทั้งนี้ การดื่มน้ำให้มากพอ ก็จะช่วยลดอาการท้องผูกลงได้

                   - มีผลไม้บางชนิดที่อาจช่วยลดอาการแพ้ท้อง ได้ เช่น สับปะรด กล้วย และจะช่วยลดอาการท้องผูกได้ด้วย

                   - พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่นอนดึก

                   - อาการแพ้ท้องส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นในตอนเช้า ดังนั้นอย่าเพิ่งรีบลุกออกจากเตียงทันทีหลังตื่นนอน เพราะจะทำให้คลื่นไส้ได้ง่าย

                   - กลิ่นหอมจากธรรมชาติบางกลิ่นสามารถช่วยลดอาการแพ้ท้องได้ เช่น กลิ่นหอมจากน้ำมันหอมระเหยเปปเปอร์มินต์ หากนำน้ำมันหอมระเหยชนิดไว้ในห้องนอนเวลากลางคืนก็จะช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้องในเช้าของวันถัดมาได้

                  - ทานวิตามินบี 6 เสริม งดการทานยาสเริมธาตุเหล็กและแคลเซียมไปก่อน เพราะอาจยิ่งกระตุ้นให้คลื่นไส้ และท้องผูกด้วย

                   หากอาการแพ้ท้องยังไม่ดีขึ้น รวมถึงยังคงมีอาการท้องผูก ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อพิจารณาจ่ายยารักษาที่เหมาะสมให้ค่ะ และหากยังไม่ได้ฝากครรภ์ ก็ควรหาเวลาไปฝากครรภ์โดยเร็วด้วยค่ะ