ไขความเชื่อ Amoxicillin รักษาไข้หวัดได้จริงหรือ

เมื่อป่วยเป็นหวัดหรือเจ็บคอขึ้นมา เชื่อว่ามีคนจำนวนไม่น้อยเลยที่จะใช้ยา Amoxicillin (อะม็อกซี่ซิลลิน) หรือที่คุ้นเคยกันในชื่อ อะม็อกซี่ เป็นอันดับแรก แต่ความเป็นจริงแล้วนี่เป็นความเชื่อที่ผิด นอกจาก Amoxicillin จะไม่ช่วยฆ่าเชื้อไข้หวัดแล้ว ยังอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาวได้ โดยเฉพาะอาการดื้อยาและอาจผลข้างเคียงที่รุนแรงอื่น ๆ 

เนื่องจาก Amoxicillin เป็นยาที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่บางคนจะขาดความระมัดระวังในการใช้ยาหรือใช้ยาผิดจุดประสงค์โดยไม่รู้ตัว บทความนี้จึงจะมาช่วยไขความจริงเกี่ยวกับยา Amoxicillin และการรักษาไข้หวัด เพื่อการใช้ยาอย่างถูกต้องและปลอดภัยต่อร่างกายมากที่สุด

ไขความเชื่อ Amoxicillin รักษาไข้หวัดได้จริงหรือ

Amoxicillin รักษาไข้หวัดไม่ได้

การรับประทาน Amoxicillin ไม่ได้ช่วยให้อาการไข้หวัดดีขึ้นหรือหายเร็วขึ้นแต่อย่างใด เนื่องจาก Amoxicillin เป็นยาปฏิชีวนะในกลุ่มเพนิซิลลิน (Penicillins) ซึ่งเป็นยาที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียเท่านั้น ในขณะที่ไข้หวัดรวมถึงไข้หวัดใหญ่ มักมีสาเหตุมาจากการติดเชื้อไวรัส ทำให้ Amoxicillin ใช้ไม่ได้ผลในการรักษาหรือบรรเทาอาการต่าง ๆ จากหวัด ทั้งไอ จาม น้ำมูกไหล หรือมีไข้ต่ำก็ตาม 

ยกเว้นในกรณีที่ไข้หวัดก่อให้เกิดการติดเชื้อแบคทีเรียในภายหลัง อย่างไซนัสอักเสบจากแบคทีเรีย ซึ่งพบได้ไม่มากนัก รวมถึงหากแพทย์พิจารณาแล้วว่ายาปฏิชีวนะนั้นมีประโยชน์มากกว่าความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นต่อร่างกาย ผู้ป่วยก็สามารถใช้ยาปฏิชีวนะได้ แต่ต้องทำตามคำสั่งและคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด

แล้ว Amoxicillin ใช้รักษาโรคอะไร  

อย่างที่กล่าวไปแล้วว่า Amoxicillin นั้นจะช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย จึงนำมาใช้รักษาปัญหาสุขภาพที่มีต้นเหตุมาจากเชื้อแบคทีเรีย อาทิ ทอนซิลอักเสบติดเชื้อจากแบคทีเรีย คออักเสบจากแบคทีเรีย หลอดลมอักเสบจากแบคทีเรีย ปอดอักเสบหรือปอดบวมจากแบคทีเรีย การติดเชื้อแบคทีเรียในหู จมูก คอ ผิวหนัง หรือระบบทางเดินปัสสาวะ

ทำไมถึงไม่ควรใช้ Amoxicillin รักษาไข้หวัด

การใช้ยาไม่ถูกโรคหรือใช้ยาปฏิชีวนะอย่างพร่ำเพรื่อนอกจากจะไม่ทำให้อาการไข้หวัดดีขึ้นหรือหายดี ยังอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพต่อไปนี้

1. ประสิทธิภาพของยาลดลงและเชื้อดื้อยา

การใช้ยา Amoxicillin โดยไม่จำเป็นบ่อยครั้งอาจส่งผลให้ตัวยามีประสิทธิภาพลดลงจนอาจใช้ไม่ได้ผล เนื่องจากเชื้อแบคทีเรียในร่างกายจะพัฒนาตัวเองให้ทนทานต่อยาได้มากขึ้นหรือก็คือ ฆ่าไม่ตาย ส่งผลให้ผู้ป่วยต้องใช้ยาในปริมาณมากขึ้นหรือเปลี่ยนไปใช้ยาปฏิชีวนะตัวอื่นที่มีฤทธิ์แรงขึ้น ซึ่งอาจกินเวลานานในการรักษาและเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมาก 

2. เสี่ยงต่อการผลข้างเคียง

ยาปฏิชีวนะไม่เพียงก่อให้เกิดผลข้างเคียงอย่างเวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย แต่ยังมีโอกาสเกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงที่ควรไปพบแพทย์ทันทีด้วย ไม่ว่าจะเป็นอาการแพ้ยา หายใจลำบาก ปวดท้องอย่างรุนแรง ลำไส้ใหญ่ถูกทำลายจากการติดเชื้อในร่างกาย ท้องเสียเป็นน้ำหรือปนเลือด คลื่นไส้หรืออาเจียนไม่หยุด เลือดออกง่าย เจ็บคอหรือไข้ที่ไม่ยอมหายไป และดีซ่าน แม้ว่าจะพบได้น้อย   

ปัญหาเหล่านี้จึงเป็นเหตุผลที่ผู้ป่วยควรไปปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนการรับประทานยาทุกชนิดโดยเฉพาะยาปฏิชีวนะ เพราะหากผู้ป่วยรับประทานยาอย่างเหมาะสมและถูกโรค อาการป่วยก็จะหายเร็วขึ้น ความเสี่ยงของเชื้อดื้อยาและผลข้างเคียงก็จะลดลงด้วย 

อย่างไรก็ตาม หากอาการหวัดของผู้ป่วยไม่ดีขึ้นหรือคงอยู่เป็นเวลานานเกินกว่า 2 สัปดาห์ หรือรับประทานยา Amoxicillin แล้วก่อให้เกิดความผิดปกติหรือผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์อื่น ๆ ควรหยุดใช้ยาและรีบไปพบแพทย์ เพื่อตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติมและรับการรักษาที่เหมาะสมโดยเร็ว