เลนส์โปรเกรสซีฟ (Progressive lenses) เป็นเลนส์ที่ใช้สำหรับการมองในระยะไกล ระยะปกติ หรือระยะใกล้ภายในเลนส์เดียว โดยไม่มีรอยต่อหรือรอยแบ่งระหว่างเลนส์ เลนส์โปรเกรสซีฟอาจเหมาะสำหรับผู้สูงอายุที่มีปัญหาสายตายาวตามอายุ (Presbyopia) หรือภาวะที่มองเห็นในระยะใกล้ไม่ชัดเจน
ผู้ที่มีปัญหาสายตาอื่น ๆ เช่น สายตาสั้นและสายตาเอียง สามารถใช้เลนส์โปรเกรสซีฟได้เช่นกัน โดยเลนส์โปรเกรสซีฟจะช่วยปรับระยะการมองเห็นให้เหมาะสม นอกจากนี้ เลนส์โปรเกรสซีฟยังสามารถใช้กับเด็ก เพื่อป้องกันไม่ให้ค่าสายตาสั้นหรือค่าสายตายาวเพิ่มขึ้นได้อีกด้วย
ข้อดีของเลนส์โปรเกรสซีฟ
นอกจากเลนส์โปรเกรสซีฟจะช่วยแก้ไขเรื่องปัญหาสายตายาว สายตาสั้น และสายตาเอียงแล้ว เลนส์โปรเกรสซีฟยังมีข้อดีอื่น ๆ เช่น
1. ไม่มีภาพกระโดด (Image jump)
ภาพกระโดดเกิดจากการเปลี่ยนจุดโฟกัสในการมองระหว่างเลนส์ระยะไกลและเลนส์ระยะใกล้อย่างกะทันหันเมื่อใช้เลนส์ 2 ชั้นหรือเลนส์ที่มีรอยต่อ ทำให้ภาพของตำแหน่งของวัตถุดูเหมือนเปลี่ยนแปลงไป ในขณะที่เลนส์โปรเกรสซีฟเป็นเลนส์ไร้รอยต่อ เมื่อเปลี่ยนจุดมองผ่านเลนส์ในระยะต่าง ๆ ภาพที่เห็นอาจดูลื่นไหลยิ่งขึ้นและไม่ก่อให้เกิดภาพกระโดด
2. ไม่จำเป็นต้องพกแว่นหลายอัน
เลนส์โปรเกรสซีฟอาจช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ที่มีปัญหาสายตา เนื่องจากคุณสมบัติของเลนส์โปรเกรสซีฟช่วยให้มองเห็นได้ทั้ง 3 ระยะ ทำให้ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแว่นตาหรือพกแว่นตาหลายอันเพื่อใช้ในสถานการณ์ต่าง ๆ เช่น ใช้แว่นตาสำหรับอ่านหนังสือ ใช้แว่นสายตายาวหรือสายตาสั้นเพื่อทำกิจกรรมต่าง ๆ
โดยแต่ละส่วนของเลนส์อาจทำให้มองเห็นภาพที่แตกต่างกัน ดังนี้
- ส่วนบนของเลนส์โปรเกรสซีฟ เหมาะสำหรับการมองเห็นในระยะไกล
- ส่วนกลางของเลนส์โปรเกรสซีฟ เหมาะสำหรัลการมองเห็นในระยะปกติหรือระยะกลาง
- ส่วนล่างของเลนส์โปรเกรสซีฟ ช่วยขยายภาพ จึงเหมาะสำหรับการมองในระยะใกล้
3. ให้ความรู้สึกอ่อนวัย
การใช้เลนส์โปรเกรสซีฟอาจทำให้ดูอ่อนวัยยิ่งขึ้นเพราะคล้ายกับแว่นตาทั่วไป เนื่องจากไม่มีรอยต่อระหว่างเลนส์ ในขณะที่การใช้เลนส์ 2 ชั้นอาจทำให้ผู้สวมใส่รู้สึกมีอายุ เพราะมีรอยต่อระหว่างเลนส์ที่ใช้ในการมองระยะไกลและเลนส์ที่มองระยะใกล้อย่างชัดเจน
ข้อเสียของเลนส์โปรเกรสซีฟ
ข้อเสียของเลนส์โปรเกรสซีฟที่อาจส่งผลต่อการใช้งาน มีดังนี้
1. ราคาสูงกว่าเลนส์ชนิดอื่น
เลนส์โปรเกรสซีฟมีราคาสูงกว่าเลนส์ที่มีค่าสายตาเดียวหรือเลนส์ที่มีค่าสายตา 2 ค่า เนื่องจากเลนส์โปรเกรสซีฟเป็นเลนส์ที่มีค่าสายตาทั้ง 3 ระยะในหนึ่งเลนส์และเป็นเลนส์ไร้รอยต่อ จึงอาจต้องใช้ระยะเวลานานในการผลิต
2. ใช้เวลาในการฝึกมองผ่านเลนส์
เลนส์ 2 ชั้นหรือมักมีรอยต่อระหว่างเลนส์อย่างชัดเจน ทำให้ง่ายต่อการเลือกจุดมอง ในขณะที่เลนส์โปรเกรสซีฟไม่มีรอยต่อระหว่างเลนส์ จึงอาจต้องใช้เวลาในการฝึกมองให้เหมาะสมต่อการใช้งาน เช่น มองผ่านส่วนบนของเลนส์ขณะเดิน หรือมองผ่านส่วนล่างของเลนส์เมื่อใช้อ่านหนังสือ
ระหว่างฝึกใช้งานเลนส์โปรเกรสซีฟ ควรฝึกอย่างระมัดระวัง เพราะอาจเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ เช่น หากมองผ่านส่วนล่างของเลนส์ขณะขึ้นบันได อาจรู้สึกเหมือนเท้าใหญ่ขึ้น ทำให้ไม่สามารถกะระยะการก้าวเท้าและอาจสะดุดล้มหรือตกบันไดได้
3. อาจเกิดอาการเวียนศีรษะขณะใช้เลนส์
บริเวณข้าง ๆ ของเลนส์โปรเกรสซีฟอาจก่อให้เกิดภาพบิดเบี้ยว (Peripheral distortion) โดยในการใช้งานเลนส์โปรเกรสซีฟช่วงแรก หากเผลอไปมองอาจก่อให้เกิดอาการวิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้และเสียการทรงตัว ซึ่งอาการเหล่านี้อาจดีขึ้นเมื่อคุ้นชินหรือสามารถปรับสายตาให้เข้ากับเลนส์ได้
การใช้เลนส์โปรเกรสซีฟครั้งแรกอาจต้องใช้เวลาสักพักในการฝึกใช้งานและปรับสายตาให้คุ้นชิน หากเกิดอาการตาล้าหรือปวดหัว ควรถอดแว่นตาออกเพื่อพักสายตาสักครู่ หากไม่สามารถปรับสายตาให้คุ้นชินได้ภายใน 2 สัปดาห์ อาจปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำหรือปรับแก้ไขเลนส์ให้ตรงตามค่าสายตาของผู้สวมใส่