อบซาวน่าดีอย่างไร อันตรายหรือไม่ ?

ซาวน่า คือ การอบตัวด้วยอุณหภูมิประมาณ 65-90 องศาเซลเซียส โดยแหล่งกำเนิดความร้อนมีหลายรูปแบบ ทั้งการเผาท่อนไม้ ใช้เครื่องทำความร้อนด้วยไฟฟ้า รวมถึงการใช้รังสีอินฟราเรด โดยการอบซาวน่าจะทำให้ร่างกายขับเหงื่อออกมาในปริมาณมาก ปกติแล้วจะใช้เวลาประมาณ 15-30 นาทีต่อครั้งเท่านั้น เพราะหากนานเกินไปอาจเป็นอันตรายได้

1947 ซาวน่า rs

การอบซาวน่ามีมานานกว่าหลายร้อยปีในประเทศแถบสแกนดิเนเวีย โดยในสมัยก่อนสถานที่อบซาวน่าถูกใช้เป็นที่พบปะกันของผู้คนในสังคม อีกทั้งยังช่วยให้ผ่อนคลายความเครียดและยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพอีกด้วย แต่ในปัจจุบันคนนิยมไปซาวน่าหลังจากออกกำลังกายที่ฟิตเนส เพื่อเป็นการผ่อนคลายกล้ามเนื้อ หรือไปตอนค่ำ ๆ เพื่อคลายเครียดหลังการทำงานแทน แต่ซาวน่ามีประโยชน์จริงหรือ คนรักสุขภาพที่ชื่นชอบหรือสนใจอยากลองอบซาวน่าควรศึกษาข้อมูลให้ดี เพื่อดูแลสุขภาพของตนและอบซาวน่าอย่างปลอดภัย

ซาวน่ามีประโยชน์จริงหรือ ?

ในสมัยก่อน ซาวน่าอาจได้รับความนิยมเพราะเป็นที่พบปะพูดคุยกันของคนในละแวกใกล้เคียง แต่ปัจจุบันมีการค้นคว้าเกี่ยวกับคุณประโยชน์ของการเข้าไปนั่งอบตัวในห้องร้อน ๆ จึงทำให้หลายคนสนใจไปซาวน่าเพราะเชื่อว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพในด้านต่าง ๆ เช่น

  • ช่วยคลายเครียด ซึ่งอาจเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้คนไปซาวน่าเลยก็ว่าได้ เพราะเมื่ออุณหภูมิในร่างกายเพิ่มสูงขึ้น หลอดเลือดก็จะขยายตัวทำให้เลือดไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้มากขึ้น จึงทำให้รู้สึกสดชื่นและผ่อนคลายจากความเครียด  
  • ฟื้นฟูกล้ามเนื้อหลังจากทำงาน หลังเหนื่อยล้าจากการทำงานหรือการออกกำลังกาย การไปซาวน่าถือเป็นการฟื้นตัวชั้นดีเลยทีเดียว เพราะเมื่อระบบไหลเวียนเลือดทำงานเพิ่มขึ้นก็จะช่วยให้กล้ามเนื้อและข้อต่อต่าง ๆ ได้รับการฟื้นฟูตามไปด้วย
  • ดีต่อผู้ที่เป็นโรคหัวใจ เพราะหลอดเลือดที่ขยายตัวขณะอยู่ในห้องซาวน่าทำให้หัวใจต้องใช้แรงสูบฉีดเลือดมากขึ้น จึงเหมือนได้บริหารกล้ามเนื้อหัวใจไปด้วย โดยมีการศึกษาที่พบว่าผู้ที่ไปซาวน่าเป็นประจำมีความเสี่ยงเสียชีวิตจากโรคหัวใจน้อยลงด้วย
  • ลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมอง จากการศึกษากลุ่มตัวอย่างที่ประเทศฟินแลนด์ พบว่าผู้ที่ไปซาวน่าเป็นประจำจะมีความเสี่ยงเป็นโรคหลอดเลือดสมองลดลงเมื่อเทียบกับผู้ที่ไปซาวน่าเพียงชั่วครั้งชั่วคราว

นอกจากนี้ หลายคนอาจเคยได้ยินมาว่าการซาวน่านั้นช่วยลดน้ำหนักได้ อาจเพราะมีเหงื่อปริมาณมากที่ไหลออกมาขณะอบตัว จึงคิดว่าซาวน่าอาจช่วยลดน้ำหนักได้ แต่ในความเป็นจริงแล้วกลับไม่เป็นเช่นนั้น เพราะน้ำหนักตัวที่หายไปหลังจากการซาวน่านั้น คือ น้ำหนักของน้ำในร่างกายที่ถูกขับออกมาในรูปแบบเหงื่อ เมื่อดื่มน้ำเข้าไปหลังจากซาวน่าเสร็จ น้ำหนักก็จะกลับมาเท่าเดิม ดังนั้น การซาวน่าแทบไม่มีผลต่อการลดน้ำหนักเลย โดยการเผาผลาญพลังงานขณะซาวน่าก็อยู่ในระดับใกล้เคียงกับการนั่งพักเท่านั้นเอง

อบซาวน่าอันตรายหรือไม่ ?

จริงอยู่ที่การไปนั่งอบตัวให้สบายอารมณ์หลังจากออกกำลังกายหรือทำงานมาทั้งวันนั้น อาจเป็นช่วงเวลาที่แสนมีความสุขและผ่อนคลาย แต่ทุกอย่างล้วนมี 2 ด้านเสมอ การซาวน่าก็อาจก่อให้เกิดอันตรายได้เช่นกัน

โดยความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการซาวน่า มีดังนี้  

  • เกิดภาวะขาดน้ำ การอยู่ในสถานที่ที่มีอุณหภูมิสูงเป็นเวลานานจะทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำมากกว่าปกติ และหากอยู่นานเกินไปก็อาจทำให้เกิดภาวะขาดน้ำ ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
  • ทำให้โรคบางอย่างรุนแรงขึ้น การซาวน่าหรือการอาบน้ำร้อนจะทำให้อาการของโรคบางชนิดมีความรุนแรงมากขึ้น อย่างโรคโรซาเซีย ซึ่งเป็นโรคที่เกิดการอักเสบบนผิวหนังและบริเวณดวงตา
  • ติดเชื้อโรคจากผู้อื่น ห้องซาวน่าที่เปิดให้ใช้บริการโดยทั่วไปนั้นไม่ใช่พื้นที่ส่วนบุคคล ดังนั้น ผู้คนมากมายต่างเข้ามาใช้บริการห้องซาวน่าร่วมกัน จึงทำให้มีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อโรคจากผู้อื่นได้ง่ายกว่าปกติ
  • เซลล์สืบพันธุ์เพศชายมีจำนวนลดลง แม้จะยังไม่มีหลักฐานยืนยันแน่ชัด แต่ซาวน่าอาจมีผลต่อการทำงานของอัณฑะได้ เพราะอุณหภูมิมีผลกับการผลิตเซลล์สืบพันธุ์ของอัณฑะ การอบซาวน่าเป็นเวลานานเกินไปจึงอาจทำให้อัณฑะผลิตอสุจิได้น้อยลง

ข้อควรระวังของการอบซาวน่า

ซาวน่าเป็นการอบตัวเพื่อเพิ่มอุณหภูมิในร่างกายและเพิ่มระดับการไหลเวียนเลือด ซึ่งการอยู่ในสถานที่ที่มีอุณหภูมิสูงเป็นเวลานานอาจทำให้เกิดอันตรายได้ ผู้ใช้บริการอบซาวน่าจึงควรทราบข้อมูลที่สำคัญและระมัดระวังตนเพื่อความปลอดภัยในสุขภาพ เช่น

  • ผู้ที่เป็นโรคหอบ โรคลมชัก โรคหัวใจ ผู้ที่กำลังใช้ยาบางชนิด หรือผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนไปซาวน่า
  • หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ทั้งก่อนและหลังซาวน่า
  • ไม่ซาวน่านานเกินไป ควรอบตัว 15-20 นาทีก็เพียงพอแล้ว
  • หากรู้สึกไม่สบายตัวหรือมีอาการผิดปกติในระหว่างที่อบตัว ให้รีบออกมาจากห้องซาวน่าทันที
  • ดื่มน้ำเย็น 2-3 แก้วหลังเสร็จจากการซาวน่า เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ และไม่ควรอาบน้ำเย็นทันที แต่ควรปล่อยให้ร่างกายเย็นลงสักระยะหนึ่งก่อน