วอร์ทิออกซีทีน (Vortioxetine)

วอร์ทิออกซีทีน (Vortioxetine)

Vortioxetine (วอร์ทิออกซีทีน) เป็นยารักษาโรคซึมเศร้า โดยตัวยาจะช่วยให้สมองมีระดับสารเซโรโทนิน (Serotonin) มากขึ้น เพื่อช่วยบรรเทาอาการเศร้า ความรู้สึกวิตกกังวล ลดปัญหาด้านการนอนหลับ นอกจากนี้อาจนำมาใช้รักษาโรคอื่น ๆ ตามดุลยพินิจของแพทย์

วอร์ทิออกซีทีน (Vortioxetine)

เกี่ยวกับยา Vortioxetine

กลุ่มยา ยาต้านเศร้ากลุ่ม Selective Serotonin Reuptake Inhibitor (SSRI)
ประเภทยา ยาตามใบสั่งแพทย์
สรรพคุณ รักษาโรคซึมเศร้า
กลุ่มผู้ป่วย ผู้ใหญ่
รูปแบบของยา ยารับประทาน
การใช้ยาในหญิงตั้งครรภ์และผู้ให้นมบุตร ยังไม่มีการจัดหมวดหมู่ของยาชนิดนี้จากองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกาหรือ FDA ซึ่งยาอาจส่งผลกระทบต่อมารดาหรือทารกในครรภ์ได้ ผู้ที่กำลังตั้งครรภ์หรืออยู่ระหว่างให้นมบุตร ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยา เนื่องจากยังไม่ทราบแน่ชัดว่าตัวยาจะปนเปื้อนไปกับน้ำนมหรือไม่

คำเตือนในการใช้ยา Vortioxetine

  • แจ้งให้แพทย์ทราบก่อนใช้ยาหากมีประวัติแพ้ยาและสารใด ๆ เพราะยา Vortioxetine อาจมีส่วนประกอบสารอื่นที่ทำให้เกิดอาการแพ้ยาหรือเกิดผลข้างเคียงได้ 
  • แจ้งให้แพทย์ทราบถึงประวัติทางการแพทย์ โดยเฉพาะอาการชัก ระดับโซเดียมในเลือดต่ำ ภาวะเลือดออกผิดปกติ โรคต้อหิน โรคแผลในทางเดินอาหาร มีประวัติเคยใช้สารเสพติดหรือฆ่าตัวตาย โรคไบโพลา รวมถึงสมาชิกในครอบครัวป่วยด้วยความผิดปกติทางจิตใจและอารมณ์
  • แจ้งให้แพทย์ทราบเกี่ยวกับยา วิตามิน หรือสมุนไพรทุกชนิดที่กำลังใช้อยู่ เนื่องจากยาบางชนิดอาจทำปฏิกิริยากับยา Vortioxetine จนทำให้เกิดเซโรโทนิน ซินโดรม (Serotonin Syndrome) เช่น ยากลุ่มโอปิออยด์ ยาที่มีฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาท ยารักษาไมเกรน ยารักษาโรคพาร์กินสัน หรือยารักษาโรคทางจิตเวช 
  • ห้ามใช้ยา Vortioxetine หากผู้ป่วยใช้ยาต้านเอนไซม์เอ็มเอโอไอ (MAOI) ในช่วง 14 วันก่อนหน้า เช่น ยาฟีเนลซีน (Phenelzine) ยาไลนิโซลิด (Linezolid) ยาทรานิลไซโปรมีน (Tranylcypromine) หรือยาไอโซคาร์บอกซาซิด (Isocarboxazid) และควรเว้นระยะห่างหลังหยุดใช้ยา Vortioxetine อย่างน้อย 21 วันก่อนเริ่มใช้ยาในกลุ่มเอ็มเอโอไอ เพื่อป้องกันปฏิกิริยาระหว่างยาที่อาจเป็นอันตราย
  • ยา Vortioxetine อาจทำให้รู้สึกเวียนศีรษะ จึงควรหลีกเลี่ยงการขับรถ การทำกิจกรรมที่ต้องตื่นตัว การใช้เครื่องจักร และการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในระหว่างการใช้ยา
  • แจ้งให้แพทย์ทราบหากกำลังวางแผนตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงตั้งครรภ์ เพราะตัวยาอาจเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์หรือปนเปื้อนกับน้ำนมไปสู่ทารก แพทย์อาจอนุญาติให้ใช้ยาในกรณีที่จำเป็นเท่านั้น
  • หากอยู่ในช่วงใช้ยา Vortioxetine แล้วต้องเข้ารับการผ่าตัดหรือการทำทันตกรรม ควรแจ้งให้แพทย์หรือทันตแพทย์ทราบก่อน
  • ห้ามใช้ยา Vortioxetine ในเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี
  • ยา Vortioxetine อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงในผู้สูงอายุมากกว่าวัยอื่น โดยเฉพาะเมื่อใช้ร่วมกับยาขับปัสสาวะ

ปริมาณการใช้ยา Vortioxetine

การใช้ยา Vortioxetine รักษาโรคซึมเศร้าในผู้ใหญ่จะขึ้นอยู่กับอาการและการตอบสนองของร่ายกายต่อตัวยา โดยทั่วไปแพทย์จะให้เริ่มใช้ยาในปริมาณ 10 มิลลิกรัม 1ครั้ง/วัน และอาจปรับปริมาณยาสูงสุดไม่เกิน 20 มิลลิกรัม 1ครั้ง/วัน หรือปรับลดลงเป็น 5 มิลลิกรัม 1ครั้ง/วัน ตามการตอบสนองต่อยา หากเป็นผู้สูงอายุจะให้ใช้ยาในปริมาณเริ่มต้น 5 มิลลิกรัม 1ครั้ง/วัน และปริมาณยาสูงสุดไม่เกิน 10 มิลลิกรัม/วัน

การใช้ยา Vortioxetine

ยา Vortioxetine ควรใช้ตามฉลากและตามคำสั่งแพทย์อย่างเคร่งครัด ไม่ควรใช้ยาปริมาณมากกว่า น้อยกว่า หรือติดต่อกันนานกว่าที่แพทย์แนะนำ หากมีข้อสงสัยใด ๆ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนการใช้ยา

ห้ามหยุดใช้ยาเองแม้จะมีอาการดีขึ้นแล้ว เนื่องจากการหยุดใช้ยากะทันหันอาจทำให้อาการของโรครุนแรงขึ้นหรือมีอาการอื่นเกิดขึ้น เช่น กล้ามเนื้อหดเกร็ง ปวดศรีษะ หรืออารมณ์แปรปรวน

ผู้ป่วยสามารถรับประทานยา Vortioxetine พร้อมอาหารหรือไม่พร้อมอาหารก็ได้ โดยให้รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายและพักผ่อนให้เพียงพอควบคู่ไปกับการใช้ยา เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายผลิตสารเซโรโทนินและสารเอ็นโดฟินมากขึ้น

ในระหว่างใช้ยา Vortioxetine ผู้ป่วยควรไปพบแพทย์ตามนัดหมายอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากยาอาจใช้เวลาหลายสัปดาห์ที่จะออกฤทธิ์ได้เต็มประสิทธิภาพ และบางรายอาจมีความคิดฆ่าตัวตายในช่วงเริ่มใช้ยา ครอบครัวหรือบุคคลใกล้ชิดจึงควรสังเกตการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์และอาการอื่น ๆ ของผู้ป่วยอยู่เสมอ

กรณีที่ผู้ป่วยลืมใช้ยา ควรใช้ทันทีที่นึกขึ้นได้ แต่หากใกล้ช่วงเวลาของยารอบถัดไปให้ข้ามไปใช้ยาตามเวลาปกติ ห้ามเพิ่มปริมาณยาเป็น 2 เท่า และควรแจ้งให้แพทย์หรือเภสัชกรทราบหากลืมใช้ยาบ่อยครั้ง หากคาดว่าใช้ยาเกินปริมาณที่กำหนด และมีอาการหายใจลำบากหรือหมดสติ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที 

การเก็บยาควรเก็บไว้ในบรรจุภัณฑ์เดิม โดยควรเก็บไว้ที่อุณหภูมิห้อง หลีกเลี่ยงความชื้น ความร้อน แสงแดดและควรเก็บให้พ้นมือเด็ก

ผลข้างเคียงจากการใช้ยา Vortioxetine

ยา Vortioxetine อาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น ปากแห้ง เวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ท้องอืด ท้องผูก ท้องเสีย ฝันร้ายหรือมีปัญหาด้านการนอนหลับ ความรู้สึกทางเพศลดลง  หากอาการดังกล่าวเป็นมากขึ้นหรือไม่หายไป ควรปรึกษาแพทย์ 

รวมถึงแจ้งให้แพทย์ทราบโดยเร็วหากผู้ป่วยรู้สึกวิตกกังวล หงุดหงิด ฉุนเฉียว อยู่ไม่สุข รู้สึกเศร้าหรือมีร่าเริงมากผิดปกติ มีอาการของโรคแพนิค ซึมเศร้ามากกว่าเดิม คิดทำร้ายตัวเองหรือคิดอยากฆ่าตัวตายหลังการใช้ยา 

อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยควรไปพบแพทย์ทันทีหากพบอาการต่อไปนี้ 

  • มีอาการแพ้ยา เช่น ลมพิษ หายใจลำบาก อาการบวมบริเวณริมฝีปาก ลิ้น ใบหน้า และคอ เป็นต้น
  • มีอาการของเซโรโทนิน ซินโดรม เช่น มีไข้ ตัวสั่น เห็นภาพหลอน กระสับกระส่าย กล้ามเนื้อแข็งตัวหรือกระตุก การเดินการทรงตัวผิดปกติ หรือหัวใจเต้นเร็วผิดปกติ
  • เกิดผื่น คัน ผิวช้ำง่าย มีเลือดกำเดาไหลหรือเลือดออกผิดปกติ
  • ปวดศีรษะ
  • เสียงแหบ
  • มีปัญหาด้านการมองเห็น ปวดตา ตาบวมหรือตาแดง
  • สับสน ความคิดเปลี่ยนแปลง มีปัญหาด้านความจำหรือการใช้สมาธิ
  • ชัก หมดสติ