ของใช้ที่จำเป็นสำหรับการดูแลเด็กเล็ก

เมื่อลูกน้อยอยู่ในวัยเตาะแตะหรือมีอายุประมาณ 1-3 ปี เด็กจะเริ่มคลาน รับประทานอย่างอื่นนอกจากนม หัดเดิน หรือฝึกเข้าห้องน้ำแบบผู้ใหญ่ ซึ่งอาจเป็นงานหนักสำหรับคุณแม่ทีต้องรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของลูกที่โตขึ้นและมีพัฒนาการมากขึ้น โดยเฉพาะการจัดเตรียมสิ่งของที่จำเป็นต้องใช้ในการดูแลเด็กวัยนี้ แต่จะมีอะไรบ้างที่เป็นของใช้จำเป็น และพ่อแม่ควรเลือกซื้อสิ่งของเหล่านี้อย่างไร สามารถหาคำตอบได้จากบทความนี้

1967 ของใช้เด็กเล็ก rs

สิ่งของที่จำเป็นสำหรับเด็กเล็ก มีอะไรบ้าง ?

พัฒนาการของเด็กนั้นเป็นไปอย่างรวดเร็ว จึงทำให้เด็กมีการเปลี่ยนแปลงมากมายทั้งภายในและภายนอก จึงจำเป็นต้องมีสิ่งของที่จะช่วยให้เด็กฝึกทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น โดยของใช้ที่สำคัญสำหรับเด็กเล็ก มีดังนี้

  • เสื้อผ้า สำหรับเสื้อผ้าของเด็กในวัยนี้จะไม่ต่างจากตอนที่เป็นทารกมากนัก แต่เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายของเด็กเล็กจะมีหลายอย่างด้วยกัน เช่น หมวก ผ้าเช็ดหน้า เสื้อยืด เสื้อกล้าม เสื้อกันหนาว ชุดนอน กางเกง ถุงมือ ถุงเท้า รองเท้าหัดเดิน เป็นต้น
  • ผ้าอ้อม เด็กในวัยหัดเดินจะยังเข้าห้องน้ำเองไม่ได้ ผ้าอ้อมแบบเดิมจึงยังคงจำเป็นอยู่ และอาจใช้ผ้าอ้อมสำเร็จรูปชนิดสวมที่สวมใส่ง่าย ถอดเปลี่ยนง่าย และทำให้เด็กเดิน วิ่ง หรือเคลื่อนไหวได้สะดวกขึ้น ซึ่งอาจมีขนาดและรูปแบบเฉพาะสำหรับเด็กแต่ละช่วงอายุ
  • เครื่องนอน การนอนเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับเด็กในวัยนี้ จึงควรเลือกอุปกรณ์ที่ช่วยให้เด็กนอนหลับสบายมากขึ้น โดยมีเครื่องนอนที่สำคัญ เช่น เปลนอน เตียงนอน ผ้าปูที่นอน ผ้าเช็ดน้ำลาย ผ้าห่มทั้งแบบบางและแบบหนา เป็นต้น
  • อุปกรณ์รับประทานอาหาร เด็กในวัยนี้เริ่มจะรับประทานอาหารอย่างอื่นนอกจากนมแม่ได้บ้างแล้ว เช่น ข้าว อาหารประเภทเส้น ไข่ ผลไม้ หรือธัญพืช เป็นต้น พ่อแม่จึงต้องเตรียมมากกว่าขวดนมและขวดน้ำ โดยสิ่งที่ต้องเตรียมเพิ่มเติม คือ จาน ชาม ช้อน ส้อม แก้วน้ำพลาสติก ผ้ากันเปื้อน และเก้าอี้ยกสูงสำหรับเด็ก
  • อุปกรณ์อาบน้ำ ตัวอย่างอุปกรณ์ที่จำเป็นในการอาบน้ำเด็กเล็ก คือ อ่างอาบน้ำ สบู่ ยาสระผม แปรงหวีผมเด็ก ผ้าเช็ดตัวและผ้าเช็ดหัว อย่างไรก็ตาม การอาบน้ำให้เด็กในวัยนี้จะแตกต่างกับเด็กทารก เนื่องจากเด็กโตขึ้น รู้เรื่องมากขึ้น จึงอาจทำให้การอาบน้ำทำได้ลำบากมากขึ้นด้วย  
  • อุปกรณ์อื่น ๆ มีอุปกรณ์เสริมอีกหลายชนิดที่เป็นประโยชน์สำหรับการเลี้ยงลูกน้อยในวัยเด็กเล็ก เช่น ของเล่น รถเข็นเด็ก คาร์ซีท รั้วกั้นเพื่อความปลอดภัย โถฝึกเข้าห้องน้ำสำหรับเด็ก น้ำยาล้างจานและผงซักฟอกสำหรับเด็ก เป็นต้น

ควรเลือกซื้ออุปกรณ์สำหรับเด็กเล็กชนิดต่าง ๆ อย่างไร ?

ของใช้สำหรับเด็กที่วางขายตามท้องตลาดนั้นมีหลายรูปแบบให้เลือกซื้อ แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นของดีมีคุณภาพทุกชิ้น ดังนั้น จึงควรเลือกซื้ออย่างรอบคอบเพื่อให้ได้สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูกน้อย โดยมีตัวอย่างวิธีการเลือกสินค้าประเภทต่าง ๆ ดังนี้

อุปกรณ์รับประทานอาหาร
การเลือกซื้ออุปกรณ์รับประทานอาหารสำหรับเด็กเล็กนั้น ทำได้โดยเลือกวัสดุที่ไม่แตกหักง่าย ไม่มีสารตกค้าง สำหรับช้อนส้อมก็ควรเลือกที่เป็นแบบนุ่มและเป็นมิตรกับเหงือกของเด็ก ซึ่งต้องทำมาจากวัสดุที่ทนความร้อน และอาจเลือกแบบที่มีสีสันสวยงาม เพื่อให้ดูเข้าชุดและดึงดูดความสนใจเด็ก

ผ้าอ้อม
สำหรับการเลือกซื้อผ้าอ้อมต้องดูที่ขนาดเป็นสำคัญว่าพอดีกับตัวเด็กหรือไม่ เพราะหากผ้าอ้อมเล็กเกินไปอาจทำให้ของเสียล้นออกมาจนเกิดผื่นคันได้ และควรใส่ใจสังเกตว่าเด็กพร้อมจะฝึกใช้ห้องน้ำแล้วหรือไม่ หากพร้อมแล้วก็ควรเปลี่ยนเป็นผ้าอ้อมแบบสวมแทน

เสื้อผ้า
เด็กในวัยนี้สามารถเล่นซนได้แล้ว การเลือกเสื้อผ้าจึงควรดูที่ขนาดพอดีกับตัวเด็กหรือใหญ่กว่าปกติเล็กน้อย เพื่อความสะดวกในการถอดและสวมใส่ ส่วนวัสดุควรเลือกที่มีความยืดหยุ่น ทนทาน ระบายอากาศได้ดี ไม่ระคายเคืองผิว มีสีสันและลวดลายที่ถูกใจเด็ก

รองเท้า
เด็กเล็กจะมีร่างกายที่ยังไม่แข็งแรงเหมือนผู้ใหญ่ ทำให้การเดินยังไม่มั่นคง จึงมีความเสี่ยงที่จะหกล้มได้ง่าย ดังนั้น รองเท้าสำหรับเด็กวัยนี้จึงควรมีน้ำหนักเบา ทำมาจากหนังสัตว์หรือเป็นแบบตาข่าย เพราะสวมใส่สบายและระบายอากาศได้ดี ส่วนพื้นรองเท้าควรมียางกันลื่นเพื่อป้องกันการหกล้ม

เตียงนอน
การเลือกเตียงนอนสำหรับเด็กเล็ก ควรเลือกที่มีความปลอดภัยและได้มาตรฐาน มีขนาดที่พอดี ไม่เล็กเกินไปสำหรับตัวเด็ก วัสดุที่ใช้ต้องมีความทนทานและไม่มีคม มีรั้วกั้นด้านข้างเพื่อป้องกันเด็กกลิ้งตกจากเตียงหรือปีนออกจากเตียง รวมทั้งมีรูปแบบและลวดลายที่สวยงาม

ของเล่น
เด็กในวัยนี้มักมีปัญหาเกี่ยวกับการหยิบของใส่ปาก ไม่เว้นแม้แต่ของเล่น ดังนั้น จึงควรเลือกของเล่นที่เหมาะสมกับวัยของเด็ก มีขนาดไม่เล็กเกินไป สามารถล้างทำความสะอาดได้ ใช้วัสดุที่ปลอดภัยสำหรับเด็ก ไม่มีสารตะกั่ว หากวัสดุเป็นผ้าก็ควรเลือกแบบทนไฟ หรือหากเป็นของเล่นที่มีเสียงเพลงก็ไม่ควรให้มีเสียงดังเกินไปสำหรับเด็ก

สุดท้ายนี้ ก่อนซื้อของชิ้นใดก็ตามให้ลูกน้อย สิ่งสำคัญ คือ หาข้อมูลของสิ่งนั้นให้รอบด้านก่อน โดยอาจค้นหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต สอบถามจากเพื่อนบ้านและคนรู้จัก หรือสอบถามแพทย์ แล้วนำข้อมูลต่าง ๆ มาพิจารณาประกอบการตัดสินใจ เพื่อให้ได้ของที่ดีและคุ้มค่าที่สุดสำหรับการดูแลลูกน้อย