6 วิธีรับมือกับรักแร้ดำ

เชื่อว่าปัญหารักแร้ดำ น่าจะเป็นหนึ่งในปัญหาที่ทำให้ใครหลายคนเกิดความรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเอง หรือเป็นกังวลว่าภายในร่างกายกำลังมีอะไรผิดปกติไปอยู่หรือไม่ ในบทความนี้พบแพทย์จึงจะมาไขข้อข้องใจของปัญหารักแร้ดำว่าอาจเกิดขึ้นจากสาเหตุอะไรได้บ้าง และมีแนวทางการแก้รักแร้ดำด้วยตนเองอย่างไร

บางคนอาจเข้าใจว่าผิวหนังบริเวณรักแร้ที่มีสีออกคล้ำบ้างถือเป็นเรื่องปกติ ซึ่งอาจจะเกิดจากการเสียดสีบ่อย ๆ หรือการใช้ผลิตภัณฑ์บางชนิด แต่ในความเป็นจริงแล้ว สีของผิวหนังบริเวณรักแร้ที่ปกติควรจะมีสีเหมือนหรือคล้ายกับสีของผิวหนังบริเวณอื่น อย่างไรก็ตาม แม้รักแร้ดำอาจเป็นสัญญาณของความผิดปกติบางอย่าง แต่โดยมากมักไม่ได้เป็นกรณีที่รุนแรง และมักทำให้เกิดปัญหาด้านความมั่นใจเท่านั้น

6 วิธีรับมือกับรักแร้ดำ

สาเหตุที่พบได้บ่อยของปัญหารักแร้ดำ

โดยส่วนใหญ่แล้ว ปัญหารักแร้ดำมักเป็นผลมาจากภาวะผิดปกติทางผิวหนังชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่า Acanthosis Nigricans ซึ่งเป็นภาวะที่เกิดขึ้นเมื่อร่างกายผลิตเซลล์ผิวหนัง เมลาโนไซต์ (Melanocytes) ที่อยู่บริเวณชั้นหนังกำพร้าออกมามากและเร็วผิดปกติ โดยสาเหตุของภาวะนี้ที่มักพบได้ เช่น

นอกจากนี้ ผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงบางอย่างร่วมด้วย อาจยิ่งมีโอกาสเกิดปัญหารักแร้ดำหรือภาวะ Acanthosis Nigricans มากขึ้น เช่น มีภาวะน้ำหนักเกิน มีสีผิวเข้ม หรือคนในครอบครัวมีประวัติป่วยเป็นเบาหวาน ภาวะก่อนเป็นเบาหวานและภาวะ Acanthosis Nigricans

ทั้งนี้ นอกจากสาเหตุในข้างต้นแล้ว ในบางกรณี ปัญหารักแร้ดำก็อาจมีสาเหตุมาจากปัจจัยอื่น ๆ ได้อีกเช่นกัน เช่น สัญญาณของโรคสะเก็ดเงิน ภาวะการอักเสบของต่อมเหงื่อ (Hidradenitis Suppurativa) ภาวะเหงื่อออกมาก การโกนขนรักแร้อย่างรุนแรงจนเกิดการระคายเคือง หรืออาจเป็นผลมาจากสารบางชนิดในผลิตภัณฑ์ดูแลรักแร้

รับมือกับปัญหารักแร้ดำอย่างไรดี

ในเบื้องต้น ผู้ที่มีปัญหารักแร้ดำอาจจะลองทำตามวิธีดังต่อไปนี้ 

  1. ควบคุมน้ำหนัก เนื่องจากภาวะอ้วน ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยที่อาจส่งผลให้เกิดปัญหารักแร้ดำได้ นอกจากนี้ การลดน้ำหนักยังเป็นผลดีต่อการลดความเสี่ยงหรือรักษาภาวะเบาหวานอีกด้วย
  2. หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์บริเวณรักแร้โดยไม่จำเป็น โดยผลิตภัณฑ์ที่ควรใช้ ควรเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง ปราศจากน้ำหอม ปราศจากสารแต่งสี และปราศจากสารกันบูด
  3. หลีกเลี่ยงการโกนขนรักแร้ โดยอาจจะให้วิธีการแว็กซ์ หรือการเลเซอร์แทน
  4. สครับบริเวณรักแร้ แต่ควรสครับอย่างเบามือและควรสครับเพียง 2–3 วัน/สัปดาห์ เนื่องจากผิวหนังบริเวณรักแร้เป็นผิวหนังที่ค่อนข้างบอบบาง
  5. เลือกสวมใส่เสื้อผ้าที่สวมใส่สบายและไม่รัดแน่น
  6. หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ เนื่องจากบุหรี่อาจเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดจุดหรือรอยด่างดำได้

ทั้งนี้ วิธีที่กล่าวไปเป็นเพียงวิธีดูแลตัวเองในเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งอย่างที่ได้กล่าวไปว่า ปัญหานี้อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ทั้งสาเหตุที่ไม่รุนแรงและสาเหตุที่ควรได้รับการดูแลจากแพทย์

ดังนั้น ผู้ที่มีปัญหารักแร้ดำ ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหาสาเหตุที่เหมาะสม และหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ใด ๆ เพื่อแก้ปัญหารักแร้ดำโดยไม่ปรึกษาแพทย์ก่อน โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาทางสุขภาพ อย่างภาวะเบาหวาน ภาวะขาดไทรอยด์ หรือมีอาการคันรักแร้ร่วมด้วย

แต่สำหรับผู้ที่พบว่า ปัญหารักแร้ดำเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ผิวหนังบริเวณอื่นเกิดสีคล้ำร่วมด้วย หรือพบอาการผิดปกติบางอย่างร่วมด้วย เช่น ประจำเดือนมาไม่ปกติ มีขนขึ้นตามร่างกาย หรือน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นผิดปกติ ให้รีบไปพบแพทย์ทันที เนื่องจากอาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณผิดปกติของโรคหรือภาวะบางอย่างที่มีความรุนแรงได้