ถามแพทย์

  • มีเพศสัมพันธ์หลังคลอด 1 เดือน กินยาคุมฉุกเฉิน แล้วมีประจำเดือนมา แล้วหมอให้เริ่มทานยาคุม มีเลือดออก 9 วันแล้ว

  •  Ey
    สมาชิก
    ไม่ได้ตรวจหลังคลอด มีเพศสัมพันธ์ตอน 1 เดือนพอดีหลั่งนอก แต่ทานยาคุมฉุกเฉินแล้วคะ แล้วหมอนัดตรวจหลังคลอดวันที่ 24 ประจำเดือนมาได้ 3 วัน หมอเลยยังไม่ตรวจให้ รอประจำเดือนหายค่อยมาตรวจอีกที หนูเลือกคุมกำเนิดแบบกินยา หมอเลยให้ยามาค่ะ กินยาได้ 3วันมีเพศสัมพันธ์อีกแต่ทีนี้หลั่งใน ไม่ได้กินยาคุมฉุกเฉิน เสี่ยงท้องมั้ยคะ แล้วตอนนี้เลือดยังออกอยู่ค่ะ 9 วันแล้วยังไม่หาย เป็นเพราะอะไรคะ

    สวัสดีค่ะ คุณ Ey,

                         หากหลังคลอดไม่ได้ให้นมลูก ระยะเวลาที่จะเกิดการตกไข่และมีโอกาสตั้งครรภ์ต่อได้คือประมาณ 4-6 สัปดาห์ แต่หากได้ให้นมลูกอย่างสม่ำเสมอ การตกไข่และมีประจำเดือนจะนานกว่านี้ ขึ้นกับระยะเวลาที่ให้นมบุตรด้วยว่านานเท่าใด โดยส่วนใหญ่จะนานกว่า 20 สัปดาห์กว่าจะมีประจำเดือนและเกิดการตกไข่ขึ้น บางรายอาจนานเป็นปีได้

                        ดังนั้น หากไม่ได้ให้นมลูก หรือให้ไม่สม่ำเสมอ การมีเพศสัมพันธ์ที่ 1 เดือนหลังคลอด ก็จะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ อย่างไรก็ตาม หากได้ทานยาคุมฉุกเฉินไป ยาคุมฉุกเฉินก็จะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 58%-95% และหากหลังจากทานยาไปประมาณ 1 สัปดาห์ ได้มีเลือดออกมา เลือดดังกล่าวน่าจะเกิดจากผลของยาคุมฉุกเฉินได้ ไม่ใช่ประจำเดือนจริงๆ 

                       เมื่อได้เริ่มทานยาคุมกำเนิดแล้ว โดยทานไป 3 วัน แล้วได้มีเพศสัมพันธ์ อาจมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ เพราะโดยปกติ ต้องทานยาคุมต่อเนื่องไปอย่างน้อย 7 วันก่อน ยาจึงจะออกฤทธิ์ในการป้องกันการตั้งครรภ์ได้ อย่างไรก็ตาม หากยังคงมีเลือดออกมาตั้งแต่เริ่มทานยาคุม โอกาสที่จะตั้งครรภ์นั้นก็ไม่น่าเกิดขึ้นได้ ซึ่งเลือดที่ออกมาตลอดตั้งแต่ทานยาคุมนั้น อาจเกิดจากผลข้างเคียงของยาคุมกำเนิดได้ โดยเฉพาะหากทานยาคุมชนิดที่เป็นฮอร์โมนเดี่ยว ซึ่งเป็นชนิดที่แพทย์จะจ่ายให้กับหญิงหลังคลอดที่ยังต้องการให้นมลูกอยู่ ทั้งนี้ โดยส่วนใหญ่เลือดจะค่อยๆ ลดน้อยลงจนหายไปได้เองค่ะ

                         ดังนั้น หากเลือดที่ออกมีปริมาณไม่มาก ไม่มีปวดท้องน้อยรุนแรง ก็ให้ทานยาคุมต่อไปได้ โดยควรทานให้ตรงเวลาในทุกๆ วันด้วย แต่หากเลือดที่ออกมีปริมาณมากขึ้นเรื่อยๆ หรือมีปวดท้องน้อยมากด้วย ก็ควรกลับไปพบสูติ-นรีแพทย์ค่ะ