เป็นอีสุกอีใส คันมาก ทำอย่างไรให้หายเร็วกว่า 2 สัปดาห์

 สวัสดีค่ะ คุณ Patcharapha,

                    การดำเนินของโรคอีสุกอีใสนั้น เริ่มจากอาการมีไข้ ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร โดยจะเป็น1-2 วัน หลังจากนั้นไข้จะลง จากนั้นจะเกิดผื่นเป็นตุ่มนูนแดงเล็กๆ มักมีอาการคัน โดยจะเริ่มที่ใบหน้าและลำตัวก่อนจะลามไปที่แขน ขา ภายในไม่กี่ชั่วโมงต่อมาผื่นแดงเหล่านี้จะเริ่มกลายเป็นตุ่มพองที่มีน้ำใส ๆ และกลายเป็นน้ำขุ่น ซึ่งจะเป็นอยู่ประมาณ 3-6 วัน ก่อนจะเกิดการตกสะเก็ดในเวลาต่อมา และสะเก็ดก็จะค่อยๆ ลอกหลุดไปภายในระยะเวลา 2-3 สัปดาห์ โดยไม่กลายเป็นแผลเป็น หากไม่มีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน

                ดังนั้นเมื่อเป็นโรคอีสุกอีใสแล้ว ผื่นก็จะหายไปในเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ค่ะ สิ่งที่ต้องระวังคือ ไม่ให้ผื่นเกิดการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน ซึ่งจะยิ่งทำให้หายช้าลง และอาจเป็นแผลเป็นได้ จึงต้องหลีกเลี่ยงการแคะ แกะ เกาผื่น หากมีอาการคันมาก อาจทานยาแก้แพ้ เช่น  ไฮดรอกไซซีน (hydroxyzine) , chlorpheniramine (CPM) เป็นต้น และควรตัดเล็บให้สั้นเพื่อป้องกันการเผลอไปเกา

                และหากอายุเกิน 13 ปี แล้ว แนะนำให้ทานยาต้านเชื้อไวรัสเพื่อป้องกันความรุนแรงและภาวะแทรกซ้อนของโรค ที่มักพบได้บ่อยกว่าในเด็กโตและผู้ใหญ่มากกว่าเด็กเล็ก อีกทั้งยาจะช่วยลดระยะเวลาการป่วยเป็นโรคด้วย ยาที่ใช้ ได้แก่ acyclovir, valacyclovir, famciclovir เป็นต้น

               การดูแลปฏิบัติตัวอื่นๆ นอกจากนี้ เช่น พักผ่อนให้เพียงพอ การอาบน้ำให้สะอาดหลังการทำกิจกรรมที่สัมผัสฝุ่นหรือมีเหงื่อออกมาก และเช็ดตัวให้แห้ง ดื่มน้ำสะอาดให้มาก ๆ อย่างน้อยวันละ 8-10 แก้ว ทานอาหารที่มีประโยชน์ เน้นอาหารประเภทโปรตีน เช่น นม ไข่ ปลา ถั่วต่างๆ เป็นต้น งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เป็นต้น