มีตกขาวมีกลิ่น กินยา สอดยา พอมีเพศสัมพันธ์กลับมามีอาการอีก

สวัสดีค่ะ คุณ งุ้ง งิ้ง,

         ตกขาวที่ปกติจะสีมีขาวหรือใส และไม่มีกลิ่นเหม็น ส่วนตกขาวที่ผิดปกติจะมีสีที่แปลกไปหรือมีเลือดปน หรือมีปริมาณมาก มีกลิ่นเหม็นผิดปกติ หรือมีอาการแสบคันในช่องคลอด อาการปวดหน่วงท้องน้อยร่วมด้วย

        ตกขาวที่ผิดปกติดังกล่าว เกิดได้จากหลายสาเหตุ ได้แก่

       1. การติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอด ตกขาวมักมีปริมาณที่มากขึ้น มักมีสีเหลือง หรือขาวขุ่น มีกลิ่นเหม็นเหมือนคาวปลา

       2. การติดเชื้อราในช่องคลอด ตกขาวมักเป็นสีขาวขุ่น ลักษณะคล้ายแป้งเปียก และมีอาการแสบหรือคันช่องคลอด รวมถึงอวัยวะเพศด้านนอกด้วย

        3. การติดเชื้อปรสิต ตกขาวมักมีกลิ่นเหม็นมาก มักมีสีเขียว หรือมีฟองปน และมีอาการแสบหรือคันในช่องคลอดมาก

        4. ติดเชื้อหนองในแท้หรือหนองในเทียม ตกขาวมักมีสีเหลืองหรือเขียว มีอาการเจ็บปวดและคันรอบช่องคลอด เจ็บปวดขณะปัสสาวะและขณะมีเพศสัมพันธ์ 

         5. ติดเชื้อไวรัสโรคเริม  นอกจากจะมีตกขาวที่มากขึ้นแล้ว จะมีตุ่มแดงหรือแผลที่อวัยวะเพศร่วมด้วย

         6. มะเร็งปากมดลูก มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก ตกขาวมักมีเลือดปน หรือเลือดออกกะปริดกะปรอย มีเลือดออกหลังจากมีเพศสัมพันธ์ 

         หากอากาตกขาวของคุณ งุ้ง งิ้ง มีปริมาณมาก หรือมีอาการอื่นๆ จึงจะเป็นตกขาวที่ไม่ปกติค่ะ ซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุดังกล่าว หากได้รับการรักษาที่ไม่ตรงกับสาเหตุ อาการย่อมไม่หายค่ะ เช่น หากเกิดจากการแบคทีเรียในช่องคลอด การสอดยาหรือทานยาฆ่าเชื้อรา จึงไม่ทำให้หายได้ค่ะ

         สำหรับการสอด ย่อมทำให้มีตกขาวที่มากขึ้นจากตัวยาที่ละลายในช่องคลอดได้ แต่ก็จะเป็นเพียงในวันนั้นที่สอดยาค่ะ หากยังคงเป็นอยู่เรื่อยๆ แปลว่าสาเหตุยังไม่ได้รับการแก้ไขค่ะ

         ดังนั้น หากคุณ งุ้ง งิ้ง ยังมีตกขาวที่ผิดปกติ แนะนำให้ไปพบสูติ-นรีแพทย์นะคะ เพื่อทำการตรวจภายในและหาสาเหตุที่ถูกต้องค่ะ