ถามแพทย์

  • มีเพศสัมพันธ์ กินยาคุมฉุกเฉิน ประจำเดือนมา หลังจากนั้นใช้ถุงยางตลอด ต้องกินยาคุมอีกไหม

  •  06032309
    สมาชิก
    หลังมีเพศสัมพันธ์ เราได้กินยาคุมฉุกเฉินทันทีเม็ดแรก ใน 24 ชม. เม็ดที่สองใน 8-12 ชั่วโมงถัดมา หลังจากนั้นประจำเดือนมาปกติ และมีเพศสัมพันธ์แบบป้องกัน(ใส่ถุงยางทุกครั้ง) มาตลอด อยากทราบว่าแบบนี้ ยังจำเป็นต้องกินยาคุมแบบธรรมดา (28 เม็ด) เพื่อคุมกำเนิดอีกหรือไม่คะ ถ้าต้องกิน ควรกินตอนไหน หรือถ้าป้องกันปกติแบบนี้ทุกครั้ง ก้ไม่ต้องกินยาคุมแล้วคะ ขอบคุณสำหรับคำตอบล่วงหน้าค่ะ

     สวัสดีค่ะ คุณ 06032309,

                      ประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ของยาคุมฉุกเฉิน จะขึ้นอยู่กับความรวดเร็วในการทานหลังจากมีเพศสัมพันธ์ โดยหากทานเม็ดแรกภายใน 12 ชั่วโมงหลังการมีเพศสัมพันธ์ จะมีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ถึง 95% หากทานภายใน 12-24 ชั่วโมง จะป้องกันการตั้งครรภ์ได้ประมาณ 85% ค่ะ แต่หากมีประจำเดือนมาเป็นปกติแล้ว แสดงว่าไม่มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้นจากการมีเพศสัมพันธ์ในช่วงก่อนที่ประจำเดือนจะมาค่ะ

                    สำหรับการใช้ถุงยางอนามัยนั้น ถือว่ามีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ไม่ดีนัก โดยมีโอกาสที่จะเกิดการตั้งครรภ์ได้ตั้งแต่ 2%-18% ขึ้นอยู่กับวิธีใช้ด้วย ว่าใช้ได้อย่างถูกต้องหรือไม่

                    ดังนั้นหากมีเพศสัมพันธ์บ่อยครั้ง แนะนำให้ใช้วิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูง เช่น ยาเม็ดคุมกำเนิดแบบ 21 หรือ 28 เม็ด ยาฉีดคุมกำเนิด เป็นต้น โดยหากจะเริ่มทานหรือฉีดยา ควรรอให้ประจำเดือนในรอบถัดไปมาก่อน และให้เริ่มทานหรือไปฉีดยาในวันแรกที่ประจำเดือนมา หรือไม่เกิน 5 วันนับตั้งแต่มีประจำเดือน ซึ่งยาก็จะสามารถออกฤทธิ์ในการป้องกันการตั้งครรภ์ได้ทันทีค่ะ และหลังจากที่ได้เริ่มทานหรือฉีดยาไปแล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้ยาคุมฉุกเฉินอีกค่ะ เพราะทั้งยาคุมแบบเม็ด และยาฉีดคุมกำเนิด จะสามารป้องกันการตั้งครรภ์ได้มากกว่า 99% (แต่ทั้งนี้ต้องทานยาอย่างถูกต้องด้วยนะคะ) แต่สามารถใช้ถุงยางอนามัยร่วมไปด้วยได้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการคุมกำเนิดค่ะ โดยเฉพาะในช่วงแผงแรกของการทานยาคุมค่ะ