ถามแพทย์

  • ถ้าจะ Hiv ตรวจซ้ำต้องให้หยุดยาต้านก่อนไหม

  •  นิรนาม
    สมาชิก
    เป็นไปได้ไหมที่หมอจะตรวจผิดพลาด เพราะตอนนั้นแฟนผมเข้าไปตรวจที่โรงบาลแห่งหนึ่ง และทราบผลก็ตั้งสติไม่ได้ และก็ไม่ไปตรวจซ้ำที่ไหนเลย รับยาตั้งแต่นั้นมาจนถึงวันนี้ และก็ย้ายกลับบ้านเกิดทันทีมาอยู่กับครอบครัวและก็รับยาต้านก็ไม่เคยตรวจพบเจอเลย ตอนนี้ CD4 670 และ (ไวรัส น้อยกว่า 20 คำว่าไวรัสตรงนี้น่าจะหมายถึงทุกไวรัสในร่างกายใช่ไหมเห็นเขาบอก) ถ้ากินยาอยู่แบบนี้ เราจะสามาถรที่จะตรวจว่ามีเชื้ออยู่จริงๆ ต้องไปตรวจที่ไหนได้บ้าง ว่าเขาติดเชื้ออยู่จริงๆ ไม่ได้เกิดจากความผิดพลาด เพราะร่างกายเขาปกติทุกอย่าง ตั้งแต่ที่อยู่กับเขามาตลอด กินมา4-5 ปีแล้ว คำถามคือ 1.ไปตรวจยืนยันผลได้ไหม หรือต้องหยุดยาก่อนถึงจะรู้ว่ามีเชื้ออยู่จริง
    นิรนาม  พญ.นรมน
    แพทย์

    สวัสดีค่ะคุณ นิรนาม

    การติดเชื้อไวรัส hiv ในร่างกาย จะทำให้มีระบบภูมิคุ้มกันบกพร่องจนทำให้เกิดภาวะเอดส์ และติดเชื้อฉวยโอกาสจนอาจเสียชีวิตในที่สุด

    โดยระยะของโรค hiv มีดังนี้

    1.ระยะเฉียบพลัน คือระยะที่รับเชื้อมาในช่วง 2-4 อาทิตย์แรก อาจมีอาการผื่นแดงขึ้นตามตัว ไข้ต่ำๆ ปวดเมื่อย เจ็บคอ ถ่ายเหลว อ่อนเพลีย ต่อมน้ำเหลืองโต

    2.ระยะฟักตัวของเชื้อ เชื้อจะอยู่นิ่งๆในร่างกายไม่แสดงอาการ ระยะนี้อาจกินเวลา 2-10 ปีขึ้นกับบุคคล

    3.ระยะเอดส์ คือระยะที่ภูมิคุ้มกันตกจนมีการติดเชื้อฉวยโอกาส เช่นเชื้อราในปอดในสมอง ปอดติดเชื้อบ่อยๆ

    ดังนั้นหากอยู่ในระยะฟักตัวของเชื้ออาจจะไม่มีอาการก็ได้

    หากเคยตรวจพบว่ามีเชื้อไวรัส hiv ควรไปติดตามอาการและรับยากับแพทย์อย่างสม่ำเสมอแม้จะไม่มีอาการก็ตาม แม้จะกินยาอยู่ก็จะยังตรวจเจอว่ามีเชื้อไวรัส หากมีเชื้อไวรัสน้อยกว่า 20 ก็คือมีปริมาณที่น้อยมาก อาจจะไม่แพร่เชื้อ แต่ก็คือไม่ได้หายจากโรค คำว่าไวรัสที่ว่านี้น่าจะไม่ได้หมายถึงทุกไวรัสในร่างกาย แต่หมายถึงไวรัส hiv เท่านั้นค่ะ