ถามแพทย์

  • ปวดท้องประจำเดือนทุกเดือน ทานยาแก้ปวดทุกเดือน หลังทานยาประจำเดือนจะมาน้อยมาก

  •  Putri Rasul
    สมาชิก

    สวัสดีค่ะคุณหมอ ดิฉันมีอาการปวดท้องประจำเดือนทุกเดือน แทบจะเป็นลมจนต้องหยุดงานทุกเดือน รับประทานยาพอนสแตนทุกเดือน หลังจากทานยา ประจำเดือนจะมาน้อยมาก อยากทราบว่ามีผลข้างเคียงไหมคะ 

    สวัสดีค่ะ คุณ Putri Rasul,

                          หากอาการปวดท้องประจำเดือน เป็นมาตั้งแต่วัยรุ่น หรือเกิดขึ้นในช่วงอายุ 15-25 ปี โดยที่อาการปวดจะเกิดขึ้นก่อนหรือขณะมีประจำเดือนมา และจะหายไปเมื่อประจำเดือนหมดไป และอาการปวดไม่ได้รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ถือเป็นการปวดประจำเดือนชนิดปฐมภูมิ ซึ่งไม่ได้เกิดจากความผิดปกติของมดลูกหรือรังไข่ ดังนั้นจึงไม่ได้อันตรายแต่อย่างใด เชื่อว่ามีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในระหว่างมีประจำเดือน และมาจากสารพรอสตาแกลนดิน ที่หลั่งออกมาจากเยื่อบุโพรงมดลูกมากกว่าปกติและมาออกฤทธิ์ที่มดลูก ทำให้มดลูกมีการบีบเกร็งตัวและเกิดอาการปวดที่บริเวณท้องน้อยฃ             

                        แต่หากไม่เคยมีอาการปวดท้องประจำเดือนมาก่อน และอาการปวดเป็นรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ หรือยังคงปวดต่อเนื่องแม้ประจำเดือนจะหมดไปแล้ว จึงจะถือว่าเป็นอาการปวดประจำเดือนที่ผิดปกติ ซึ่งอาจเกิดจาก การมีเนื้องอกมดลูก มีเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญขึ้นผิดที่มีซีสต์ที่รังไข่ โดยเฉพาะช็อกโกแลตซีสต์ ดังนั้น หากไม่เคยปวดมาก่อน หรืออาการปวดเป็นรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ก็ควรไปพบสูติ-นรีแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุค่ะ

                        สำหรับการบรรเทาปวดในเบื้องต้น เช่น การประคบอุ่นที่ท้องน้อยด้วยกระเป๋าน้ำร้อน การอาบน้ำอุ่น การแช่น้ำอุ่นในอ่าง ดื่มน้ำมากๆ หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ น้ำอัดลมหรือช็อกโกแลต ไม่ใส่เสื้อผ้าที่รัดช่วงเอวแน่นเกินไป ทานแก้ปวด เช่น พาราเซตามอล (paracetamol) หรือยาในกลุ่มยาต้านอักเสบชนิดไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAID) เช่น พอนสแตน (ponstan) ไอบูโพรเฟน (ibuprofen) เป็นต้น

                        สำหรับการทานยาพอนสแตนนั้น ไม่ได้เป็นสาเหตุของการมีปริมาณประจำเดือนที่มาน้อยลงค่ะ หากมีอาการปวดมาก ก็สามารถที่จะทานได้ โดยอาจทานคู่กับพาราเซตามอล เพื่อให้ออกฤทธิ์เสริมกันค่ะ