ถามแพทย์

  • รอบเดือนอยู่ที่ 32-35 วัน และมีตกขาวสีน้ำตาลออกมา ประจำเดือนก็ยังไม่มา เป็นอะไรไหม

  •  laxxz.y
    สมาชิก
    สวัสดีค่ะ ขอเกริ่นก่อนเลยนะคะว่า เราไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ ปกติที่เราเห็นเพื่อนๆเป็นประจำเดือน แต่ละรอบเดือนของเพื่อนจะประมาณ28-29 วัน แต่ของเรา32-35วันเลยค่ะกว่าประจำเดือนจะมา เท่าที่เคยนับวันสมมุติว่าเดือนที่ 1 2 3 ประจำเดือนมาปกติ เดือนที่ 4 หรือ 5 ประจำเดือนจะไม่มาแต่จะเป็นตกขาวสีน้ำตาลแทนค่ะ อารมณ์เหมือนตกขาวก่อนเป็นประจำเดือนอ่ะค่ะ ไม่ได้สีเหมือนประจำเดือนนะคะเป็นสีน้ำตาลเลย แล้วประจำเดือนไม่มาสักที ก็กังวลว่าจะเป็นอะไรรึป่าว พอจะรู้สาเหตุมั้ยคะ

    สวัสดีค่ะ คุณ laxxz.y,

                        ประจำเดือนที่ปกตินั้น จะมีระยะห่างระหว่างรอบเดือนตั้งแต่ 21-35 วัน (หรืออาจนานกว่า 45 วันได้) โดยในแต่ละรอบเดือนไม่จำเป็นต้องเท่ากัน ส่วนระยะเวลาของการมีประจำเดือนคือ 2-7 วัน โดยที่ในแต่ละรอบก็ไม่จำเป็นต้องเท่ากันเช่นกัน ดังนั้น หากมีระยะห่างระหว่างรอบประจำเดือนที่ 32-35 วัน ก็ถือว่าปกติดีค่ะ

                        ส่วนการที่ประจำเดือนยังไม่มา หากยังไม่นานเกิน 45 วันจากรอบก่อน ก็แนะนำรอไปก่อนค่ะ เพราะยังไม่ได้ถือว่าผิดปกติอะไร และการที่ประจำเดือนมาช้า ก็อาจเกิดจากสาเหตุ เช่น การมีความเครียด ทำงานหนัก ออกกำลังกายมากไป พักผ่อนน้อย อดนอน มีน้ำหนักลด หรือมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นเร็ว มีการเจ็บป่วยไม่สบาย เป็นต้น

                        สำหรับตกขาวที่มีสีน้ำตาล อาจเป็นตกขาวที่มีเลือดปริมาณน้อยๆ ปน ซึ่งอาจเป็นเลือดประจำเดือนที่กำลังจะมาก็ได้ หรืออาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆ ซึ่งหากยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ ก็ได้แก่ การผลิตฮอร์โมนของรังไข่ผิดปกติ ผลข้างเคียงจากการทานยาบางชนิด เช่น ยาสตรี สมุนไพร อาหารเสริมต่างๆ หรือเกิดจากมีภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนผิดปกติ เป็นต้น แนะนำควรสังเกตอาการไปก่อนค่ะ หากหลังจากนี้ ได้มีประจำเดือนมา ก็ไม่ได้ถือว่าผิดปกติอะไร แต่หากเกิน 45 วันแล้ว ยังไม่มีประจำเดือนมา และยังคงมีตกขาวสีน้ำตาลออกมาอีกเรื่อยๆ ก็ควรไปพบสูติ-นรีแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุค่ะ