ท้องเสียมา 1 อาทิตย์ ไม่ปวดท้อง มีอาเจียน เภสัชจ่ายยา Metronidazole กินไป 3 วัน ดีขึ้น แล้วกลับมาถ่ายเหลวอีก ทำอย่างไร

สวัสดีค่ะ คุณ vipaorn,         

                      อาการท้องเสีย หากยังเป็นไม่นานเกิน 2 สัปดาห์ ถือเป็นอาการท้องเสียแบบเฉียบพลัน ซึ่งมักเกิดจากอาหารเป็นพิษ หรือ ลำไส้อักเสบแบบเฉียบพลับ สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อที่มาจากการกินอาหารหรือดื่มน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อโรคหรือพิษของเชื้อโรค หรือจากมือหรือภาชนะที่ใส่อาหารและน้ำดื่มไม่สะอาด เชื้อโรคส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อไวรัส หรือแบคทีเรีย ซึ่งมีหลายชนิด

                      การดูแลรักษา ได้แก่ การดื่มน้ำสะอาดให้มาก และดื่มน้ำเกลือแร่ร่วมด้วย ส่วนอาหาร พยายามเลือกทานอาหารอ่อน อาหารที่ย่อยง่าย รสจืด เช่น ข้าวต้ม โจ๊ก แกงจืด หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง เช่น ของทอด ของผัด และเนื้อสัตว์ เพราะย่อยยาก และหลีกเลี่ยงอาหารรสจัด เพราะจะยิ่งทำให้ถ่ายมากขึ้น นอกจากนี้ หากโดยปกติ ไม่ค่อยได้ดื่มนมวัว ก็ควรงดการดื่มนมวัวและผลิตภัณฑ์จากนมวัวไปก่อน เพราะบางราย อาจขาดน้ำย่อยแลกเตส และทำให้ยิ่งมีอาการถ่ายเหลวได้ หากทานผลิตภัณฑ์จากนมวัวไปค่ะ 

                     ทั้งนี้ หากเภสัชกรได้จ่ายยาฆ่าเชื้อมาทาน (Metronidazole) และทานไป 3 วัน อาการได้ดีขึ้นแล้ว แต่วันต่อมา ได้มีถ่ายเหลวอีก โดยหากอุจจาระมีลักษณะเหลว หรือเป็นน้ำ โดยไม่มีมูกเลือดปน ไม่มีอาการปวดบิดท้อง ไม่มีไข้ แนะนำไม่ควรทานยาปฏิชีวนะต่อ เนื่องจากลักษณะอาการ น่าจะเกิดจากเชื้อไวรัสมากกว่าค่ะ แต่ให้ปฏิบัติตัวดังที่ได้กล่าวไปในตอนต้น ซึ่งอาการถ่ายเหลวก็น่าจะหายไปในที่สุดค่ะ

                    แต่หากยังคงถ่ายเหลวต่อเนื่องเกิน 2 สัปดาห์ หรือร่างกายมีภาวะขาดน้ำ ซึ่งสังเกตได้จากการมีริมฝีปากแห้ง ผิวแห้ง เบ้าตาลึก หัวใจเต้นเร็ว ปัสสาวะออกน้อย สีเหลืองเข้ม เป็นต้น หรือมีอาการปวดท้องรุนแรง ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจรักษาค่ะ