ถามแพทย์

  • กินยาปรับฮอร์โมนมานานสามารถตั้งครรภ์ได้ไหม? ที่ตรวจครรภ์แบบจุ่ม เชื่อถือได้มากแค่ไหน?

  •  Nick
    สมาชิก
    สวัสดีค่ะมีเรื่องปรึกษาคุณหมอ พอดีหนูประจำเดือนมาไม่ปกติเริ่มมีอาการแบบนี้ตั้งแต่ช่วงอายุ14 ไปหาหมอคุณหมอให้ยาปรับฮอร์โมนมาก็ทานแบบทานสามเดือนแล้วหยุดซึ่งตอนไปรักษาคุณหมอบอกทานติดต่อกันสามเดือนอล้วหยุด ประจำเดือนก็จะมาตรงปกติ แต่พอหยุดประะจำเดือนก็ยังไม่มาปกติอยู่ดี เหมือนว่าถ้าเดือนไหนไม่ทานก็จะไม่เป็นประจำเดือน ซึ่งตอนนี้หนู24แล้วค่ะพึ่งจะแต่งงานค่ะแล้วอยากจะมีลูกเลยปล่อยแบบธรรมชาติ แต่หนูพึ่งหยุดทานยาปรับฮอร์โมนไปประมาณสองเดือนตอนนี้ตัวหนูเองมีอาการรู้สึกแปลกๆตึงคัดเต้านม กลางคืนฉี่บ่อย จะรู้สึกง่วงเวลาช่วงกลางวันตลอด ซึ่งปกติไม่เคยเป็น เจ็บช่วงท้องน้อย หนูเลยลองซื้อที่ตรวจแบบจุ่มมาทดลอง ปรากฎว่าขึ้น2ขีดค่ะ โดยหนูลองทดสอบถึงสามอันผลออกมาเหมือนกันคือขึ้น2ขีด แบบนี้หนูท้องชัวร์ๆใช่มั๊ยค่ะหรือว่าต้องให้หนูไปตรวจที่คลีนิกหรือโรงบาลเพื่อความชัวร์หนูสงสัยว่าที่ตรวจแบบจุ่มความแม่นยำร้อยเปอร์เซ็นมั๊ยค่ะ🙏🏻🙏🏻🙏🏻

    สวัสดีค่ะ คุณ Nick,

                          ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ส่วนใหญ่มีความแม่นยำมากกว่า 97%-99% โอกาสที่ตรวจขึ้น 2 ขีด แล้วเป็นสาเหตุอื่นเหนือจากการตั้งครรภ์นั้นน้อยมาก แต่ก็เป็นไปได้ (เรียกว่า false positive) ซึ่งอาจเกิดได้จาก

                    - รอยระเหยของปัสสาวะ (evaporation lines) โดยปกติควรอ่านผลภายใน 5 นาทีหลังทดสอบ การปล่อยทิ้งไว้นานเกินแล้วนำมากอ่านผล อาจเห็นเป็น 2 ขีดได้ ซึ่งเกิดจากปัสสาวะระเหยออกไปและทิ้งรอยเอาไว้

                    - เป็นผลจากกการฉีดฮอร์โมนกระตุ้น เพื่อรักษาผู้มีบุตรยาก

                    - เป็น chemical pregnancy คือมีการปฏิสนธิเกิดตัวอ่อนขึ้นแล้ว แต่ตัวอ่อนไม่สามารถฝังไปยังผนังมดลูกได้ และเกิดการแท้งออกมาแต่เนิ่นๆ ซึ่งเท่ากับว่าตรวจพบการตั้งครรภ์จากชุดทดสอบ แต่ต่อมาพบว่าไม่ได้ตั้งครรภ์ ซึ่งหากไม่ได้ตรวจ ผู้หญิงบางรายอาจไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองท้องและแท้งไปแล้ว

                     - มีโรคบางอย่างอยู่ เช่น เนื้องอกหรือมะเร็งรังไข่ ซีสต์ที่รังไข่ เนื้องอกของต่อมใต้สมอง เป็นต้น

                     -  การใช้ยาบางชนิด เช่น diazepam, alprazolam, clozapine, chlopromazine, phenobarbital, bromocriptine, flurosemide, methadone เป็นต้น

                     ส่วนการทานยาปรับฮอร์โมน ซึ่งมักเป็นฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน จะไม่มีผลต่อการตรวจหาการตั้งครรภ์ และการทานยาดังกล่าว ไม่สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ ดังนั้นจึงมีโอกาสเกิดการตั้งครรภ์ขึ้นได้ดังที่เป็นอยู่

                     ดังนั้นหากตรวจได้อย่างถูกต้อง และไม่ได้ใช้ยาอื่นใดๆ อยู่ การตรวจพบขึ้น 2 ขีด ก็แสดงว่าเกิดการตั้งครรภ์ขึ้นค่ะ 

                     สำหรับอาการคัดตึงเต้านม ปัสสาวะบ่อย ง่วงนอนกลางวัน และปวดท้องน้อย ก็เป็นอาการที่พบได้ในหญิงตั้งครรภ์ค่ะ

                     แนะนำให้หยุดทานยาปรับฮอร์โมน และรีบไปฝากครรภ์แต่เนิ่นๆ นะคะ ในช่วงนี้ก็ควรทานอาหารที่เป็นประโยชน์ด้วยค่ะ งดการดื่มชา กาแฟ แอลกอฮอล์ต่างๆ และพยายามหลีกเลี่ยงควันบุหรี่ด้วยค่ะ ขอให้การตั้งครรภ์ปลอดภัยและมีลูกที่สุขภาพแข็งแรงค่ะ

    Nick  Nick
    สมาชิก
    ขอบคุณสำหรับคำตอบนะคะ 🙏🏻🙏🏻🙏🏻
    Nick  Tanyachanok Temchoktaweesup
    สมาชิก

    แพทย์หญิงสลิล ศิริอุดมภาส
    Jan 30, 2018 at 08:29 AM

    สวัสดีค่ะ คุณ Nick,

                          ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ส่วนใหญ่มีความแม่นยำมากกว่า 97%-99% โอกาสที่ตรวจขึ้น 2 ขีด แล้วเป็นสาเหตุอื่นเหนือจากการตั้งครรภ์นั้นน้อยมาก แต่ก็เป็นไปได้ (เรียกว่า false positive) ซึ่งอาจเกิดได้จาก

                    - รอยระเหยของปัสสาวะ (evaporation lines) โดยปกติควรอ่านผลภายใน 5 นาทีหลังทดสอบ การปล่อยทิ้งไว้นานเกินแล้วนำมากอ่านผล อาจเห็นเป็น 2 ขีดได้ ซึ่งเกิดจากปัสสาวะระเหยออกไปและทิ้งรอยเอาไว้

                    - เป็นผลจากกการฉีดฮอร์โมนกระตุ้น เพื่อรักษาผู้มีบุตรยาก

                    - เป็น chemical pregnancy คือมีการปฏิสนธิเกิดตัวอ่อนขึ้นแล้ว แต่ตัวอ่อนไม่สามารถฝังไปยังผนังมดลูกได้ และเกิดการแท้งออกมาแต่เนิ่นๆ ซึ่งเท่ากับว่าตรวจพบการตั้งครรภ์จากชุดทดสอบ แต่ต่อมาพบว่าไม่ได้ตั้งครรภ์ ซึ่งหากไม่ได้ตรวจ ผู้หญิงบางรายอาจไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองท้องและแท้งไปแล้ว

                     - มีโรคบางอย่างอยู่ เช่น เนื้องอกหรือมะเร็งรังไข่ ซีสต์ที่รังไข่ เนื้องอกของต่อมใต้สมอง เป็นต้น

                     -  การใช้ยาบางชนิด เช่น diazepam, alprazolam, clozapine, chlopromazine, phenobarbital, bromocriptine, flurosemide, methadone เป็นต้น

                     ส่วนการทานยาปรับฮอร์โมน ซึ่งมักเป็นฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน จะไม่มีผลต่อการตรวจหาการตั้งครรภ์ และการทานยาดังกล่าว ไม่สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ ดังนั้นจึงมีโอกาสเกิดการตั้งครรภ์ขึ้นได้ดังที่เป็นอยู่

                     ดังนั้นหากตรวจได้อย่างถูกต้อง และไม่ได้ใช้ยาอื่นใดๆ อยู่ การตรวจพบขึ้น 2 ขีด ก็แสดงว่าเกิดการตั้งครรภ์ขึ้นค่ะ 

                     สำหรับอาการคัดตึงเต้านม ปัสสาวะบ่อย ง่วงนอนกลางวัน และปวดท้องน้อย ก็เป็นอาการที่พบได้ในหญิงตั้งครรภ์ค่ะ

                     แนะนำให้หยุดทานยาปรับฮอร์โมน และรีบไปฝากครรภ์แต่เนิ่นๆ นะคะ ในช่วงนี้ก็ควรทานอาหารที่เป็นประโยชน์ด้วยค่ะ งดการดื่มชา กาแฟ แอลกอฮอล์ต่างๆ และพยายามหลีกเลี่ยงควันบุหรี่ด้วยค่ะ ขอให้การตั้งครรภ์ปลอดภัยและมีลูกที่สุขภาพแข็งแรงค่ะ

    คุณหมอค่ะ  พอดีไปหาหมอตอนที่มีเลือดออกบริเวณโพรงมดลูกผิดปกติ เลือดออกมาตอนก่อนประจำเดือนประมาณเกือบ 1 อาทิตย์ค่ะ แล้วหมอให้ยาปรับฮอร์โมนและยาบำรุงเลือด ยาหยุดเลือดไป  แต่เราเลิกทานยาหยุดเลือดแล้วค่ะคุณหมอ เพราะไม่มีเลือดแล้ว แต่ก่อนที่จะไปหาหมอ ได้มีเพศสัมพันธุ์แบบไม่ได้ป้องกันค่ะ แต่หลังจากนั้นก็หาหมอทานยาปกติ แล้วเนื่องจากวันที่ 26/11/18 ได้มีเพศสัมพันธุ์แต่ไม่ได้ป้องกัน แต่ยังกินแค่ยาปรับฮอร์โมนและยาบำรุงเลือดค่ะ จึงอยากทราบสามารถมีโอกาสตั้งครรภ์หรือมีผลต่อลูกไหมค่ะ ถ้ากินยาปรับฮอร์โมน