เคยทำออรัลเซ็กส์ ตรวจ hiv ไม่พบ ผ่านมา 1 ปี มีต่อมน้ำเหลืองโต เกิดจากอะไร

สวัสดีค่ะคุณ Suppakit Baisrikaew

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เช่น โรค hiv โรคไวรัสตับอักเสบบีหรือซี โรคซิฟิลิส หนองในแท้ หนองในเทียม

โรค hiv คือการติดเชื้อไวรัสชนิดหนึ่ง ที่ทำลายภูมิคุ้มกันในร่างกาย ทำให้ร่างกายติดเชื้อฉวยโอกาสเช่นเชื้อแบคทีเรีย เชื้อราได้ง่ายขึ้น ผู้ป่วยมักเสียชีวิตจากการติดเชื้อฉวยโอกาสในระยะท้ายๆของโรค

การติดต่อของเชื้อ hiv

-การรับเลือด

-การใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน

-การมีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอด/ทวารหนัก/การใช้ปาก

-จากมารดาสู่บุตรในระหว่างตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร

-สารคัดหลั่งของผู้ติดเชื้อเช่นเลือด มาโดนที่แผล หรือเข้าไปในเยื่อบุตาหรือปากหรือเยื่อบุอวัยวะเพศ

ดังนั้นจากเหตุการณ์ที่กล่าวมาจึงมีความเสี่ยงในการติดโรค hiv หากผู้ที่เรามีเพศสัมพันธ์ทางปากด้วยมีเชื้อ hiv ค่ะ ส่วนโรคซิฟิลิซนั้นมักติดต่อกันทางการมีเพศสัมพันธ์ผ่านอวัยวะเพศค่ะ

การตรวจภูมิคุ้มกันต่อเชื้อ hiv นั้นได้ผลที่แม่นยำเกิน 99% เมื่อตรวจที่สามเดือนขึ้นไปค่ะ ดังนั้นถ้าเลยสามเดือนไปตรวจแล้วไม่พบ ก็น่าจะไม่มีค่ะ

อาการในช่วงแรกของโรค hiv คืออาการที่เกิดจากการติดเชื้อเฉียบพลัน เป็นช่วงที่ได้รับเชื้อมาใหม่ๆ เชื้อจะแบ่งตัวอย่างรวดเร็ว จะมีอาการประมาณ 2-4 อาทิตย์หลังรับเชื้อ อาการเช่นไข้ต่ำๆ ปวดเมื่อยเนื้อเมื่อยตัว เจ็บคอ ต่อมน้ำเหลืองโต มีผื่น และปวดหัว อาการดังกล่าวจะหายไปได้เองโดยไม่ต้องทำอะไร เชื้ออาจซ่อนในร่างกายได้นาน 2-10 ปีกว่าจะมีอาการภูมิคุ้มกันบกพร่องและติดเชื้อฉวยโอกาสดังกล่าวไป

ดังนั้นถ้าผ่านมาเป็นปีแล้ว ไม่ควรมีอาการเหมือนตอนที่เชื้อแบ่งตัวใหม่ๆค่ะ อาจจะมาด้วยโรคติดเชื้อฉวยโอกาสเช่น เชื้อราในปอด ในสมอง ปอดติดเชื้อ วัณโรคมากกว่าค่ะ

หากมีต่อมน้ำเหลืองโตเรื้อรัง มีแผลที่อวัยวะเพศ มีหนองไหลจากอวัยวะเพศ อาจนึกถึงโรคซิฟิลิซหรือหนองในได้ แนะนำไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายเพิ่มเติมให้ได้การวินิจฉัยค่ะ ส่วนโรคลมพิษนั้นไม่ได้มีความสัมพันธ์กับโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ใดๆค่ะ