ถามแพทย์

  • เป็นทางเดินปัสสาวะอักเสบไม่หายขาด ควรทำอย่างไร

  •  Shin T. Tharith
    สมาชิก
    เมื่อวันจันทร์ที่14 ต.ค. ปัสสาวะแล้วเสี่ยวและมีสีออกชมพู เลยทาน norflox 400 mg ไปหลังจากนั้น ปัสสาวะสีออกเป็นเลือดเข้มและเจ็บตอนปลายของปัสสาวะมากค่ะ ช่วงบ่ายไปหาหมอแล้ว เราก็บอกอาการไปว่าตอนแรกคิดว่าเป็นโรคฮันนีมูน แต่อาการเริ่มแย่ลงเลยคิดว่าไม่น่าใช่แล้ว และตอนเย็นวันที่13 กินเค็มมากๆค่ะ ช่วงเดือนสองเดือนที่ผ่านมาก็มีอาการเจ็บเบาๆที่ท้องข้างขวาค่ะ และทานnorflox มาประมาณสองครั้งๆละ7วันค่ะ บอกคุณหมอไปประมาณนี้คุณหมอเขาก็กดท้องแต่ไม่เจ็บ หลังจากนั้นก็ทุบหลังสองข้างเบาๆแต่เจ็บข้างขวาค่ะ เขาเลยให้ciprofloxacin 500mg มาค่ะ สำหรับ5 วัน พอยาหมดอาการเดิมๆเริ่มกลับมาค่ะ อยากทราบว่าต้องตรวจทางเดินปัสสาวะรึไตดีค่ะ
    Shin T. Tharith  พญ.นรมน
    แพทย์

     สวัสดีค่ะคุณ Shin T. Tharith

    จากอาการดังกล่าวมานั้นน่าจะมีทางเดินปัสสาวะอักเสบ โดยอาจเกิดจาก

    -กระเพาะปัสสาวะอักเสบ เกิดจากการกลั้นปัสสาวะไว้นานๆ ทำให้ปัสสาวะที่มีเชื้อคั่งอยู่ในกระเพาะปัสสาวะนานจนเกิดการอักเสบติดเชื้อ ร่วมกับในผู้หญิงมีท่อปัสสาวะสั้นทำให้เชื้อจากภายนอกร่างกายเช่นเวลามีเพศสัมพันธ์ จึงเรียกว่าโรคฮันนีมูนได้ หรืออาจเกิดจากอุจจาระ แล้วเชื้อผ่านเข้าไปยังท่อปัสสาวะขึ้นไปจนถึงกระเพาะปัสสาวะได้ มาด้วยปัสสาวะแสบขัดหรือเป็นเลือด

    -กรวยไตอักเสบ อาการและสาเหตุคล้ายกระเพาะปัสสาวะอักเสบ แต่มักมีไข้ หนาวสั่นร่วมด้วย

    -นิ่วในทางเดินปัสสาวะ อาจมีปัสสาวะเป็นเลือด ปวดท้องร้าวลงขาได้

    -การติดเชื้อในท่อปัสสาวะจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เช่นหนองใน

    ในกรณีดังกล่าวที่ได้ยาฆ่าเชื้อมาแล้วไม่ดีขึ้น แพทย์เลยทำการเปลี่ยนเป็นยาฆ่าเชื้อที่ออกฤทธิ์รุนแรงและครอบคลุมขึ้น โดยหากเป็นๆหายๆหลายๆครั้ง อาจจะต้องปรับพฤติกรรมก่อนเป็นหลัก โดยควรดื่มน้ำมากๆ ไม่กลั้นปัสสาวะ รับประทานยาแก้ปวด ยาแก้อักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ได้ ถ้าปวดหน่วงท้องน้อยร่วมด้วย พักผ่อน งดการมีเพศสัมพันธ์

    หากปรับพฤติกรรมแล้วยังเป็นซ้ำๆ อาจมีเรื่องกรวยไตหรือท่อไตอักเสบด้วย ซึ่งเป็นผลข้างเคียงจากกระเพาะปัสาวะที่อักเสบติดเชื้อบ่อยๆ ควรพบแพทย์เพื่อตรวจปัสสาวะหรือตรวจเลือดดูค่าไตเพิ่มเติมอีกครั้งค่ะ