โพรไบโอติกกับประโยชน์ต่อสุขภาพช่องปากและฟัน

โพรไบโอติก (Probiotics) เป็นเชื้อจุลินทรีย์หรือแบคทีเรียและยีสต์ชนิดดีที่พบได้ในร่างกายของมนุษย์ โดยเชื่อกันว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพในหลาย ๆ ด้าน มีคุณสมบัติในการป้องกันและรักษาโรคหลายชนิด แต่รู้หรือไม่ว่า โพรไบโอติกอาจมีส่วนช่วยเสริมสร้างสุขภาพช่องปากและฟันที่ดีได้อีกด้วย

โดยทั่วไปแล้วการทำงานของโพรไบโอติกจะช่วยเสริมการทำงานของแบคทีเรียชนิดที่ดีภายในร่างกาย เพื่อให้กระบวนการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ดำเนินไปอย่างปกติ โดยโพรไบโอติกจะช่วยปกป้องผนังทางเดินอาหาร ยับยั้งเจริญเติบโตของแบคทีเรียชนิดไม่ดีที่เป็นต้นเหตุหนึ่งของการติดเชื้อและการอักเสบต่าง ๆ และช่วยเพิ่มจำนวนแบคทีเรียชนิดดีในร่างกายหากแบคทีเรียที่ดีเหล่านั้นมีจำนวนลดน้อยลงจากการใช้ยาปฏิชีวนะหรือสาเหตุอื่น 

โพรไบโอติก

ประโยชน์ของโพรไบโอติกกับช่องปาก

เมื่อพูดถึงโพรไบโอติก หลายคนอาจนึกถึงประโยชน์ต่อสุขภาพของลำไส้เป็นส่วนใหญ่ แต่ในปัจจุบันมีการศึกษาค้นคว้าประสิทธิภาพของโพรไบโอติกต่อสุขภาพช่องปากและฟันกันเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากกลไกการทำงานของโพรไบโอติกในช่องปากและลำไส้อาจมีลักษณะคล้ายคลึงกัน โดยมีงานวิจัยบางส่วนพบว่าโพรไบโอติกมีคุณสมบัติยับยั้งการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ในช่องปากอันเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดฟันผุ จึงเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพช่องปาก ดังนี้  

ป้องกันฟันผุ

โรคฟันผุนั้นเกิดขึ้นจากหลายปัจจัยร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นการแปรงฟันที่ไม่สะอาด การรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลหรือขนมขบเคี้ยว รวมถึงแบคทีเรียที่ทำให้เกิดฟันผุภายในช่องปากของเราเองด้วย ซึ่งงานวิจัยบางส่วนชี้ให้เห็นว่าการรับประทานโพรไบโอติกอาจช่วยลดปัญหานี้ได้ 

โดยมีงานวิจัยที่ทดลองให้เด็กดื่มนมผสมโพรไบโอติกแลคโตบาซิลลัส พาราเคซีไอ สายพันธุ์เอสดีวัน (Lactobacillus paracasei SD1) ในปริมาณ 5 กรัมทุกวัน หลังใช้เวลาในการทดลอง 6 เดือน ผลปรากฏว่า เด็กที่ดื่มนมผสมโพรไบโอติกเป็นประจำมีจำนวนแบคทีเรียชนิดที่ทำให้เกิดฟันผุในน้ำลายลดน้อยลงและมีจำนวนแลคโตบาซิลลัสเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน อีกทั้งยังช่วยให้เด็กที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคฟันผุสูงมีรอยฟันผุใหม่น้อยลงเมื่อเทียบกับเด็กอีกกลุ่มที่ดื่มนมทั่วไป นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยอื่นพบว่าโพรไบโอติกอาจมีคุณสมบัติในการป้องกันโรคปริทันต์และโรคฟันผุด้วยการปรับสมดุลของแบคทีเรียภายในช่องปากอีกด้วย 

ลดกลิ่นปากอันไม่พึงประสงค์

กลิ่นปากเป็นเรื่องน่ากังวลใจของใครหลายคน ซึ่งอาจเกิดจากหลากหลายสาเหตุ นอกจากจะใช้วิธีแปรงฟันให้สะอาด หมั่นทำความสะอาดลิ้น หลีกเลี่ยงอาหารบางชนิด หรือดื่มน้ำให้มาก ๆ แล้ว การรับประทานโพรไบโอติกก็อาจเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ช่วยให้กลิ่นปากลดลง

จากการศึกษาในผู้ป่วยโรคปริทันต์ขั้นรุนแรง โดยให้รับประทานโพรไบโอติกชนิดแลคโตบาซิลลัสเป็นระยะเวลา 90 วัน ผลการทดลองเผยว่าผู้ป่วยมีกลิ่นปากลดน้อยลงอย่างชัดเจน เช่นเดียวกันกับงานค้นคว้าอีกจำนวนหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่าโพรไบโอติกอาจมีส่วนช่วยลดกลิ่นปากได้  

นอกจากโพรไบโอติกจะช่วยป้องกันฟันผุและลดกลิ่นปากแล้ว ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพช่องปากและฟันอีกหลายอย่าง เช่น ขจัดคราบพลัคหรือคราบแบคทีเรียบนฟัน บรรเทาอาการเหงือกอักเสบ หรือโรคเหงือกอื่น ๆ เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม งานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับโพรไบโอติกและสุขภาพช่องปากและฟันยังจำเป็นต้องมีงานวิจัยเพิ่มเติมในคนกลุ่มใหญ่และทำการศึกษาในระยะยาวมากขึ้น เพื่อยืนยันประสิทธิภาพและเพิ่มความมั่นใจในผลลัพธ์ของการรับประทานโพรไบโอติกในระยะยาวให้มากยิ่งขึ้น

อาหารโพรไบโอติกสูงและการบริโภคอย่างปลอดภัย

หลายคนอาจไม่ทราบมาก่อนว่าโพรไบโอติกหรือจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์นั้นอาจพบได้ในอาหารบางชนิด เช่น โยเกิร์ต นมเปรี้ยว กิมจิ ซุปมิโสะ คอมบุชาหรือชาหมัก แตงกวาดอง ชีสบางชนิดอย่างเชดด้าชีสหรือมอสซาเรลลาชีส เป็นต้น แต่สำหรับผู้ที่แพ้อาหารหรือไม่ชื่นชอบอาหารดังกล่าวก็สามารถรับประทานผลิตภัณฑ์อาหารเสริมโพรไบโอติกทดแทนได้ โดยมีบรรจุในหลายรูปแบบทั้งแบบเม็ด แคปซูล ผง และในรูปแบบอื่น ๆ ทำให้ง่ายต่อการรับประทาน อีกทั้งยังสามารถหาซื้อได้ง่ายตามร้านขายยาทั่วไป

โพรไบโอติกจากอาหารหรืออาหารเสริมที่มีคุณภาพและผ่านมาตรฐานนั้นมีความปลอดภัยต่อร่างกายหากรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะ แต่ในบางคนก็อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียง เช่น ท้องอืด หรือเรอในช่วง 2-3 วันแรกได้ 

สุดท้ายนี้ ก่อนการรับประทานผลิตภัณฑ์อาหารเสริมโพรไบโอติกควรศึกษาข้อมูลและปฏิบัติตามคำแนะนำที่ระบุบนฉลาก และเนื่องจากโพรโบโอติกยังถือเป็นอาหารเสริมสุขภาพ ไม่ใช่ยารักษาโรค ผู้ที่ต้องการรับประทานเพื่อรักษาโรค ควรปรึกษาแพทย์ถึงความปลอดภัย ความเสี่ยง รวมถึงปริมาณที่เหมาะสมต่อตนเองก่อนเสมอ โดยเฉพาะเด็ก สตรีมีครรภ์ ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว.