9 วิธีมูฟออนจากแฟนเก่า รับมืออย่างไรเมื่อความสัมพันธ์จบลง

วิธีมูฟออนหลังการเลิกราไม่ใช่เรื่องง่าย แม้ว่าจะจบกันด้วยดี แต่ความสัมพันธ์ของคู่รักที่เพิ่งจบลงมักจะหลงเหลือความรู้สึกเจ็บปวดและเศร้าเสียใจที่ยากจะจัดการ ปัญหาคือบางคนอาจไม่รู้ว่าควรมูฟออนอย่างไร ขณะที่อีกหลายคนรู้วิธีมูฟออนอยู่แล้วแต่ยังไม่สามารถทำใจกับการจากลาได้ 

เป็นเรื่องธรรมดาที่จะรู้สึกเสียใจ ผิดหวัง โกรธ และใจสลายหลังเลิกรากันใหม่ ๆ อย่างไรก็ดี หัวใจสำคัญของวิธีมูฟออนคือเริ่มจากการยอมรับว่าความสัมพันธ์จบลงแล้วจริง ๆ และปรับตัวปรับใจอย่างค่อยเป็นค่อยไปให้พร้อมใช้ชีวิตต่อไปได้อย่างมีความสุข

วิธีมูฟออน รับมืออย่างไรเมื่อความสัมพันธ์จบลง

9 วิธีมูฟออนเพื่อก้าวต่อไปที่มีความสุข

ใครที่ยังไม่รู้จะมูฟออนจากความผิดหวังในความรักอย่างไร อาจลองนำคำแนะนำเหล่านี้ไปปรับใช้กัน

  1. หากมั่นใจว่าต้องการจบความสัมพันธ์กัน ควรพูดคุยกับคนรักเพื่อตกลงกันว่าจะบอกเรื่องการเลิกราให้คนในครอบครัวและเพื่อนทราบหรือไม่ ความสัมพันธ์ในอนาคตจะเป็นอย่างไร เช่น เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน หรือเป็นคนแปลกหน้า และหากเจอกันโดยบังเอิญควรวางตัวอย่างไร
  2. ลองงดใช้โซเชียลมีเดียสักระยะ และหลีกเลี่ยงการพูดคุยหรือพบกับคนรักเก่า การได้เห็นหรือติดต่อกับคนรักเก่าในช่วงที่เพิ่งเลิกกันอาจจะยิ่งทำให้สภาพจิตใจแย่ลง
  3. ทิ้งหรือส่งคืนสิ่งของที่เป็นความทรงจำร่วมกัน เช่น ของใช้ส่วนตัวของคนรักหรือของขวัญที่เคยมอบให้กัน หากยังไม่ต้องการพบหน้ากัน อาจให้เพื่อนหรือคนในครอบครัวของอีกฝ่ายมารับแทน
  4. หลีกเลี่ยงการนึกถึงหรือพูดถึงคนรักเก่า โดยเฉพาะการโทษกันไปมา การจมอยู่กับการโทษตัวเองหรือกล่าวโทษอีกฝ่ายจะยิ่งทำให้รู้สึกไม่สบายใจและมูฟออนได้ยากขึ้น
  5. อนุญาตให้ตัวเองแสดงความเสียใจออกมา เพราะการเก็บความเศร้าและผิดหวังเอาไว้มักไม่เป็นผลดีในระยะยาว ซึ่งระยะเวลาที่แต่ละคนจะมูฟออนได้อาจแตกต่างกัน บางคนอาจใช้เวลาทำใจยอมรับการเลิกราไม่นาน แต่หากคุณใช้เวลานานสักหน่อยก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร
  6. ดูแลตัวเอง หลังเลิกกันเป็นช่วงเวลาที่ดีที่คุณจะใช้เวลาเพื่อตัวเองอย่างเต็มที่ เช่น กินอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกาย นอนหลับให้เพียงพอ และผ่อนคลายความเครียด เช่น อาบน้ำอุ่น อ่านหนังสือที่ชอบ หรืออาจลองตัดผมและทำสีผมใหม่เพื่อเปลี่ยนลุคให้สดใสขึ้น
  7. ใช้เวลาทำกิจกรรมกับคนในครอบครัวและเพื่อน เช่น ออกไปกินอาหารที่ร้านโปรด ชมภาพยนตร์ และซื้อของเข้าบ้าน
  8. หากรู้สึกว่าพร้อมแล้วอาจลองเปิดใจให้ความรักครั้งใหม่ ซึ่งการมีรักใหม่ไม่ใช่เรื่องเสียหาย ให้จำไว้ว่าไม่ใช่ทุกความสัมพันธ์ที่จะจบลงด้วยความผิดหวังและการอกหัก ดังนั้น คุณอาจจะพบความรักครั้งใหม่ที่มีความสุขก็ได้
  9. หากไม่สามารถรับมือกับความเศร้าเสียใจได้ด้วยตัวเอง ควรปรึกษาจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาเพื่อรับคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีมูฟออนที่เหมาะสม

ใช้วิธีมูฟออนแล้วแต่ยังไม่ดีขึ้น อาการแบบไหนที่ควรปรึกษาแพทย์

การเลิกราอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพหลายด้าน เช่น รู้สึกปวดศีรษะ ปวดท้อง เบื่ออาหารหรืออยากอาหารมากขึ้น นอนไม่หลับ เครียด หมดกำลังใจ และผลการวิจัยพบว่าการเลิกราอาจส่งผลให้การทำงานของสมองส่วนที่เกี่ยวกับความจำตอบสนองช้าลง หากไม่ได้จัดการความรู้สึกหลังเลิกราอย่างเหมาะสม นอกจากความเครียดเรื้อรังอาจนำไปสู่โรควิตกกังวล และโรคซึมเศร้า 

โดยทั่วไป ความเศร้าเสียใจหลังความสัมพันธ์จบลงมักจะดีขึ้นเมื่อคุณมูฟออนได้แล้ว แต่บางคนที่ไม่สามารถมูฟออนได้อาจมีอาการของซึมเศร้า ซึ่งมักเกิดขึ้นกับคนที่มีความผูกพันกับความรักมาก ถูกบอกเลิกโดยไม่ทันตั้งตัว ถูกนอกใจ มีความเครียดในการใช้ชีวิต หรือมีโรคทางจิตเวชอยู่เดิม เช่น โรคซึมเศร้า และภาวะการปรับตัวผิดปกติ (Adjustment Disorder) 

ผู้ที่มีอาการซึมเศร้ามักมีอาการเศร้าสร้อย หดหู่ หมดความสนใจในสิ่งที่ชอบ อ่อนเพลีย น้ำหนักตัวเปลี่ยนแปลงจากพฤติกรรมการกิน รู้สึกหมดหวัง อารมณ์อ่อนไหว โกรธง่าย ไม่มีสมาธิ มีปัญหาในการเรียนหรือการทำงาน และบางคนที่มีอาการรุนแรงอาจทำร้ายตัวเองหรือมีความคิดฆ่าตัวตาย 

หากมีอาการเหล่านี้ต่อเนื่องนานกว่า 2 สัปดาห์ควรรีบไปพบจิตแพทย์เพื่อรับการตรวจและรักษา เพราะการใช้วิธีมูฟออนด้วยตัวเองไม่สามารถรักษาโรคซึมเศร้าให้หายได้ จิตแพทย์อาจให้ยาต้านเศร้าควบคู่กับรักษาด้วยจิตบำบัด เช่น การบำบัดความคิดและพฤติกรรม (Cognitive Behavioral Therapy: CBT) และการบำบัดความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล (Interpersonal Therapy) 

หลังความสัมพันธ์จบลง ในบางครั้งอาจทิ้งบาดแผลเอาไว้ บางคนสามารถเยียวยาแผลใจได้เร็ว แต่หลายคนอาจต้องใช้เวลายาวนานในการดูแลตัวเองให้กลับมามีความสุขเหมือนเดิม ซึ่งแต่ละคนมีวิธีมูฟออนที่ต่างกัน แต่สิ่งสำคัญคือการยอมรับความจริง ไม่จมกับความเสียใจนานเกินไป และรักตัวเองให้มากขึ้น จะช่วยให้คุณมูฟออนและใช้ชีวิตต่อไปอย่างมีความสุข