ลูกพีช เปรี้ยวอมหวานผสานคุณประโยชน์

ลูกพีช เป็นผลไม้ขนาดเล็กที่อุดมไปด้วยวิตามินและสารอาหารที่ดีต่อร่างกาย มีประโยชน์ต่อผิวพรรณ อาจช่วยในการทำงานของหัวใจและระบบย่อยอาหาร รวมไปถึงอาจมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งและลดระดับน้ำตาลในเลือดได้อีกด้วย

ลูกพีชเป็นผลไม้เมืองหนาวที่คาดว่ามีถิ่นกำเนิดในประเทศจีน มีเปลือกสีส้มอมชมพูและมีขนอ่อน ๆ ปกคลุมทั่วผล เนื้อด้านในมีสีขาวหรือสีเหลือง รสชาติหวานอมเปรี้ยว มีกลิ่นหอมหวานเฉพาะตัว จัดอยู่ในกลุ่มผลไม้เมล็ดแข็ง (Stone Fruits) ที่มีเมล็ดเดี่ยวขนาดใหญ่อยู่ตรงกลางผลเช่นเดียวกับเนคทารีน ลูกพลัม แอปปริคอท และเชอร์รี่ ในบทความนี้จะรวบรวมข้อมูลที่น่าสนใจและวิธีรับประทานให้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพมาฝากกัน

2626-ลูกพีช

ประโยชน์ของลูกพีช

ลูกพีชประกอบด้วยสารอาหารมากมายที่อาจเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย มีงานวิจัยบางส่วนที่ศึกษาเกี่ยวกับผลลัพธ์และคุณประโยชน์ของลูกพีชไว้ ดังนี้

ช่วยบำรุงผิวพรรณ

ลูกพีชมีประโยชน์ต่อผิวพรรณหลากหลายด้าน โดยอุดมไปด้วยโพลีฟีนอลซึ่งมีคุณสมบัติในการต่อต้านอนุมูลอิสระ อย่างสารโพรแอนโทไซยานิดิน (Proanthocyanidins) สารสกัดจากผลไม้เมล็ดแข็งเหล่านี้จึงมักถูกนำไปใช้เป็นส่วนประกอบของอุตสาหกรรมอาหาร การทำยาและเวชภัณฑ์ รวมทั้งนำมาใช้ในกระบวนการผลิตเครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิว

นอกจากนี้ ลูกพีชสดยังประกอบด้วยน้ำถึง 85 เปอร์เซ็น และอุดมไปด้วยเซราไมด์ที่ช่วยรักษาความชุ่มชื้นไว้ในผิว มีงานวิจัยพบว่าการรับประทานหรือการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารสกัดกลูโคซิลเซราไมด์ (Glucosylceramide) ที่ได้จากลูกพีช มีส่วนช่วยให้เกราะป้องกันผิวแข็งแรง ช่วยให้ผิวสามารถกักเก็บน้ำไว้ได้ดี จึงช่วยให้ผิวเนียนนุ่มชุ่มชื้นยิ่งขึ้น

ยิ่งไปกว่านั้น ลูกพีชเป็นผลไม้ที่ประกอบด้วยเบต้าแคโรทีน ซึ่งร่างกายสามารถเปลี่ยนเป็นวิตามินเอและมีคุณสมบัติช่วยปกป้องผิวจากการถูกทำลายจากแสงแดด งานวิจัยบางส่วนระบุว่า การรับประทานสารสกัดจากดอกพีช อย่างการดื่มชาดอกพีชหรือการรับประทานในรูปของอาหารเสริม มีส่วนช่วยลดการเกิดริ้วรอยของผิวจากการถูกทำลายจากรังสียูวี และลดการเสื่อมสลายของคอลลาเจนในผิวของสัตว์ทดลองได้ 

ประโยชน์ต่อระบบการย่อยอาหารและการลดน้ำหนัก

การรับประทานผลไม้ในปริมาณที่เหมาะสม โดยเฉพาะผลไม้ที่มีใยอาหารสูง จะช่วยป้องกันอาการท้องผูกและช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น จากข้อกำหนดสารอาหารอ้างอิงที่ควรได้รับประจำวันสำหรับคนไทย ระบุว่าผู้ใหญ่ควรรับประทานใยอาหารวันละ 25 กรัม โดยลูกพีชขนาดกลาง 1 ลูก ประกอบด้วยใยอาหารประมาณ 1.5-2 กรัม และพรีไบโอติก ซึ่งเป็นแหล่งอาหารสำคัญที่ช่วยให้จุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ในลำไส้เจริญเติบโต จึงมีส่วนช่วยในการทำงานของระบบขับถ่าย

นอกจากนี้ ชาดอกพีชยังเป็นที่นิยมในกลุ่มคนแถบเอเชียตะวันออก เนื่องจากเชื่อกันว่าดอกพีชอาจมีคุณสมบัติช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดและช่วยลดน้ำหนักได้ จากงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ทดลองให้หนูรับประทานสารสกัดจากดอกพีชควบคู่กับอาหารที่มีไขมันสูง พบว่าสารสกัดจากดอกพีชมีส่วนช่วยลดน้ำหนักและลดไขมันในช่องท้อง แต่งานวิจัยนี้เป็นเพียงการศึกษาในสัตว์ทดลองเท่านั้น จึงยังไม่สามารถสรุปได้ชัดเจนว่าจะเกิดผลเช่นเดียวกับในคน

อาจช่วยยับยั้งเซลล์มะเร็ง

โพลีฟีนอลเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยป้องกันและยับยั้งความเสียหายของเซลล์จากอนุมูลอิสระ จึงช่วยลดโอกาสของการเกิดความผิดปกติและโรคต่าง ๆ รวมไปถึงโรคมะเร็งด้วย จากการศึกษาพบว่าโพลีฟีนอลที่พบในผลไม้อย่างลูกพีชอาจมีคุณสมบัติป้องกันการเติบโตและการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งบางชนิดได้

โดยงานวิจัยชิ้นหนึ่งระบุว่า สารสกัดจากรากของต้นพีชถูกใช้ในการรักษาโรคมะเร็งหลอดอาหารของแพทย์แผนจีน และอาจช่วยยับยั้งการเติบโตของเซลล์มะเร็งตับในหลอดทดลองอีกด้วย สอดคล้องกับอีกงานวิจัยหนึ่งที่ทดลองในหนู พบว่าลูกพีชอาจช่วยกระตุ้นการเผาผลาญสารพิษและช่วยป้องกันความเสียหายของเนื้อเยื่อจากการได้รับสารนิโคตินในบุหรี่ได้ อย่างไรก็ตาม ยังจำเป็นต้องศึกษาเพิ่มเติมถึงประสิทธิภาพในของลูกพีชในการยับยั้งการเติบโตและลุกลามของเซลล์มะเร็งในคนต่อไป

อาจช่วยลดความดันโลหิตและป้องกันโรคหลอดเลือดแดงแข็ง

การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคให้ดีต่อสุขภาพมากขึ้นเป็นส่วนหนึ่งในการป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด โดยการเลือกรับประทานผักและผลไม้อย่างลูกพีช รวมถึงไปถึงอาหารที่หลากหลายและมีประโยชน์ในแต่ละวัน ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายได้รับวิตามิน เกลือแร่ และสารอาหารอื่น ๆ อย่างสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยให้สุขภาพของหัวใจแข็งแรง 

ผลการวิจัยหนึ่งแสดงให้เห็นว่า ลูกพีชอาจมีผลในการขยายหลอดเลือดและช่วยลดความดันโลหิตในหนูได้ นอกจากนี้ เมล็ดของลูกพีชยังนำมาสกัดเป็นน้ำมันที่มีฤทธิ์ลดไขมันไม่ดีและเพิ่มไขมันดีในเซลล์ทดลอง จึงอาจเป็นประโยชน์ในการป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดแดงแข็ง (Atherosclerosis) ที่เกิดจากการสะสมของไขมันในหลอดเลือดแดงจนหลอดเลือดอุดตัน สอดคล้องกับอีกงานวิจัยหนึ่งที่ระบุว่า สารพรูเนทิน (Prunetin) ที่พบในลูกพีชสามารถช่วยลดความดันในเลือดในหนู และอาจนำไปใช้เป็นส่วนประกอบในยาเพื่อช่วยป้องกันหรือรักษาโรคความดันโลหิตสูงได้ อย่างไรก็ตาม งานวิจัยนี้เป็นเพียงการทดลองในสัตว์ จึงจำเป็นต้องมีการทดลองในมนุษย์เพิ่มเติม เพื่อยืนยันว่าลูกพีชมีประสิทธิภาพในการรักษาโรคความดันโลหิตสูงและป้องกันโรคหลอดเลือดแดงแข็งได้จริง

นอกจากนี้ ลูกพีชอาจมีประโยชน์ในป้องกันและรักษาโรคอื่น ๆ เช่น ช่วยในการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน บำรุงสายตา และช่วยในการทำงานของสมอง ทั้งนี้ ยังไม่มีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่เพียงพอ จึงจำเป็นต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อยืนยันประสิทธิภาพของลูกพีชต่อโรคหรือการเจ็บป่วยดังกล่าว

รับประทานลูกพีชอย่างไรให้ดีต่อสุขภาพ

ลูกพีชเป็นผลไม้ที่สามารถรับประทานได้ทั้งผลสดโดยปอกเปลือกออกก่อน สามารถนำไปทำอาหารคาวหรือหวานได้หลากหลาย เช่น ใส่ในสลัดหรือเมนูข้าวโอ๊ต ทำเป็นแยม ขนมหวานอย่างพาย หรือเครื่องดื่มคลายร้อนอย่างน้ำผลไม้ปั่นได้ บางคนอาจรับประทานลูกพีชแบบแปรรูปที่อาจหาซื้อได้ง่ายกว่า อย่างลูกพีชบรรจุกระป๋องหรือแบบแช่แข็ง แต่อาจให้สารอาหารไม่ครบถ้วน เพราะลูกพีชแปรรูปมักมีปริมาณน้ำตาลสูงและมักมีสารปรุงแต่งอาหารอื่น ๆ ดังนั้น หากเป็นไปได้ควรเลือกรับประทานลูกพีชสดแทนการรับประทานลูกพีชกระป๋องหรือลูกพีชแช่แข็ง

นอกจากนี้ เนื่องจากลูกพีชมีไขมันต่ำและมีใยอาหารสูง จึงเป็นหนึ่งในผลไม้ที่ได้รับการแนะนำในเมนูการรับประทานอาหารแบบเมดิเตอร์เรเนียน (Mediterranean Diet) ซึ่งเป็นรูปแบบการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพที่เชื่อกันว่ามีส่วนช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ โดยสามารถรับประทานลูกพีชกับโยเกิร์ตไขมันต่ำ นำลูกพีชไปปั่นเป็นน้ำผลไม้สมูทตี้ หรือโรยหน้าในเมนูอาหารว่างเพื่อสุขภาพต่าง ๆ ก็ถือว่าเป็นอาหารว่างที่ดีต่อสุขภาพแทนการรับประทานขนมขบเคี้ยวได้ดีเลยทีเดียว

อย่างไรก็ตาม การรับประทานลูกพีชอาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้ในบางคน โดยอาจพบอาการแพ้หลังรับประทาน ทำให้มีอาการคันหรือบวมบริเวณใบหน้า ริมฝีปาก ลิ้น และลำคอ หรือพบความผิดปกติอื่น เช่น ไอ ท้องเสีย หรืออาเจียน หากมีอาการเหล่านี้ ควรไปพบแพทย์ทันที