พรีไบโอติก กับประโยชน์ที่ควรรู้

หลายคนอาจเคยได้ยินว่าอาหารหลายชนิดมีพรีไบโอติก ซึ่งอาจช่วยให้สุขภาพของลำไส้และระบบขับถ่ายดีขึ้น อย่างไรก็ตาม คนอีกจำนวนมากอาจไม่เคยทราบเลยว่าพรีไบโอติกคืออะไร และมีประโยชน์ต่อลำไส้อย่างไรบ้าง ซึ่งสามารถหาคำตอบได้จากบทความนี้

พรีไบโอติก

พรีไบโอติก คืออะไร ?

พรีไบโอติก (Prebiotics) เป็นสารที่ร่างกายมนุษย์ไม่สามารถย่อยหรือดูดซึมในระบบทางเดินอาหารได้ โดยสารดังกล่าวเป็นแหล่งอาหารที่สำคัญของโพรไบโอติกส์ (Probiotics) ซึ่งเป็นแบคทีเรียหรือจุลินทรีย์ในลำไส้ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายของมนุษย์ ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้อย่างเป็นปกติ

นอกจากนี้ การรับประทานอาหารที่มีพรีไบโอติกก็อาจช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรง ช่วยเรื่องการเผาผลาญ และอาจมีประสิทธิภาพในด้านการต้านโรคบางชนิด เช่น โรคสมองจากโรคตับ โรคอ้วน ภาวะเมตาบอลิกซินโดรม โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคมะเร็งลำไส้ และโรคเบาหวานชนิดที่ 2 เป็นต้น รวมทั้งอาจช่วยป้องกันภาวะผื่นผิวหนังอักเสบและโรคแพ้อาหารในเด็กทารกได้อีกด้วย

โดยพรีไบโอติกมักพบได้ในผักและผลไม้ โดยเฉพาะผักหรือผลไม้ที่มีคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนอย่างไฟเบอร์และแป้งต้านการย่อย เช่น กระเทียม หัวหอม ข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ ข้าวโอ๊ต ถั่วเหลือง แอปเปิ้ล กล้วย และมะเขือเทศ เป็นต้น

พรีไบโอติก มีกระบวนการทำงานอย่างไร ?

ลำไส้ของมนุษย์เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของแบคทีเรียหลายชนิดที่มีส่วนช่วยในการย่อยอาหารและช่วยส่งเสริมสุขภาพของลำไส้ให้ดีขึ้น เมื่อรับประทานอาหารที่มีพรีไบโอติกเข้าไป กระบวนการย่อยอาหารจะสร้างสภาวะที่เหมาะสมต่อโพรไบโอติกส์ในทางเดินอาหารหรือลำไส้ ซึ่งกระบวนการนี้จะช่วยปรับสมดุลของแบคทีเรียที่ดีในลำไส้ และช่วยเสริมสร้างสุขภาพที่ดีให้กับระบบทางเดินอาหาร

รับประทานอาหารที่มีพรีไบโอติกอย่างไรให้เหมาะสม ?

การรับประทานอาหารที่มีพรีไบโอติกเพื่อประโยชน์ต่อสุขภาพนั้น ผู้บริโภคควรเลือกรับประทานอาหารแบบดิบ เนื่องจากการต้มหรือการใช้ความร้อนอาจทำให้ปริมาณพรีไบโอติกในอาหารชนิดนั้นลดลงได้ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าคนส่วนใหญ่จะสามารถรับประทานอาหารที่มีพรีไบโอติกได้อย่างปลอดภัย แต่ผู้บริโภคบางรายก็อาจเผชิญกับผลข้างเคียงบางอย่างได้เช่นกัน ดังนั้น ก่อนรับประทานผลิตภัณฑ์อาหารเสริมใด ๆ ที่มีพรีไบโอติก ควรขอคำแนะนำจากแพทย์หรือเภสัชกรเกี่ยวกับความปลอดภัยก่อนเสมอ