รักทางไกลเป็นความสัมพันธ์ที่สร้างความลำบากใจให้คู่รักหลายคู่ เพราะความห่างไกลเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ความสัมพันธ์จืดจางลง แต่ด้วยความจำเป็นบางอย่าง เช่น การไปเรียนต่อต่างประเทศ การทำงานต่างจังหวัด หรือการพบรักกับคนอีกซีกโลกผ่านโลกออนไลน์ ทำให้คู่รักหลายคู่จำเป็นต้องห่างกันอย่างเลี่ยงไม่ได้
เชื่อว่าหากสามารถเลือกได้ คู่รักหลายคู่อาจต้องการเลือกการอยู่ใกล้กันมากกว่า เพราะคู่รักสามารถไปมาหาสู่และทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกันได้ แต่เมื่อมีรักทางไกล คู่รักจำเป็นต้องใช้ความพยายามมากกว่าปกติเพื่อประคับประคองความสัมพันธ์ให้ยืนยาว แม้จะฟังดูเป็นเรื่องยาก แต่หากทั้งคู่เชื่อใจ เข้าใจซึ่งกันและกัน และติดต่อกันอย่างสม่ำเสมอ ระยะทางก็ไม่ใช่อุปสรรคที่จะทำลายความรักระหว่างทั้งสองฝ่าย
ข้อดีและข้อเสียของรักทางไกล
รักทางไกลเป็นอุปสรรคใหญ่ที่ทำให้ความสัมพันธ์ของคู่รักหลายคู่สิ้นสุดลง เพราะยิ่งระยะทางและเวลาห่างกันมากเท่าไร ความสัมพันธ์มักยิ่งไม่แน่นแฟ้น โดยความสัมพันธ์แบบรักทางไกลมีข้อเสียหลายด้าน เช่น
- เสียเวลาและค่าใช้จ่ายในการไปมาหาสู่กัน เช่น หากคู่รักอยู่ต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมักต้องจัดสรรเวลาในวันหยุดเพื่อเดินทางไปหาคนรัก ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายตามมา เช่น ค่าโดยสาร จึงทำให้เสียเวลาส่วนตัวในการพักผ่อนและสิ้นเปลืองเงินทองมากกว่าคู่รักที่อยู่ใกล้กัน
- เกิดความเครียดในการรักษาความสัมพันธ์ ความไม่ไว้ใจในตัวอีกฝ่าย และความระแวงว่าจะเกิดการนอกใจ ซึ่งอาจทำให้คู่รักไม่สามารถรับมือกับปัญหาต่าง ๆ และอาจนำไปสู่การแยกทางกันได้
- ทำให้ทั้งคู่รักไม่ได้ทำความรู้จักกันดีเท่าที่ควรก่อนพัฒนาความสัมพันธ์ เพราะรักทางไกลทำให้คู่รักใช้เวลาร่วมกันน้อยกว่าคู่รักที่อยู่ใกล้กัน
- มีโอกาสพูดคุยกันน้อย โดยเฉพาะในปัจจุบันที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้คู่รักหลายคู่ไม่สามารถเดินทางไปพบกันได้ แม้จะพูดคุยกันทางโทรศัพท์หรือวิดีโอคอล แต่ไม่สามารถหาเวลาว่างที่ตรงกันได้ทุกวัน ทำให้ความผูกพันอาจไม่แน่นแฟ้นเท่าคู่รักที่อยู่ด้วยกันหรือไปมาหาสู่กันได้สะดวก
อย่างไรก็ตาม รักทางไกลไม่ได้มีเฉพาะข้อเสีย แต่มีข้อดีด้วยเช่นกัน โดยงานวิจัยชิ้นหนึ่งระบุว่า คู่รักที่มีความสัมพันธ์แบบรักทางไกลอาจสร้างความผูกพันที่แน่นแฟ้นกว่าคู่รักทั่วไป เพราะความห่างกันทำให้คู่รักคิดถึงกันมากขึ้น และรู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้มาพบปะทำกิจกรรมร่วมกัน นอกจากนี้ ความห่างไกลอาจทำให้ทั้งสองฝ่ายมีเวลาส่วนตัวและใช้เวลาว่างกับเพื่อนและคนในครอบครัวมากขึ้น
เทคนิคกระชับความสัมพันธ์ของคู่รักทางไกล
รักทางไกลต้องใช้ความเข้าใจและความเชื่อใจระหว่างกัน หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่พยายามปรับตัวเข้าหากัน ความสัมพันธ์มักไม่ราบรื่นและจบลงด้วยการแยกทางกัน หากใครกำลังมีรักทางไกลสามารถนำเทคนิคดูแลความสัมพันธ์ต่อไปนี้ไปลองใช้ดูได้
- หาเวลาติดต่อกันอย่างสม่ำเสมอ โดยกำหนดเวลาที่ว่างตรงกันในแต่ละวันเพื่อติดต่อกันผ่านโทรศัพท์หรือวิดีโอคอล หรือหากไม่สามารถทำได้ อาจใช้เวลาสั้น ๆ เช่น ช่วงพักเที่ยงหรือหลังเลิกงานส่งข้อความหากันบ่อย ๆ เพื่อไม่ให้ขาดการติดต่อกันนานเกินไป
- หาเวลานัดเจอกันบ้าง เพราะการพูดคุยและใช้เวลาร่วมกันกับอีกฝ่ายจะสร้างความรู้สึกผูกพันกันมากกว่าการพูดคุยผ่านโทรศัพท์หรือโซเชียลมีเดีย และหากมีเวลาได้เจอกัน ควรใช้เวลาด้วยกันอย่างเต็มที่เพื่อชดเชยช่วงเวลาที่ต้องห่างกัน
- พูดคุยแต่เรื่องดี ๆ เช่น ถามเรื่องอาหารการกิน เล่าเรื่องตลกที่เจอในวันนั้น และแสดงความเป็นห่วงอีกฝ่าย โดยหลีกเลี่ยงการจับผิด ถามจุกจิก หรือคุยเรื่องที่ชวนให้เกิดการทะเลาะกัน
- เชื่อใจกันและกัน โดยไม่คิดมากหรือคอยระแวงว่าอีกฝ่ายจะทำอะไรอยู่และไปไหนกับใคร เพราะจะทำให้ตัวเราเครียดไปด้วย
- สร้างความเชื่อใจให้อีกฝ่ายโดยบอกให้เพื่อนและคนในครอบครัวรับรู้ว่าเรากำลังคบหากับใครอยู่ ซึ่งจะช่วยยืนยันความจริงใจและสร้างความเชื่อมั่นในความสัมพันธ์
- เติมความหวานให้แก่กันบ้าง เช่น บอกรัก และส่งของขวัญวันเกิดหรือวันครบรอบให้
- อย่าลืมดูแลตัวเอง แม้รักทางไกลจะต้องใช้ความพยายามในการรักษาความสัมพันธ์ระหว่างคู่รัก แต่ไม่ควรให้ความรักกลายเป็นอุปสรรคต่อการใช้ชีวิตด้านอื่น ๆ ของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการเรียน การทำงาน และการใช้เวลาว่างกับเพื่อนหรือครอบครัว รวมทั้งควรแบ่งเวลามาดูแลตัวเองอย่างสม่ำเสมอ เช่น ออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และพักผ่อนให้เพียงพอ
ความรักมักไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว รักทางไกลก็เช่นเดียวกัน ความรักจะยืนยาวหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับความพยายามและความเข้าใจของคู่รัก การติดต่อสื่อสารกันอย่างสม่ำเสมอ การเอาใจใส่ใจซึ่งกันและกัน และไม่ปิดบังความรู้สึกของตัวเอง ซึ่งจะช่วยให้รักทางไกลเป็นไปอย่างราบรื่น แต่หากคุณรู้สึกเครียดหรือมีปัญหาในการจัดการกับความรักทางไกลบ่อยครั้ง อาจเลือกปรึกษานักจิตวิทยาเพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสม
