ปัสสาวะบ่อยตอนกลางคืน สัญญาณของปัญหาสุขภาพที่ไม่ควรละเลย

หากคุณต้องตื่นขึ้นมากลางดึกเพื่อปัสสาวะมากกว่า 1 ครั้งต่อคืน อาจเป็นสัญญาณว่าคุณมีอาการของโรคปัสสาวะบ่อยตอนกลางคืน (Nocturia) ซึ่งเป็นอาการกวนใจที่ทำให้หลายคนตื่นขึ้นมากลางดึก และมักส่งผลให้นอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ และกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันในเช้าวันถัดไป จนอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพด้านอื่น ๆ ได้

โดยทั่วไป ร่างกายจะผลิตปัสสาวะออกมาน้อยลงในช่วงเวลากลางคืน จึงทำให้เรานอนหลับได้อย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 6-8 ชั่วโมงโดยที่ไม่ต้องตื่นมาปัสสาวะกลางดึก อาการปัสสาวะบ่อยตอนกลางคืนพบได้ทุกเพศทุกวัย แต่อาจพบมากในชายสูงอายุ ซึ่งอาจเกิดได้จากหลายปัจจัย ทั้งพฤติกรรมก่อนนอนและปัญหาสุขภาพต่าง ๆ บทความนี้ได้รวบรวมสาเหตุและวิธีรับมือกับการปัสสาวะบ่อยตอนกลางคืนให้ได้ผลมาฝากกัน

Nocturia : possible cause of nighttime excessive urination

ปัสสาวะบ่อยตอนกลางคืนเกิดจากอะไร

อาการปัสสาวะบ่อยตอนกลางคืนอาจเกิดจากสาเหตุต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

  1. ร่างกายผลิตปัสสาวะมากผิดปกติในตอนกลางคืน

สาเหตุของอาการปัสสาวะบ่อยตอนกลางคืนที่พบได้บ่อยที่สุดคือร่างกายผลิตปัสสาวะมากผิดปกติเฉพาะในตอนกลางคืน (Nocturnal Polyuria) ผู้ที่มีภาวะนี้จะมีอัตราส่วนปริมาณปัสสาวะตอนกลางคืนเพิ่มขึ้นกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ของปริมาณปัสสาวะทั้งวันในวัยผู้ใหญ่ และเพิ่มขึ้นเกิน 33 เปอร์เซ็นต์ในผู้สูงอายุ โดยปริมาณปัสสาวะในช่วงกลางวันจะอยู่ในระดับปกติ หรือในบางรายอาจน้อยกว่าปกติ ซึ่งเป็นอาการที่พบมากในผู้สูงอายุ และอาจเกิดขึ้นจากปัจจัยดังต่อไปนี้ 

  • โรคและภาวะผิดปกติของร่างกาย เช่น อาการบวมน้ำ (Edema) ที่บริเวณขา ภาวะหัวใจล้มเหลว ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Obstructive Sleep Apnea)
  • การใช้ยาบางชนิด อย่างยาขับปัสสาวะ (Diuretics)
  • การดื่มน้ำหรือเครื่องดื่มต่าง ๆ ในปริมาณมากก่อนนอน โดยเฉพาะเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนหรือแอลกอฮอล์
  • การรับประทานอาหารที่มีโซเดียมสูง
  1. ร่างกายผลิตปัสสาวะมากผิดปกติตลอดทั้งวัน

อาการปัสสาวะบ่อยตอนกลางคืนอาจเกิดจาก Polyuria ซึ่งเป็นภาวะที่ร่างกายผลิตปัสสาวะมากผิดปกติทั้งในตอนกลางวันและกลางคืน โดยปกติแล้ว ปริมาณปัสสาวะของเรามักไม่เกิน 3 ลิตรต่อวัน แต่ผู้ที่มีภาวะปัสสาวะมากผิดปกติจะมีปริมาณปัสสาวะรวมกันมากกว่า 3 ลิตร หรืออาจมากถึง 15 ลิตรต่อวัน โดยภาวะปัสสาวะมากอาจเกิดจากปัจจัยดังต่อไปนี้

  • โรคเกี่ยวกับกระเพาะปัสสาวะและทางเดินปัสสาวะ เช่น การติดเชื้อในกระเพาะปัสสาวะ และภาวะกลั้นปัสสาวะไม่ได้
  • อาการดื่มน้ำมากผิดปกติ (Polydipsia) 
  • ภาวะแคลเซียมในเลือดสูง (Hypercalcemia)
  • โรคต่อมลูกหมากโตที่มักพบในเพศชายที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป
  • โรคเบาหวาน และโรคเบาจืด (Diabetes Insipidus)
  • โรคไต เช่น ไตวาย และนิ่วในไต
  • โรคมะเร็งบางชนิด
  • การดื่มน้ำมากเกินไป รวมทั้งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน
  • การใช้ยาบางชนิด อย่างยาขับปัสสาวะ
  1. ปัญหาความจุของกระเพาะปัสสาวะ

บางครั้งอาการปัสสาวะบ่อยตอนกลางคืนอาจไม่ได้เกิดจากร่างกายผลิตปัสสาวะมากกว่าปกติ แต่เกิดจากกระเพาะปัสสาวะบรรจุปัสสาวะได้น้อยลง จึงทำให้ปัสสาวะบ่อยขึ้น ซึ่งสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดคือการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ (UTI) หรือในกระเพาะปัสสาวะ ทำให้รู้สึกเจ็บหรือแสบร้อนขณะปัสสาวะ และปัสสาวะบ่อยกว่าปกติทั้งในตอนกลางวันและกลางคืน

ปัญหาความจุของกระเพาะปัสสาวะอาจเกิดจากโรคต่อมลูกหมากโตในเพศชาย ซึ่งพบมากในชายสูงอายุ หรืออาจเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของร่างกายหลังหมดประจำเดือนในเพศหญิงที่อาจส่งผลกระทบต่อการขับถ่ายปัสสาวะ

นอกจากนี้กระเพาะปัสสาวะอาจมีความจุลดลงได้ในผู้ที่มีภาวะกระเพาะปัสสาวะบีบตัวไวเกิน (Overactive Bladder) โรคมะเร็งในกระเพาะปัสสาวะ ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ การใช้ยาขับปัสสาวะ การดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนหรือแอลกอฮอล์ ความวิตกกังวล และการผ่าตัด 

  1. ปัญหาด้านการนอนหลับ

บางคนอาจเข้าใจว่าการตื่นมาเข้าห้องน้ำกลางดึกเกิดจากอาการปวดปัสสาวะ แต่ความจริงแล้วอาจเกิดจากความผิดปกติของการนอนหลับ เช่น ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ โรคนอนไม่หลับ นอนกรน อาการขาอยู่ไม่สุข อาการร้อนวูบวาบ (Hot Flashes) อาการปวดเรื้อรัง และโรคซึมเศร้า 

ทั้งนี้ ผู้ที่มีความผิดปกติด้านการนอนหลับมักนอนหลับต่อได้ยากหลังตื่นมาปัสสาวะ หรือรู้สึกอ่อนเพลียในตอนเช้าโดยไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงของการตื่นนอนกลางดึก เนื่องจากอาจรู้สึกเพียงว่าต้องปัสสาวะ ทั้งนี้ความผิดปกตินี้มักพบมากในผู้สูงอายุ เนื่องจากมีวงจรการนอนหลับในช่วงหลับลึกสั้นกว่าในวัยอื่น ๆ ทำให้มีโอกาสตื่นกลางดึกได้ง่าย

  1. ปัจจัยอื่น

ปัจจัยอื่นที่อาจส่งผลให้เกิดการปัสสาวะตอนกลางคืน ได้แก่

  • เนื้องอกในกระเพาะปัสสาวะหรือต่อมลูกหมาก
  • ความผิดปกติทางระบบประสาท เช่น โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง (Multiple Sclerosis) โรคพาร์กินสัน และโรคอัลไซเมอร์
  • โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ (Interstitial Cystitis)
  • โรควิตกกังวล
  • ภาวะหัวใจล้มเหลว และตับวาย
  • ภาวะติดเชื้อในไต
  • ภาวะตั้งครรภ์
  • โรคอ้วน

รับมือกับอาการปัสสาวะบ่อยตอนกลางคืนให้ได้ผล

การปรับพฤติกรรมในด้านต่าง ๆ อาจช่วยลดปัญหาการปัสสาวะบ่อยตอนกลางคืนได้ ดังนี้

  • จำกัดการดื่มน้ำหรือเครื่องดื่มต่าง ๆ โดยเฉพาะเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์หรือคาเฟอีนในช่วงเย็นหรือก่อนเข้านอนเป็นเวลา 2–4 ชั่วโมง
  • จัดห้องนอนให้เอื้อต่อการนอนหลับ โดยห้องนอนไม่ควรมีเสียงรบกวน หรือมีแสงสว่างมากจนเกินไป ปรับอุณหภูมิในห้องนอนให้เหมาะสม และเลือกเครื่องนอน อย่างหมอนและที่นอนที่ทำให้นอนหลับสบาย
  • เข้านอนและตื่นนอนให้เป็นเวลาทุกวัน 
  • หลีกเลี่ยงการใช้โทรศัพท์มือถือหรือคอมพิวเตอร์ก่อนนอน เนื่องจากแสงสีฟ้า (Blue light) จากอุปกรณ์เหล่านี้อาจกระตุ้นให้สมองตื่นตัว และลดการผลิตฮอร์โมนเมลาโทนิน (Melatonin) ที่ช่วยในการนอนหลับ
  • ดูแลสุขภาพให้แข็งแรง โดยออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และผ่อนคลายความเครียดด้วยวิธีที่เหมาะสม อย่างการทำสมาธิ เล่นโยคะ ฟังเพลงเบาๆ หรือแช่น้ำอุ่น
  • จดบันทึกการดื่มน้ำและการปัสสาวะในแต่ละวัน รวมทั้งจดบันทึกการชั่งน้ำหนักในเวลาเดียวกันทุกวัน
  • ผู้ที่มีอาการบวมน้ำ ควรยืดหรือเหยียดขาให้สูงกว่าระดับหัวใจในช่วงก่อนนอน หรือใช้หมอนหนุนบริเวณขาขณะนอนหลับ เพื่อลดการสะสมของของเหลวบริเวณขา

หากใช้วิธีข้างต้นแล้วอาการยังไม่ดีขึ้น ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุของการปัสสาวะบ่อยตอนกลางคืน และรับการรักษาอย่างเหมาะสม สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว ควรเข้ารับการรักษา รับประทานยาตามแพทย์สั่ง ดูแลสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ และไปพบแพทย์ตามการนัดหมาย  หากรับประทานยาขับปัสสาวะแล้วพบว่ามีปัญหาปัสสาวะบ่อยตอนกลางคืน ควรปรึกษาแพทย์ ซึ่งแพทย์อาจแนะนำให้ปรับเวลารับประทานยาให้เร็วขึ้น

อาการปัสสาวะบ่อยตอนกลางคืนส่งผลกระทบต่อวงจรการนอนหลับโดยตรง และหากไม่ได้รับการรักษา อาจนำไปสู่ภาวะอดนอน (Sleep Deprivation) อ่อนเพลีย อารมณ์แปรปรวน และกระทบต่อการทำกิจกรรมในชีวิตประจำวัน การปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำในการปรับพฤติกรรมและรับการรักษาจะช่วยแก้ไขปัญหาด้านการนอนหลับและอาการปัสสาวะบ่อยตอนกลางคืนได้