ประโยชน์ของน้ำมะพร้าวที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรรู้

น้ำมะพร้าวกับความเชื่อเกี่ยวกับคนท้องนั้นมีมากมาย บางคนเชื่อว่าหากคนท้องดื่มน้ำมะพร้าวอาจทำให้แท้งลูก แต่บางคนก็บอกว่าหากคุณแม่ดื่มน้ำมะพร้าวตอนท้องจะช่วยให้ลูกน้อยที่คลอดออกมามีผิวขาวใส กลายเป็นความสงสัยถึงประโยชน์ของการดื่มน้ำมะพร้าวในขณะตั้งครรภ์

น้ำมะพร้าวอุดมไปด้วยสารอาหารหลายชนิด ทั้งวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย แต่หลายคนยังคงไม่แน่ใจว่าน้ำมะพร้าวจะยังมีประโยชน์ต่อคุณแม่หรือเป็นอันตรายกันแน่ขณะตั้งครรภ์ มาดูข้อเท็จจริงเรื่องน้ำมะพร้าวและคนท้องได้จากบทความนี้

ประโยชน์ของน้ำมะพร้าวที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรรู้

ประโยชน์ของการดื่มน้ำมะพร้าวขณะตั้งท้อง

สารอาหารในน้ำมะพร้าวจะช่วยเสริมสุขภาพของคุณแม่และทารกในครรภ์ จึงอาจลดความเสี่ยงของปัญหาสุขภาพและภาวะแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์ดังต่อไปนี้ได้

  1. ป้องกันการขาดน้ำ

แพทย์อาจแนะนำให้คุณแม่ดื่มน้ำมากขึ้นเมื่อตั้งท้อง โดยเฉลี่ยประมาณวันละ 3 ลิตร หรือ 8–12 แก้วต่อวัน เพราะร่างกายของคุณแม่ต้องการน้ำสำหรับลูกน้อย การขาดน้ำจะทำให้เกิดอันตรายต่อตัวคุณแม่และทารก โดยพบอาการปวดหัว เวียนหัว คลื่นไส้ เป็นตะคริว และตัวบวมได้

ดังนั้นการดื่มน้ำมะพร้าวจึงช่วยป้องกันไม่ให้ร่างกายคุณแม่ขาดน้ำและได้รับของเหลวต่อวันเพิ่มขึ้น อีกทั้งน้ำมะพร้าวยังมีรสชาติอร่อย ดื่มง่าย ช่วยให้สดชื่นและลดอาการเหนื่อยอ่อนเพลียที่มักพบระหว่างตั้งท้องได้อีกด้วย

  1. ป้องกันภาวะไม่สมดุลของเกลือแร่ในร่างกาย

ภาวะไม่สมดุลของเกลือแร่ในร่างกาย (Electrolyte Imbalance) เป็นภาวะที่เกิดขึ้นเมื่อร่างกายเสียสมดุลของเกลือแร่กลุ่มอิเล็กโทรไลต์ที่ช่วยรักษาการทำงานของร่างกายให้เป็นปกติ ไม่ว่าจะเป็นสมอง กล้ามเนื้อ เส้นประสาท และระบบอื่น ๆ ภาวะนี้มักเกิดเมื่อร่างกายขาดน้ำ หากคุณแม่ดื่มน้ำไม่เพียงพอหรือสูญเสียน้ำในร่างกายปริมาณมาก

อาการแพ้ท้องมักเกิดขึ้นในช่วงแรกของการตั้งครรภ์ อาการคลื่นไส้อาเจียนจะทำให้คุณแม่สูญเสียน้ำและเกลือแร่ภายในร่างกาย จนอาจทำให้เกิดอาการขาดน้ำและภาวะไม่สมดุลของเกลือแร่ได้ ดังนั้นการดื่มน้ำมะพร้าวจึงอาจช่วยชดเชยของเหลวและเกลือแร่ภายในร่างกายจากอาการแพ้ท้อง รวมถึงคุณแม่ที่สูญเสียเหงื่อจากการออกกำลังกายระหว่างตั้งครรภ์ด้วย

  1. บรรเทาปัญหาการขับถ่าย

ในช่วงตั้งท้อง ฮอร์โมนภายในร่างกายของคุณแม่จะเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ซึ่งฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน (Progesterone) ที่สูงขึ้นจะส่งผลให้ลำไส้ทำงานน้อยลง ร่วมกับตัวของทารกที่โตขึ้นจนมดลูกเบียดกับลำไส้และกระเพาะอาหาร คุณแม่หลายคนจึงอาจพบกับอาการกรดไหลย้อน และท้องผูกระหว่างตั้งครรภ์ได้

คนบางกลุ่มยังเชื่อว่าสารอาหารในน้ำมะพร้าวยังมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อน ๆ จึงช่วยบรรเทาอาการท้องผูกที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย แต่ปัจจุบันยังไม่มีงานวิจัยที่ยืนยันหรือสนับสนุนแนวคิดนี้ ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการศึกษาเพิ่มเติม

  1. ลดความเสี่ยงภาวะแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์

แร่ธาตุหรือเกลือแร่ในน้ำมะพร้าวเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ และยังจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของตัวอ่อนในครรภ์ด้วย คุณแม่บางคนอาจสังเกตได้ว่าระหว่างตั้งครรภ์คุณหมอมักสั่งจ่ายอาหารเสริมให้คุณแม่เพื่อใช้ชดเชยสารอาหารบางชนิดที่ทารกต้องการ

ผลการทดลองหนึ่งได้เปรียบเทียบคนท้อง 3 กลุ่ม โดยแต่ละกลุ่มจะได้รับอาหารเสริมแมกนีเซียมในช่วงและรูปแบบที่ต่างกัน พบว่า คนท้องกลุ่มที่ได้รับแมกนีเซียมในปริมาณที่เหมาะสมติดต่อกันเป็นประจำจะมีความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนน้อยกว่ากลุ่มอื่น

ซึ่งในน้ำมะพร้าวมีแร่ธาตุหลายชนิดที่ช่วยเสริมการเติบโตของทารกและลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนได้ เช่น

  • แมกนีเซียมช่วยเพิ่มน้ำหนักตัวให้กับทารกและลดความเสี่ยงของภาวะครรภ์เป็นพิษ (Preeclampsia)
  • โพแทสเซียมช่วยควบคุมความดันเลือด ซึ่งลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนระหว่างการตั้งครรภ์ อย่างการคลอดก่อนกำหนด ภาวะรกลอกตัวก่อนกำหนด (Placental Abruption) และทารกในครรภ์โตช้า (Fetal Growth Restriction) เป็นต้น
  • แคลเซียมจำเป็นต่อพัฒนาการของด้านร่างกายของทารก โดยเฉพาะกระดูกและฟัน

นอกจากสรรพคุณของเกลือแร่แล้ว สารอาหารบางอย่างในน้ำมะพร้าวอาจช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงและลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ อย่างภาวะติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะที่อาจพบได้มากขึ้นเมื่อตั้งท้อง (Urinary Tract Infections: UTI)

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าน้ำมะพร้าวจะดูเหมือนส่งผลดีต่อคนท้องในหลายด้าน แต่ปัจจุบันหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถชี้ชัดว่าน้ำมะพร้าวมีประโยชน์ต่อคนท้องทุกคนหรือไม่ โดยบางสรรพคุณยังไม่มีการยืนยันถึงประโยชน์ที่แน่ชัด และแม้ว่าสารอาหารในน้ำมะพร้าวมีประโยชน์จริง แต่อาจยังไม่เพียงพอตามที่ร่างกายต้องการต่อวัน อีกทั้งน้ำมะพร้าวเป็นเพียงเครื่องดื่มเท่านั้นไม่ใช่ยารักษาโรคจึงไม่ควรดื่มเพื่อหวังผลในการรักษาโรค บรรเทาอาการ หรือป้องกันการเจ็บป่วย

ความเชื่อกับข้อเท็จจริงของการดื่มน้ำมะพร้าวตอนท้อง

มาดูกันว่าบางความเชื่อเรื่องน้ำมะพร้าวกับคนท้องเป็นเรื่องจริงหรือไม่

การดื่มน้ำมะพร้าวตอนท้องทำให้แท้งลูกจริงหรือ?

คำตอบ คือ ไม่จริง เพราะในปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์และงานวิจัยใดที่บ่งบอกว่าการดื่มน้ำมะพร้าวขณะท้องส่งผลให้แท้ง หรือส่งผลให้เกิดอันตรายต่อคุณแม่และทารกได้

การดื่มน้ำมะพร้าวตอนท้องช่วยให้ลูกผิวขาวจริงหรือ?

คำตอบ คือ ไม่จริงเช่นเดียวกัน แม้ว่าน้ำมะพร้าวจะมีสารอาหารที่ร่างกายต้องการ แต่สารอาหารเหล่านั้นไม่เกี่ยวข้องอะไรกับสภาพผิวหรือสีผิว เพราะสีผิวนั้นขึ้นอยู่กับปริมาณของเม็ดสีที่เรียกว่าเมลานิน (Melanin) หากจำนวนเมลานินเยอะขึ้นก็ทำให้สีผิวเข้มขึ้น ซึ่งการผลิตเม็ดสีก็ขึ้นอยู่กับพันธุกรรมและปัจจัยภายนอก ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงด้วยการรับประทานอาหารหรือดื่มเครื่องดื่มขณะตั้งท้อง

ด้วยเหตุนี้ จึงสรุปได้ว่าการดื่มน้ำมะพร้าวตอนท้องไม่ได้ช่วยให้ลูกน้อยที่คลอดออกมาผิวขาวใส และการดื่มน้ำมะพร้าวตอนท้องก็ไม่ได้ทำให้แท้งลูกด้วย ในทางกลับกัน การดื่มน้ำมะพร้าวตอนท้องอาจช่วยให้คุณแม่และลูกน้อยในครรภ์ได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์มากขึ้น

เรื่องควรรู้ก่อนดื่มน้ำมะพร้าวระหว่างตั้งท้อง

ส่วนใหญ่การดื่มน้ำมะพร้าวจะไม่ส่งผลเสียต่อคนท้อง แต่เพื่อความปลอดภัย คุณแม่ควรดื่มน้ำมะพร้าวในปริมาณที่เหมาะสม เพราะน้ำมะพร้าวมีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบ หากดื่มมากเกินไปอาจเพิ่มความเสี่ยงของภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์ได้ (Gestational Diabetes) และถ้าแพ้น้ำมะพร้าว คุณแม่ห้ามดื่มน้ำมะพร้าวเด็ดขาด เพราะอาจเป็นอันตรายร้ายแรงกับทั้งตัวคุณแม่และลูกในท้องได้

หากคุณแม่ชื่นชอบการดื่มน้ำมะพร้าว ควรดื่มในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อจำกัดปริมาณน้ำตาล และควรจำกัดการดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลหรือการรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลสูงในวันเดียวกันด้วย

นอกจากนี้น้ำมะพร้าวสดอาจดีต่อคุณแม่มากกว่าน้ำมะพร้าวสำเร็จรูป เพราะลดความเสี่ยงจากการได้รับวัตถุเจือปนอาหาร แต่ก็ควรเลือกน้ำมะพร้าวจากร้านที่สะอาด ดูน่าเชื่อถือ รวมทั้งไม่ดื่มน้ำมะพร้าวค้างคืนเพื่อลดความเสี่ยงของการเจ็บป่วย โดยเฉพาะอาการอาหารเป็นพิษที่ทำให้ท้องร่วงและอาเจียน เพราะจะทำให้สูญเสียน้ำ เกลือแร่ และเป็นอันตรายได้ อีกทั้งการป่วยด้วยการติดเชื้อก็จะส่งผลต่อลูกน้อยในท้องได้เช่นกัน

น้ำมะพร้าวเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีเมื่อคุณแม่ต้องการความสดชื่น แต่เพื่อสุขภาพร่างกายและสุขภาพครรภ์ที่แข็งแรง คุณแม่ควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำเปล่าในปริมาณที่เหมาะสม ใช้อาหารเสริมตามแพทย์สั่ง หมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพออยู่เสมอ หากพบอาการผิดปกติหรือรู้สึกไม่สบาย ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจและรักษาอย่างเหมาะสม