Rosehip Oil น้ำมันโรสฮิปและประโยชน์ต่อผิวพรรณ

Rosehip Oil หรือน้ำมันโรสฮิปได้รับความนิยมในกลุ่มคนที่ชื่นชอบการบำรุงผิว เป็นน้ำมันที่สกัดจากต้นกุหลาบป่าที่นิยมปลูกในประเทศแถบยุโรป แอฟริกา และเอเชียบางพื้นที่ โดยสายพันธุ์ที่นิยมสกัดเป็น Rosehip Oil คือ Rosa Canina ซึ่งโรสฮิปอุดมไปด้วยวิตามินซี วิตามินอี วิตามินบี รวมทั้งมีสารต้านอนุมูลอิสระ แร่ธาตุ และสารอื่นที่มีประโยชน์ในการต้านการอักเสบในร่างกาย 

หลายคนเข้าใจว่าน้ำมันโรสฮิปคือน้ำมันดอกกุหลาบ แต่ความจริงแล้วน้ำมันกุหลาบได้จากการสกัดกลีบกุหลาบ ส่วนน้ำมันโรสฮิปได้จากผลและเมล็ดของต้นกุหลาบป่า น้ำมันโรสฮิปนิยมนำมาใช้ในการบำรุงผิวและรักษาโรคบางชนิด นอกจากน้ำมันทาผิวแล้ว โรสฮิปอาจนำมาสกัดเป็นผงชาสำหรับชงดื่มและครีมทาผิวด้วย  

Rosehip Oil น้ำมันโรสฮิปและประโยชน์ต่อผิวพรรณ

คุณประโยชน์ของ Rosehip Oil

Rosehip Oil มีประโยชน์หลายด้าน โดยเฉพาะการดูแลผิวพรรณให้เรียบเนียน กระจ่างใส ลดริ้วรอย และมีคุณสมบัติต้านการอักเสบ จึงนิยมนำไปเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวต่าง ๆ โดยประโยชน์หลักของ Rosehip Oil ต่อผิวพรรณ ได้แก่

  1. บำรุงผิวให้กระจ่างใส

Rosehip Oil อุดมไปด้วยวิตามินซีสูงไม่แพ้ส้มและเลมอน ซึ่งวิตามินซีมีคุณสมบัติต่อต้านอนุมูลอิสระwww.pobpad.com/สารต้านอนุมูลอิสระ-ประโ ป้องกันความเสียหายของเซลล์จากการถูกทำลายของรังสียูวีในแสงแดด และช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วและเร่งการสร้างเซลล์ผิวใหม่ 

นอกจากนี้ยังมีสารแคโรทีนอยด์ (Carotenoids) อย่างไลโคปีน (Lycopene) และเบต้าแคโรทีน (Beta Carotene) ที่ช่วยให้ผิวกระจ่างใสและสุขภาพดี รวมทั้งมีวิตามินเอสูง ซึ่งประกอบด้วยสารเรตินอยด์ (Retinoids) ที่มีคุณสมบัติเด่นในการช่วยลดจุดด่างดำ ทำให้สีผิวสม่ำเสมอ และลดริ้วรอยเมื่อใช้อย่างต่อเนื่อง

  1. เติมความชุ่มชื้นให้ผิว

Rosehip Oil เป็นน้ำมันเนื้อบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ และอุดมไปด้วยกรดไขมันที่จำเป็นต่อผิว เช่น กรดไลโนเลอิก (Linoleic) และกรดไลโนเลนิก (Linolenic) ซึ่งช่วยเสริมความแข็งแรงของผนังเซลล์และลดการสูญเสียความชุ่มชื้นออกจากผิวหนัง ไม่ว่าคุณจะมีผิวแห้งหรือผิวมันก็เลือกใช้น้ำมันโรสฮิปในการบำรุงผิวได้

  1. ป้องกันริ้วรอย

รังสียูวีในแสงแดดเป็นตัวการสำคัญที่ทำร้ายผิวของเรา โดยรังสียูวีบี (UVB) จะทำให้ผิวคล้ำเสียและไหม้แดด และรังสียูวีเอ (UVA) จะแทรกลึกถึงผิวชั้นกลางจนไปทำลายคอลลาเจน (Collagen) ในผิว และยับยั้งการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้เกิดริ้วรอยและผิวหย่อนคล้อย อีกทั้งการสัมผัสรังสียูวีเป็นเวลานานอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งผิวหนังได้

Rosehip Oil ประกอบด้วยสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด เช่น วิตามินเอ วิตามินซี และวิตามินอี ซึ่งช่วยปกป้องผิวจากการถูกทำลายจากแสงแดดและป้องกันการเกิดริ้วรอยได้

  1. ลดการอักเสบของผิว

สารสกัดจาก Rosehip มีคุณสมบัติต้านการอักเสบ จึงอาจช่วยในการรักษาโรคผิวหนังที่เกิดจากการอักเสบในร่างกายอย่างโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (Atopic Dermatitis) และอาจช่วยลดการระคายเคืองจากโรคผิวหนังอักเสบโรซาเชีย (Rosacea) โรคสะเก็ดเงิน และโรคผิวหนังอักเสบ (Dermatitis) 

การใช้ Rosehip Oil เพื่อบรรเทาอาการของโรคผิวหนัง ให้ทาน้ำมันลงบริเวณผิวหนังที่มีอาการเหมือนกับการใช้แทนมอยส์เจอร์ไรเซอร์ โดยให้ทาหลังจากการอาบน้ำอุ่นและเช็ดตัวให้แห้งแล้ว

คุณสมบัติต้านการอักเสบของ Rosehip Oil ยังมีประโยชน์ในการรักษาสิวโดยลดการอักเสบของสิว และกรดไลโนเลอิกช่วยควบคุมการผลิตน้ำมันส่วนเกิน จึงช่วยป้องกันการเกิดสิวหัวดำและสิวหัวขาว อีกทั้งยังช่วยลดรอยแดงรอยดำจากสิวและช่วยให้ผิวสม่ำเสมอ สำหรับการใช้เพื่อรักษารอยสิว ควรใช้ในปริมาณและระยะเวลาตามที่แพทย์แนะนำ

นอกจากประโยชน์ในข้างต้น Rosehip Oil อาจนำมาใช้รักษาโรคข้อเสื่อม โรครูมาตอยด์ (Rheumatoid Arthritis) การติดเชื้อ โรคหวัด ไข้ ปวดท้อง และท้องเสีย อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีข้อมูลที่เพียงพอในการยืนยันประสิทธิภาพของ Rosehip Oil ต่อการรักษาโรคเหล่านี้ จึงควรรอผลการศึกษาเพิ่มเติมในอนาคต

ข้อควรระวังในการใช้ Rosehip Oil

การใช้ Rosehip Oil ค่อนข้างปลอดภัยและไม่ทำให้เกิดอาการระคายเคืองหลังการใช้ แต่บางคนอาจเกิดอาการแพ้ จึงควรทดสอบอาการแพ้ (Patch Test) ก่อนใช้ Rosehip Oil เสมอ โดยทาน้ำมันที่แขนด้านในหรือข้อมือเล็กน้อย ทิ้งไว้ประมาณ 24 ชั่วโมง แต่หากมีอาการเหล่านี้ ควรหยุดใช้และไปพบแพทย์

  • ผิวแดง และมีผื่นคัน
  • เคืองตา และน้ำตาไหล
  • คัดจมูก หายใจลำบาก หรือหายใจมีเสียง 
  • เวียนศีรษะ
  • แน่นหน้าอก
  • หัวใจเต้นเร็ว
  • มีอาการอื่น ๆ ที่บ่งบอกอาการแพ้อย่างรุนแรง (Anaphylaxis) เช่น ผื่นคัน ใบหน้า ริมฝีปาก และลำคอบวม หายใจลำบาก ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน เป็นต้น

ทั้งนี้ เด็ก หญิงตั้งครรภ์ และผู้ที่กำลังให้นมบุตร ไม่ควรใช้ Rosehip Oil เนื่องจากยังขาดผลการศึกษาที่ยืนยันความปลอดภัยในการใช้ และผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคนิ่วในไต และโลหิตจาง ควรหลีกเลี่ยงการใช้ Rosehip Oil ยกเว้นอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ เนื่องจากในน้ำมันประกอบด้วยวิตามินซีสูง หากผิวหนังดูดซึมวิตามินซีเข้าสู่ร่างกายมากเกินไป อาจส่งผลเสียต่อการรักษาและควบคุมอาการของโรคได้ 

นอกจากนี้ สารสกัดโรสฮิปทุกรูปแบบอาจทำให้เลือดออกง่ายผิดปกติ จึงควรงดใช้ Rosehip Oil ก่อนเข้ารับการผ่าตัดอย่างน้อย 2 สัปดาห์ และผู้ที่รับประทานยาต้านการแข็งตัวของเลือดไม่ควรใช้ Rosehip Oil 

Rosehip Oil ใช้อย่างไร

Rosehip Oil เป็นน้ำมันที่บางเบาและซึมเข้าสู่ผิวได้ง่าย สามารถใช้กับน้ำมันทาผิวหรือโลชั่นที่ใช้ตามปกติ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นสำหรับผู้มีผิวแห้งและผู้มีริ้วรอย สำหรับปริมาณการใช้ไม่มีกำหนดแน่ชัด เนื่องจากมีหลายรูปแบบ เช่น น้ำมันสกัดบริสุทธิ์ ครีม และผงแป้ง จึงควรใช้ตามปริมาณที่แนะนำในฉลากผลิตภัณฑ์ หรือปรึกษาแพทย์และเภสัชกรก่อนการใช้ 

ในการเก็บรักษา Rosehip Oil ควรวางในที่ร่มที่ไม่ถูกแสงแดดส่องโดยตรง หรือเก็บในตู้เย็นเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำมันเสื่อมสภาพ โดยเลือกผลิตภัณฑ์ที่บรรจุในขวดแก้วสีทึบ ซึ่งช่วยป้องกันแสงแดดและความร้อน

แม้ว่า Rosehip Oil เป็นน้ำมันทาผิวชนิดหนึ่งที่อุดมไปด้วยวิตามิน สารต้านอนุมูลอิสระ และกรดไขมันจำเป็นที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น กระจ่างใส และช่วยให้ผิวมีสุขภาพดี เหมาะกับทุกสภาพผิว แต่หากต้องการใช้ Rosehip Oil ในการรักษาโรคต่าง ๆ อย่าง โรคผิวหนังอักเสบ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพ