ใจเต้นแรง ปวดฉี่ตลอด ฉี่บอย ทั้ง 2 อาการจะเกี่ยวกันไหม

สวัสดีค่ะ คุณ Wiraphat Thakun,

                     สำหรับอาการใจเต้นแรงนั้น แนะนำให้ลองจับชีพจรที่อยู่ตรงข้อมือดู โดยจับดูว่าเต้นกี่ครั้งใน 1 นาที หากจับชีพจรได้ไม่น้อยกว่า 60 นาที หรือไม่มากกว่า 100 ครั้งต่อนาที ก็ถือว่าปกติดี แต่หากจับได้น้อยกว่า 60 หรือได้มากกว่า 100 ครั้งต่อนาที หรือจังหวะของชีพจรไม่สม่ำเสมอ เดี๋ยวเต้นช้า เดี๋ยวเต้นเร็ว ก็จะถือว่าผิดปกติ และควรไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุค่ะ 

                      ส่วนอาการปัสสาวะบ่อย อาจเกิดจาก

                     1.การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ มักจะมีอาการอื่นๆ ร่วมอีก เช่น แสบและปวดขณะปัสสาวะ อาการกลั้นปัสสาวะไม่ได้ ปัสสาวะไม่สุด ปัสสาวะขุ่น หรือปัสสาวะมีเลือดปน เป็นต้น

                    2. การดื่มน้ำมากไป ดื่มแอลกอฮอล์มากหรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนมากไป 

                     3. โรคเบาหวาน โรคเบาจืด ซึ่งหากเป็นโรคเบาหวานมานาน ก็อาจทำให้เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ และเป็นสาเหตุที่ทำให้หัวใจเต้นผิดปกติได้ด้วย

                     4. กระเพาะปัสสาวะบีบตัวไวเกิน (overactive bladder) นอกจากปัสสาวะบ่อยครั้ง อาจมีอาการกลั้นปัสสาวะไม่ได้ ปัสสาวะเล็ดราดร่วมด้วย 

                     5. มีนิ่วหรือก้อนเนื้อในกระเพาะปัสสาวะ 

                     6. ไตเรื้อรัง ไตวาย แต่จะมีอาการอื่นๆ อีก เช่น หนังตาบวม ขาบวม เหนื่อยง่าย คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร และทำให้มีหัวจเต้นผิดปกติได้ด้วย

                     7. การมีความเครียด วิตกกังวล ก็จะทำให้มีความรู้สึกปวดปัสสาวะบ่อยได้ 

                     8. อุณหภูมิของอากาศที่เย็น ก็จะทำให้รู้สึกปวดปัสสาวะบ่อยได้

                     ดังนั้น สาเหตุร่วมที่อาจทำให้เกิดทั้งอาการใจเต้นแรงและปัสสาวะบ่อย เช่น การมีความเครียด วิตกกังวล หรืออาจเป็นโรคเบาหวาน ไตเรื้อรัง (แต่ 2 โรคนี้ ก็จะต้องมีอาการอื่นๆ ร่วมอีกหลายอย่าง) 

                    หรือทั้งนี้ อาจเกิดจากคนละสาสาเหตุก็ได้

                    ในเบื้องต้น หากอกาารปัสสาวะบ่อยเพิ่งเป็นมาไม่กี่วัน ก็อาจเกิดจากการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะก็ได้ เนื่องจากเป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยสุด ดังนั้นแนะนำให้พยายามดื่มน้ำมากๆ ไปก่อน หลีกเลี่ยงการดื่มชา กาแฟ หรือแอลกอฮอล์ ไม่กลั้นปัสสาวะ หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ไปก่อนชั่วคราว แต่หากอาการไม่ดีขึ้น ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจและรักษาตามสาเหตุค่ะ