ถามแพทย์

  • มีเพศสัมพันธ์ทางปากมา 1 อาทิตย์กว่า ตอนนี้มีไข้ปวดหัว ไอมีน้ำมูก จะติด hiv ไหม

  •  synsyn123
    สมาชิก

    คือได้มีเพศสัมพันธ์มาโดยใส่ถุงยาง แต่ก็มีการอมสด แต่ในตอนนั้นผมไม่ได้มีการสำเร็จความใคร่อะครับ แล้วทีนี้ผ่านมา 1 อาทิตย์กว่าๆ ผมเป็นไข้ ปวดหัว ไอแล้วก็มีน้ำมูก (ก่อนไม่สบาย 1-2 วัน ก็คือตากแดด ตากลม แล้วก็ทำงานในคุมไซต์ก่อสร้างที่เจอฝุ่นเยอะๆตลอด) เลยอยากถามว่ามันอาการของ HIV หรือว่าเพราะผมตากแดด ตากลมเองอะครับ โดยปกติก็เป็นคนป่วยง่ายอยู่แล้ว แต่ทีนี้มันดันมาเป็นเวลาใกล้ๆหลังมีเพศสัมพันธ์

    synsyn123  พญ.นรมน
    แพทย์

    สวัสดีค่ะคุณ synsyn123

    โรค hiv คือการติดเชื้อไวรัส hiv ในร่างกาย ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันบกพร่องจนทำให้เกิดภาวะเอดส์ และติดเชื้อฉวยโอกาสจนอาจเสียชีวิตในที่สุด

    การติดต่อของเชื้อ hiv

    -การรับเลือด

    -การใช้เข็มฉีดยาหรือของมีคมร่วมกัน

    -การมีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอด/ทวารหนัก/การใช้ปาก

    -จากมารดาสู่บุตรในระหว่างตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร

    -สารคัดหลั่งของผู้ติดเชื้อเช่นเลือด มาโดนที่แผล หรือเข้าไปในเยื่อบุตาหรือปากหรือเยื่อบุอวัยวะเพศ

    ดังนั้นจากเหตุการณ์ที่กล่าวมา หากมีการมีเพศสัมพันธ์ทางปาก ก็อาจเป็นช่องทางการรับเชื้อ hiv ได้

    ระยะของโรค hiv มีดังนี้

    1.ระยะเฉียบพลัน คือระยะที่รับเชื้อมาในช่วง 2-4 อาทิตย์แรก อาจมีอาการผื่นแดงขึ้นตามตัว ไข้ต่ำๆ ปวดเมื่อย เจ็บคอ ถ่ายเหลว อ่อนเพลีย ต่อมน้ำเหลืองโต

    2.ระยะฟักตัวของเชื้อ เชื้อจะอยู่นิ่งๆในร่างกายไม่แสดงอาการ ระยะนี้อาจกินเวลา 2-10 ปีขึ้นกับบุคคล

    3.ระยะเอดส์ คือระยะที่ภูมิคุ้มกันตกจนมีการติดเชื้อฉวยโอกาส เช่นเชื้อราในปอดในสมอง ปอดติดเชื้อบ่อยๆ

    ดังนั้นหากผ่านความเสี่ยงมาประมาณ 1-2 อาทิตย์ ถ้าจะมีอาการก็จะเป็นอาการในระยะเฉียบพลัน หากสงสัยว่าอาจจะเป็นอาการเฉียบพลันของโรค hiv ควรพบแพทย์ที่รพ.ใกล้บ้านเพื่อประเมินความเสี่ยงและตรวจร่างกายอย่างละเอียด พร้อมเจาะเลือดติดตามค่ะ

    ควรหลีกเลี่ยงการติดต่อและสัมผัสกับผู้ป่วยที่มีเชื้อ hiv ดังช่องทางที่กล่าวไป