ถามแพทย์

  • มีอาการเวียนหัวสองสัปดาห์กว่าแล้ว เวียนหัวตลอดเวลา ทานยาแล้วไม่ดีขึ้น เป็นอาการอะไร

  •  Lyn636
    สมาชิก
    สวัสดีค่ะคุณหมอ ดิฉันมีอาการเวียนหัวสองสัปดาห์กว่าแล้วค่ะ จะเวียนหัวตลอดเวลา ไม่มีบ้านหมุนค่ะ ไม่มีหูอื้อ แต่เวลาหันไปมา หรือเดินเร็วๆ จะเวียนมากกว่าปกติค่ะ ไปเจาะเลือดครั้งแรก หมอบอกมีภาวะซีด เลยให้ยาวิตามินกับเสริมแร่ธาตุมาค่ะ แต่ทานได้1สัปดาห์แล้ว ก็ไม่ดีขึ้นเลย วันนร้เลยไปรพ.ศูนย์อีกครั้งนึง เจาะเลือด ตรวจปัสสาวะ แต่ทุกอย่างปกติค่ะ ไม่มีตั้งครรภ์ด้วย จนหมอที่ตรวจวินิจฉัยไม่ออกว่าเกิดจากอะไร จึงไม่ได้สั่งยาค่ะ เพราะหนูแจ้งให้ทราบว่า หนูลองทานยาแก้เวียนหัวแล้วแต่ไม่ดีขึ้น ตอนนี้เริ่มกังวลมากค่ะ ว่าตัวเองเป็นอะไร แต่ก็มีเรื่องนึงที่ทำให้ฉุกคิดค่ะ ก่อนหน้าเครียดอยู่ช่วงนึง แล้วมีครั้งที่ตบหัวตัวเองแรงมาก หลังจากนั้นก็รู้สึกปวดไปสักพัก แล้วอาการปวดก็หายค่ะ แต่หลังจากวันนั้น รู้สึกเริ่มมีอาการเวียนหัวอย่างเดียวค่ะ ไม่ได้ปวด คุณหมอพอจะทราบอาการเหล่านี้มั้ยคะ ว่ามันคืออะไร?
    Lyn636  พญ.นรมน
    แพทย์

     สวัสดีค่ะคุณ Lyn636

    อาการเวียนศีรษะ อาจมีสาเหตุมาจาก

    -น้ำในหูไม่เท่ากัน ทำให้มีอาการเวียนศีรษะ คลื่นไส้ บ้านหมุน

    -โรคของหูอื่นๆเช่น  ตะกอนหินปูนในหูชั้นในหลุด หรือ โรคหินปูนในหูชั้นในเคลื่อน หูชั้นในอักเสบจากการติดเชื้อของหูชั้นกลาง 

    -การเปลี่ยนท่าทางที่เร็วเกินไป

    -เนื้องอกของประสาททรงตัว 

    -เนื้องอกในสมอง มักเป็นอาการปวดหัวรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ปวดมากตอนเช้า มีอาเจียนพุ่ง อาจมีความผิดปกติทางระบบประสาทเช่นอ่อนแรงแขนขาข้างใดข้างหนึ่งร่วมด้วย

    -ภาวะโลหิตจาง ทำให้เวียนศีรษะได้เช่นเดียวกัน

    การดูแลตัวเองเบื้องต้น การเปลี่ยนท่าช้าๆ ถ้ามีอาการให้รีบนั่งพัก รับประทานยาแก้เวียนศีรษะ ดื่มน้ำมากๆ

    หากมีอาการของระบบประสาทที่คล้ายกับเป็นเนื้องอกในสมองดังกล่าวไป หรือกินยาแก้เวียนหัวแล้ว อาการไม่ดีขึ้น ควรกลับไปพบแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติม