ถามแพทย์

  • เป็นแผลที่ปลายอวัยวะเพศชาย ปวดแสบมา 3 วัน รักษาอย่างไรครับ?

  •  Singtoi
    สมาชิก
    คุณหมอครับ ตอนนี้ผมมีแผลที่ปลายอวัยวะเพศที่ผิวหนัง ส่วนปลาย เวลาปัสวะผมจะแสบมากครับ แล้วก็มีอาการปวดบ้าง คือว่าปวดแสบหนะครับ แผลนี้เกิดจากผมมีเซ็กกับแฟนแล้วไปล้างทำความสะอาดช้า เลยเกิดอาการคันบ้าง ผิวหนังของอวัยวะผมก็บางฉีกจนเป็นแผล แต่แผลเล็กนะครับ น่าจะหายง่ายแต่กลับหายยากแล้วผมยังไปมีเซ็กซ้ำอีกครั้ง ก็เลยรู้สึกปวดเพิ่มขึ้นจากที่แสบอย่างเดียว ผมก็เลยอยากถามคุณหมอว่า ผมควรรักษาด้วยวิธีใดได้บ้างครับ ตอนนี่ผมเป็นมาสามวันแล้วครับนอนแสบปวดอยู่ตลอดเลยครับ คือแผลไม่ยอมแห้งสักที ขนาดของแผลประมาณ 2มม.เล็กมากแต่แสบปวดจริงๆครับ คุณหมช่วยบอกวิธีรักษด้วยนะครับ ขอบคุณครับ

    สวัสดีค่ะ คุณ Singtoi,

                      การมีแผลที่ปลายอวัยวะเพศชาย และปวดแสบบริเวณแผล อาจเกิดจาก

                      1. เริมที่อวัยวะเพศ เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ติดจากเชื้อไวรัส Herpes simplex virus โดยเริ่มแรกจะมีลักษณะเป็นตุ่มน้ำใสบริเวณอวัยวะเพศชาย อาจมี 1 ตุ่มหรือหลายตุ่ม มีอาการแสบร้อนหรือเจ็บปวด ต่อมาตุ่มน้ำจะแตกและกลายเป็นแผล และมีน้ำเหลืองซึมได้ หากเป็นครั้งแรกอาการจะเป็นอยู่นาน 2-4 สัปดาห์ บางรายอาจมีไข้ ปวดหัว ปวดเมื่อยตัว อ่อนเพลียร่วมด้วย และอาจมีปัสสาวะแสบขัดได้ เมื่อเป็นเริมครั้งหนึ่งแล้ว ก็จะกลับเป็นซ้ำๆ ได้อีกโดยไม่เกี่ยวข้องกับการมีเพศสัมพันธ์อีก เนื่องจากเชื้อจะอยู่ในรางกายของเราไปตลอดชีวิต โดยอัตราการเป็นซ้ำอาจถี่หรือห่างขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล ส่วนใหญ่ประมาณ 4-5 ปีจะกำเริบมา 1 ครั้ง 

                   2. แผลริมอ่อน หรือซิฟิลิสเทียม เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย อาการเริ่มจากเป็นตุ่มนูนและกลายเป็นแผลเล็กๆ ที่บริเวณปลายองคชาต อาจมีหลายแผลหรือมรเพียงแผลเดียวก็ได้ ต่อมาแผลเล็ก ๆ เหล่านี้จะขยายรวมกันเป็นแผลใหญ่ ลักษณะแบบแผลเปื่อย มีเนื้อเยื่อเละ ๆ ที่ก้นแผล มักจะมีเลือดซึม และรู้สึกเจ็บ ต่อมาจะพบต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบบวมโตและเจ็บ บางรายอาจมีไข้ เบื่ออาหาร และปวดเมื่อยร่างกายร่วมด้วย 

                    โดยทั่วไป หากไม่ได้มีการใส่สิ่งของในช่องคลอด การมีเพศสัมพันธ์ไม่ได้ทำให้เกิดแผลฉีกขาดที่อวัยวะเพศชายได้ค่ะ ดังนั้นแผลที่เกิดขึ้นจึงน่าจะเกิดจากโรคติดเชื้อดังกล่าวค่ะ

                     แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจดูลักษณะของแผลค่ะ ว่าเกิดจากโรคใด จะได้รับการรักษาที่ตรงกับโรคค่ะ