น้ำที่ออกจากอวัยวะเพศ จะแยกน้ำหล่อลื่นกับหนองอย่างไร หลังมีเพศสัมพันธ์ มีแสบขณะปัสสาวะ แล้วมีอาการคันตามมา

สวัสดีค่ะ คุณ Patima Muangsuay,

                      หากทั้ง 2 ฝ่าย ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์กับผู้อื่นมาก่อน ก็จะไม่ได้มีโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์บางอย่างอยู่ เช่น  ซิฟิลิส หนองในแท้ หนองในเทียม หูดหงอนไก่ เป็นต้น ดังนั้น เมื่อมามีเพศสัมพันธ์กัน ก็ไม่น่าติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เหล่านี้ค่ะ ส่วนโรคอื่นๆ อาจยังมีโอกาสติดได้ เพราะบางโรคอาจติดมาโดยวิธีอื่นๆ มาก่อน เช่น HIV เริม เป็นต้น 

                       ในส่วนของโรคหนองในแท้นั้น จะต้องเห็นมีหนองไหลออกมาจากท่อปัสสาวะ โดยหนองคือของเหลวข้นสีเขียว-เหลือง (เหมือนหนองที่เกิดจากฝีที่ผิวหนัง หรือคล้ายนมข้นหวาน) ส่วนในโรคหนองในเทียม ก็จะเป็นเพียงมูกขุ่นๆ อาจไม่ได้ข้นแบบหนองเหมือนในโรคหนองในแท้ และของเหลวเหล่านี้ ก็จะไหลออกมาแม้จะไม่ได้มีอารมณ์หรือถูกกระตุ้นทางเพศ ซึ่งจะแตกต่างกับน้ำหล่อลื่น ที่จะมีลักษณะออกเหนียวๆ แต่จะใส และจะออกมาเมื่อมีอารมณ์หรือถูกกระตุ้นทางเพศ ไม่ได้ออกมาเรื่อยๆ เหมือนในโรคหนองในแท้และหนองในเทียมค่ะ

                       ดังนั้น หากน้ำที่ออกมา มีลักษณะใสๆ ไม่ได้ขุ่นหรือข้นแบบหนอง และไม่ได้ออกมาเรื่อยๆ ก็ไม่น่าใช่โรคหนองในค่ะ

                     ส่วนอาการแสบขณะปัสสาวะหลังจากที่มีเพศสัมพันธ์ทันที อาจเกิดจากการอักเสบของท่อปัสสาวะได้ ซึ่งหากอาการหายไปแล้ว ก็ไม่ได้อันตรายอะไรค่ะ ส่วนอาการคันที่เกิดหลังจากนั้น 2-3 วัน อาจเกี่ยวข้องกับการมีเพศสัมพันธ์หรือไม่ก็ได้ เช่น อาจเกิดจากการแพ้ต่างๆ เช่น สบู่ แป้ง น้ำยาซักผ้า ผงซักฟอก ถุงยางอนามัย หรือแพ้ลิปสติกของผู้หญิง (หากมีการทำออรัลเซ็กส์) เป็นต้น หรืออาจเกิดจากการติดเชื้อราที่ผิวหนัง เป็นต้น ทั้งนี้ หากยังไม่มีผื่นเกิดขึ้น แนะนำควรสังเกตอาการไปก่อนค่ะ ในเบื้องต้น ก็ไม่ควรไปเกา หลีกเลี่ยงการทาแป้ง โลชั่นหรืออื่นๆ ใกล้อวัยวะเพศ เป็นต้น และอาจงดการมีเพศสัมพันธ์ไปก่อนชั่วคราว หากอาการคันไม่หายไป และมีผื่นหรือตุ่มเกิดขึ้น ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อรักษาค่ะ