ถามแพทย์

  • หลังผ่าคลอด 1 สัปดาห์ ได้ฉีดยาคุม มีเลือดออกนาน หมอตรวจพบมดลูกติดเชื้อ รักษาแล้ว ยังคงมีเลือดไหลอยู่ เป็นเพราะอะไร

  •  toeyyyyyy
    สมาชิก
    ผ่าคลอดเมื่อวันที่ 14 พ.ค. 64 ตั้งแต่วันคลอด น้ำคาวปลายังออกเป็นสีแดงสด ไม่มีไข้ ไม่มีกลิ่นเหม็น ไม่มีอาการปวดท้อง แต่เลือดไหลในปริมาณที่มาก ผ้าอนามัย 2 แผ่นใหญ่ คุมกำเนิดโดยการฉีดยาคุม รพ. ที่ผ่าคลอด คุณหมอให้ฉีดหลักจากแผลแห้งดีแล้ว คือฉีดหลังจากคลอดได้ 1 อาทิตย์ หลังจากที่รู้สึกว่าเลือดออกนานเลยไปหาหมอหลังคลอด 2 เดือน หมอตรวจภายใน พบว่ามีมดลูกติดเชื้อนิดหน่อยไม่มาก เลยให้ยาฆ่าเชื้อทางหลอดเลือดดำ 3 วัน เริ่มดีขึ้น สีเลือดจางลง แต่ยังมีเลือดออก กลับมากินยาได้ 2-3 วัน เลือดกลับมามีปริมาณมากเหมือนเดิม สีแดงเข้มแต่จะมีมากเฉพาะตอนตื่นเท่านั้น ตอนนอนแทบจะไม่มีเลือดออก ตอนนี้เกือบ 4 เดือนแล้วเลือดยังไหลอยู่เลยคะ เป็นเพราะอะไรเหรอคะ

    สวัสดีค่ะ คุณ toeyyyyyy,

                        หากหลังคลอดลูก 1 สัปดาห์ ได้ฉีดยาคุมกำเนิด ยาฉีดก็จะออกฤทธิ์ในการป้องกันการตั้งครรภ์ได้ทันที

                        ส่วนการที่หลังคลอด มีเลือดออกมา และได้ตรวจพบว่ามีมดลูกอักเสบติดเชื้อ ซึ่งได่รักษาจนดีขึ้นแล้ว แต่ต่อมา กลับมีเลือดออกมามากอีก อาจเกิดจาก

                        - มดลูกอักเสบที่ยังไม่หายสนิท หรือกลับมาเป็นซ้ำ แต่นอกจากมีเลือดออกแล้ว ก็มักมีปวดท้องน้อยร่วม มีตกขาวที่ผิดปกติ มีเจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์

                        - ผลข้างเคียงของยาฉีดคุมกำเนิด หากยังได้ไปฉีดยาคุมต่อเนื่องตามนัด ยาฉีดก็อาจมีผลทำให้เกิดเลือดออกผิดปกติได้

                        - เกิดโรคอื่นๆ ขึ้นมา เช่น เนื้องอกมดลูก เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัว มะเร็งปากมดลูก เป็นต้น

                      หากเลือดยังคงไม่หยุดไหล แนะนำควรกลับไปพบสูติ-นรีแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรักษาค่ะ ไม่ควรปล่อยไว้ เพราะอาจทำให้เกิดภาวะโลหิตจางตามมาได้ และหากเกิดจากเป็นโรค หากทิ้งไว้ ก็จะยิ่งยากต่อการรักษาค่ะ