ถามแพทย์

  • เคยบริจาคโลหิตมาก่อน ช่วงหลังพบว่าความเข้มข้นเลือดไม่พอ ควรซื้อยาบำรุงเลือดมาทานไหม

  •  noitana
    สมาชิก

    เคยบริจาคโลหิตที่สภากาชาดหลายครั้ง แต่ครั้งหลัง ๆ มา ตรวจเลือดแล้วความเข้มข้นเลือดไม่พอ คุณพยาบาลก็จัดยามาให้เป็นถุง แต่นานมาก  ๆ แล้วที่ยาหมดไปแล้ว (เป็นปี) และไม่ได้มีโอกาสไปบริจาคเลือดอีก  เวลามีรอบเดือนรู้สึกว่าร่างกายอ่อนเพลีย ไม่มีแรง อ่านในเน็ต บอกว่าร่างกายน่าจะขาดธาตุเหล็ก ทำให้เลือดจาง ซึ่งก็ไปคิดถึงตอนไปบริจาคเลือด คำถามคือ ดิฉันควรไปซื้อยาบำรุงเลือด กรดโฟลิกมาทานเหมือนช่วงที่ไปสภากาชาดไหมคะ ช่วยแนะนำหน่อยค่ะ ขอบคุณค่ะ

     

    สวัสดีค่ะ คุณ noitana,

                        หากเคยตรวจแล้วพบว่ามีความเข้นข้นของเลือดไปไม่พอ แสดงว่ามีภาวะโลหิตจาง ซึ่งภาวะโลหิตจางนั้น เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น

                        - การเสียเลือดเรื้อรัง เช่น ประจำเดือนมามาก มีเลือดประจำเดือนกะปริดกะปรอย เป็นริดสีดวงทวารและมีถ่ายอุจจาระเป็นเลือดเป็นบ่อยๆ 

                        - ขาดสารอาหารจากการทานไม่เพียงพอ เช่น ธาตุเหล็ก กรดโฟลิก วิตามินบี 12 โปรตีน

                         - เป็นโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น ติดเชื้อ HIV วัณโรค โรคติดเชื้อเรื้อรังต่างๆ โรคไตเรื้อรัง โรคภูมิแพ้ตนเองชนิดต่างๆ โรคมะเร็งต่างๆ เป็นต้น

                         - โรคที่เม็ดเลือดแดงอายุสั้นกว่าปกติ เช่น โรคธาลัสซีเมีย พาหะธาลัสซีเมีย โรคพร่องเอนไซม์ G-6-PD เป็นต้น

                         - โรคของไขกระดูก เช่น ไขกระดูกฝ่อ มะเร็งในไขกระดูก หรือการติดเชื้อในไขกระดูก เป็นต้น

                         ดังนั้น หากยังไม่เคยไปตรวจว่ามีภาวะโลหิตจางจริงหรือไม่ และเกิดจากสาเหตุใด แนะนำควรไปตรวจก่อนค่ะ การซื้อยาธาตุเหล็กหรือกรดโฟลิกมาทานเอง อาจไม่ได้ช่วยแก้ไขต้นเหตุของภาวะโลหิตจางและไม่ได้ทำให้ภาวะโลหิตจางหายไปค่ะ นอกจากนี้ หากเป็นโรคบางอย่างอยู่ เช่น ธาลัสซีเมีย การทานธาตุเหล็กมากไป อาจส่งผลอันตรายมากกว่าค่ะ 

                        ส่วนอาการอ่อนเพลีย ไม่มีแรงขณะที่มีรอบเดือนนั้น อาจไม่ใช่อาการของโลหิตจาง เพราะหากมีภาวะโลหิตจาง ก็ต้องมีอาการในช่วงที่ไม่มีประจำเดือนด้วย ดังนั้น อาการดังกล่าว อาจเป็นแค่อาการของการมีประจำเดือนมาค่ะ