ถามแพทย์

  • ครั้งแรกเป็นไข้สูง สองวันหายดี หลังจากนั้น 1 อาทิตย์ ก็เป็นไข้สูงอีก หมอบอกเป็นไข้หวัดบี เป็น 7 วัน ก็หาย แล้วเริ่มมีอาการไอ 6 วันต่อมาก็เป็นไข้อีก หมอคนเดิมก็ฉีดยาตัวเดิมกับให้ยาตัวเดิม ตอนนี้เป็นไข้หนัก จะทำยังไง ทุกข์ใจมากตอนนี้

  •  Jring Jai
    สมาชิก
    ครั้งแรกเป็นไข้สูง หมอให้ยามาทาน สองวันหายดี หลังจากนั้นหนึ่งอาทิตย์ ก็เป็นอีกใข้สูง จึงพาไปคลินิค หมอบอกเป็นไข้หวัดบี ฉีดยา ให้ยามาทาน เป็นไข้สูงตลอดเจ็ดวัน ก็หาย แล้วเริ่มมีอาการไอ แต่ไม่มีใข้อยู่ หกวันก็เป็นใข้อีก จึงำปคลินิคเดิม(เพื่อหมอจะรู้ประวัติ)หมอคนเดิมก็ฉีดยาตัวเดิมกับให้ยาตัวเดิม คนใข้ก็เป้นใข้หนักเหมือนเดิมแต่อร่วมด้วยตลอดและหนักมาก จึงเกิดอาการหนักใจว่าตอนนี้จะทำยังไง จะเปลี่ยน ที่รักษาเลยไหม หรือพาไปเจาะเลือดดี โรงพยาบาลรัฐเขาจะตรวจให้หรือเปล่า ทุกข์ใจมากตอนนี้ อยากได้คำตอบด่วนเลยครับ

    สวัสดีค่ะ คุณ Jring Jai,

                   จากอาการที่เล่ามา ครั้งแรกหายดีแล้ว ต่อมาอีก 1 สัปดาห์เป็นอีกครั้ง โดยเป็นนาน 1 สัปดาห์แล้วหายไป 6 วัน กลับมาเป็นอีก รวมแล้วเป็นทั้งหมด 3 ครั้ง ซึ่งอาการที่เล่ามาดูเหมือนมีแต่ไข้เป็นหลัก 

                    การเป็นไข้ทั้งหมด 3 ครั้งอาจเกิดจากคนละโรคกันก็ได้ค่ะ สาเหตุของการเป็นไข้ส่วนใหญ่ก็คือการติดเชื้อ ส่วนสาเหตุอื่นๆ พบได้น้อย เช่น ร่างกายขาดน้ำ มีบาดแผล หรือหลังฉีดวัคซีน เป็นต้น

                    ส่วนเชื้อโรคที่น้องติดและเป็นโรคอะไรนั้น ต้องมีรายละเอียดต่างๆ ของอาการเพิ่มเติม ร่วมกับการตรวจร่างกายจึงจะหาแนวโน้มของโรคที่เป็นได้ และอาจต้องมีการตรวจทางห้องปฎิบัติการเพิ่มเติม เช่น ตรวจเลือด ตรวจสารคัดหลั่งต่างๆ ค่ะ 

                     สำหรับ ไข้หวัดใหญ่ เป็นโรคติดต่อทางเดินหายใจ เกิดจากการติดเชื้อไวรัสกลุ่มอินฟลูเอนซา (Influenza) ซึ่งมีทั้งสายพันธ์ุเอ บี และซี อาการมักรุนแรงกว่าไข้หวัดธรรมดาและจะเกิดขึ้นรวดเร็วกว่าไข้หวัดธรรมดา โดยอาการคือ ไข้สูง หนาวสั่น ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดกระบอกตา ตาแดง คัดจมูก น้ำมูกไหล อ่อนเพลีย ไอ เจ็บคอ อาจมีการเบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียนหรือท้องเสียร่วมด้วย ส่วนใหญ่จะหายได้เองในเวลาประมาณ 1 -2 สัปดาห์ แต่อาจมีอาการอ่อนเพลียต่อเนื่องได้นานหลายสัปดาห์ ในบางรายโดยเฉพาะเด็กเล็ก คนสูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัว หรือมีภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ อาจเสี่ยงต่อการเกิดโรคแทรกซ้อน เช่น ไซนัสอักเสบ หูชั้นกลางอักเสบ ปอดบวม เยื่อหุ้มสมองอักเสบ สมองอักเสบ เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ เป็นต้น

                 ดังนั้นหากลูกสาวยังคงมีอาการไข้สูงตลอด มีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ไอมีเสมหะมาก หอบเหนื่อย หายใจแรง เจ็บหน้าอก ปวดหู ปวดศีรษะรุนแรง อาเจียนมาก ควรรีบกลับไปพบแพทย์โดยเร็วค่ะ

                 ในเบื้องการคุณพ่อควรพยายามให้ลูกดื่มน้ำมากๆ แต่ต้องไม่ใช่น้ำเย็นนะคะ ให้เด็กพักผ่อนเยอะๆ ไม่ควรพาไปนอกบ้านโดยไม่จำเป็น หากยังมีไข้ควรให้หยุดเรียน ให้น้องทานอาหารที่มีประโยชน์โดยเฉพาะผักและผลไม้เพื่อช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทาน และทานยาตามที่แพทย์สั่งค่ะ ขอให้อาการของน้องดีขึ้นไวไวนะคะ