คันช่องคลอด เภสัชจ่ายยาแก้แพ้แ้กคันและยาสอด สอดยาแล้วอาการดีขึ้น แต่ปัสสาวะแล้วมีเลือดปน ปวดท้อง เป็นอะไร

สวัสดีค่ะ คุณ iiai567,

                       อาการคันในช่องคลอดนั้น สาเหตุที่พบบ่อย เช่น   

                 - การติดเชื้อราในช่องคลอด นอกจากมีอาการคันเป็นหลักแล้ว มักมีตกขาวที่ผิดปกติด้วย คือมีตกขาวมีปริมาณมาก มีสีขาวขุ่นจับตัวเป็นก้อนคล้ายแป้งเปียก 

                 - การระคายเคืองหรือแพ้สัมผัสจากสารเคมีต่างๆ เช่น อาจแพ้ผงซักฟอก  หรือน้ำยาที่ใช้ซักกางเกงใน แพ้น้ำยาปรับผ้านุ่ม แพ้ผ้าอนามัย แพ้แป้งที่นำมาทาบริเวณอวัยวะเพศภายนอก รวมถึงแพ้เนื้อผ้ากางเกงใน เป็นต้น

                 - การเปียกชื้นบริเวณอวัยวะเพศเช่น ชุดชั้นในรัดมากเกินไป ไม่ระบายอากาศ  มีภาวะกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ หรือเหงื่อออกมาก

                 ทั้งนี้ หากได้ไปพบเภสัชกร และได้ยาแก้แพ้และแก้คันมาทาน รวมถึงยาสอด และเมื่อสอดยาไป อาการได้ดีขึ้นแล้ว ก็ให้สังเกตอาการคันต่อไปก่อนค่ะ และไม่จำเป็นต้องทานยาแก้แพ้แก้คันต่อ สำหรับยาสอด หากเภสัชกรจ่ายให้เพียง 1 เม็ด ก็แสดงว่าเป็นชนิดที่ใช้เพียงครั้งเดียว ดังนั้น ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ต่อค่ะ 

                 ส่วนอาการที่ปัสสาวะแล้วมีเลือดปนออกมา แต่ไม่ได้มีเลือดไหลเปื้อนกางเกงใน แสดงว่าเลือดน่าจะออกมาจากทางเดินปัสสาวะ มากกว่าออกจากช่องคลอด ซึ่งสาเหตุที่ทำให้มีเลือดออกมาในปัสสาวะ และมีปวดท้องร่วมด้วย ก็น่าจะเกิดจากมีกระเพาะปัสสาวะอักเสบ โดยอาจเกิดจากการกลั้นปัสสาวะในช่องกลางคืนได้ หรืออาจเกิดจากการที่ใช้ยาสอด แล้วไปทำให้ท่อปัสสาวะ (ซึ่งอยู่ติดกับช่องคลอด) เกิดการบาดเจ็บขึ้นมาก็ได้

                 ในเบื้องต้น ควรดื่มน้ำเปล่ามากๆ ไม่กลั้นปัสสาวะ ไม่ดื่มชา กาแฟ แอลกอฮอล์ และควรงดการมีเพศสัมพันธ์ไปก่อนด้วย หากอาการไม่ดีขึ้น ยังคงมีเลือดปนมาในปัสสาวะ หรือยังมีปวดท้องน้อยต่อเนื่อง หรือมีเลือดออกจากช่องคลอดด้วย หรือมีตกขาวที่ผิดปติต่อเนื่อง ก็ควรไปพบสูติ-นรีแพทย์เพื่อตรวจรักษาค่ะ