ถามแพทย์

  • เป็น HIV กินยามา 6 เดือนแล้ว มีอาการซ่าซ่า แสบร้อนตามผิวหนัง เกิดจากอะไร

  •  maxpazeto
    สมาชิก
    ผมเป็นH กินยามา6เดือนแล้ว ตอนนี้มีอาการซ่าซ่า เหมือนแสบร้อนที่แขน ขา น่อง แผ่นหลัง ตามผิวหนัง เมื่ออยู่นิ่งๆครับ แต่ถ้ามีการเคลื่อนไหวจะไม่รู้สึกอะไรถ้าเอามือลูบๆ อาการก็จะจางไป แต่อีกสักพักก็เกิดขึ้นใหม่ อยากทราบว่าเกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้าง เช็คระบบปลายปราสาท ยังรับรู้อาการได้ปกติครับ

    สวัสดีค่ะ คุณ maxpazeto,

                         หากทานยาต้านไวรัส HIV อยู่ ผลข้างเคียงที่อาจพบได้ในช่วงแรกๆ ของการทานยา ได้แก่ ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร ท้องเสีย ท้องอืด นอนไม่หลับ ฝันร้าย มีผื่นขึ้นเล็กน้อย อารมณ์แปรปรวน ซึ่งถือว่าไม่รุนแรง ส่วนอาการที่ถือว่ารุนแรง ได้แก่ มีภาวะซีด เกิดตับหรือตับอ่อนอักเสบเฉียบพลัน นิ่วในไต ชาปลายมือปลายเท้า ปวดแสบปวดร้อน หรือปวดที่มือหรือเท้า จากปัญหาที่ระบบประสาท เป็นต้น

                        ส่วนอาการข้างเคียงในระยะยาว ซึ่งมักพบหลังจากกินยาเป็นเวลานาน ส่วนใหญ่ตั้งแต่ 1 ปี ขึ้นไป  เช่น น้ำตาลในเลือดสูง การกระจายและสะสมของไขมันผิดปกติและผิดที่ มีไขมันพอกที่ต้นคอ ลำตัวอ้วน แขนขาลีบ แก้มตอบ เป็นต้น

                        ดังนั้น หากมีอาการแสบร้อนตามผิวหนัง ก็น่าจะเกิดจากทำงานของระบบประสาทที่ผิดปกติไป ซึ่งก็น่าจะเกิดจากผลข้างเคียงของยาที่ทานได้ หรืออาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆ ก็ได้ เช่น เกิดโรคเบาหวานขึ้น มีภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนต่ำ ขาดวิตามินบี 1 บี 6 บี 12 หรือไนอะซิน ได้รับสารพิษหรือโลหะหนัก เป็นต้น ดังนั้นหากอาการยังคงเกิดขึ้นเรื่อยๆ หรือเป็นต่อเนื่อง ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจว่าเกิดจากสาเหตุใด หากเกิดจากยา ก็จะประเมินว่าอาการรุนแรงขนาดไหน ต้องปรับเปลี่ยนยาหรือไม่ค่ะ ในเบื้องต้น ยังไม่ควรงดทานยาเองไปก่อน และระวังอย่าให้เกิดบาดแผลที่ผิวหนังค่ะ