จามไม่หยุดเมื่อเจอฝุ่น อากาศเย็นขึ้นก็หายใจไม่ออก มีน้ำมูกไหลทุกคืน ควรทำอย่างไร

สวัสดีค่ะ คุณ wssss,

                     อาการจามบ่อย จมูกตัน (หรือคืออาการคัดจมูก) มีน้ำมูกไหล อาจเกิดจาก

                1. เป็นไข้หวัด แต่ก็จะหายไปได้เองภายในเวลาประมาณ 1 สัปดาห์ ดังนั้น หากเป็นมา 2-3 สัปดาห์แล้วก็ไม่น่าใช่

                2.โรคภูมิแพ้ ชนิดแพ้อากาศ (allergic rhinitis) ซึ่งเกิดจากการแพ้ต่อสารก่อภูมิแพ้ต่างๆ อาการได้แค่ คัดจมูก มีน้ำมูกไหล จาม อาจมีอาการคันตา คันจมูก คันลำคอ จมูกอาจได้กลิ่นลดลง อาการจะเป็นแบบเรื้อรังต่อเนื่อง โดยมีช่วงที่ดีขึ้นสลับกับช่วงอาการกำเริบ

                 3. ไซนัสอักเสบแบบกึ่งเฉียบพลันหรือเรื้อรัง แต่มักจะทำให้มีน้ำมูกสีเขียวหรือสีเหลืองข้นร่วมด้วย การรับกลิ่นไม่ดี มีมูกข้นในลำคอหรือมูกไหลลงลำคอ มี ปวดบริเวณไซนัส ได้แก่ โหนกแก้ม หน้าผาก จมูกตรงระหว่างคิ้ว และหัวตา ลมหายใจมีกลิ่นเหม็น เป็นต้น

                  4. มีริดสีดวงจมูก มีเนื้องอกในช่องจมูก หรือโพรงไซนัส รวมถึงมะเร็งในช่องจมูก มะเร็งหลังโพรงจมูก มะเร็งในโพรงไซนัส อาการคือคัดจมูก จมูกไม่ได้กลิ่น หรือหายใจแล้วมีกลิ่นเหม็นผิกปกติ เป็นต้น

                 หากอาการเป็นมานาน 2-3 สัปดาห์แล้ว และอาการกำเริบชัดเจนเมื่อโดนฝุ่นละออง และอากาศที่เย็น ก็น่าจะเป็นอาการของโรคภูมิแพ้ชนิดแพ้อากาศได้ ซึ่งหากอาการไม่รุนแรง ก็สามารถดูแลตนเองได้ โดยในเบื้องต้น ก็ต้องหลีกเลี่ยงตัวกระตุ้นที่ทำให้เกิดอาการกำเริบขึ้นมา ซึ่งก็คือฝุ่นละอองและอากาศที่เย็น เช่น การไม่ดื่มน้ำเย็น ไม่อาบน้ำเย็น หลีกเลี่ยงการตากลมเย็น ไม่โดนลมจากแอร์และพัดลมโดยตรง สวมใส่เสื้อผ้าที่อบอุ่น มิดชิด เป็นต้น นอกจากนี้ สิ่งกระตุ้นอื่นๆ ที่อาจก่อให้เกิดอาการ เช่น ขนนก นุ่น ฝ้าย ไรฝุ่น ควัน เชื้อราต่างๆ สะเก็ดผิวหนังจากสัตว์ เช่น สุนัข แมว หนู กระต่าย เกสรดอกไม้ ดอกหญ้า แมลงสาบ และแมลงต่างๆ วัสดุเฟอร์นิเจอร์ เช่น ใยมะพร้าว เป็นต้น รวมไปถึงการมีความเครียดด้วย

                 นอกจากนี้ อาจทานยาแก้แพ้ เช่น เซทิริซีน (cetirizine), ลอราทาดีน (loratadine) เป็นต้น โดยทานต่อเนื่องในช่วงที่เป้นจนกว่าจะหายค่ะ แต่หากอาการไม่ดีขึ้น ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจและรักษาค่ะ