ถามแพทย์

  • อายุ 15 ปี ปวดหัวทุกวัน กินยาก็ไม่ดีขึ้น ควรทำอย่างไร การกินยาทุกวันจะอันตรายไหม

  •  Thitima Penpratoom
    สมาชิก
    อายุ 15 ค่ะ ช่วงนี้ปวดหัวทุกวันเลยค่ะ ปวดเเบบมึนๆตื้อๆ ปวดทั้ง 2 ข้าง ไปถึงคอ กินยาก็ไม่ได้ช่วยมาก อยากจะถามว่าควรทำยังไง เเล้วเสี่ยงจะเป็นอะไรมั้ย เพราะต้องกินยาเเก้ปวดเกือบทุกวัน (ยาที่กินคือ ไทลินนอล 500)
    Thitima Penpratoom  พญ.นรมน
    แพทย์

     สวัสดีค่ะคุณ Thitima Penpratoom

    อาการปวดหัวแบบมึนๆตื้อๆ อาจจะเกิดจาก

    -ปวดหัวจากกล้ามเนื้อที่มักเกิดจากการใช้งาน ทำให้ปวดมากตอนเย็น เป็นปวดตุ้บๆเหมือนมียางมารัดศีรษะ พักแล้วมักจะดีขึ้น

    -ปวดหัวไมเกรน มักปวดมากที่ข้างเดียว มีคลื่นไส้อาเจียน ตาพร่าร่วมด้วย

    -ปวดหัวจากสาเหตุในสมองเช่นมีเนื้องอก มีเลือดออกในสมอง แต่อาการมักเป็นรุนแรงและเป็นมากขึ้นเรื่อยๆ คือปวดหัวมากที่สุดในชีิวิต มีความผิดปกติของระบบประสาทเช่นแขนขาอ่อนแรง ชาครึ่งซีก พูดไม่ชัด หน้าเบี้ยว หรือมีประวัติอุบัติเหตุนำมาก่อน

    หากยังปวดหัวมากขึ้นเรื่อยๆทุกวัน ปวดจนทำกิจวัตรประจำวันไม่ได้ ปวดจนต้องตื่นมากลางคืน ปวดติดต่อกันเกิน5วันขึ้นไปไม่ดีขึ้น มีความผิดปกติของระบบประสาทร่วมด้วยดังกล่าวไป ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายเพิ่มเติมว่าอาจเป็นปวดหัวที่มีสาเหตุจากในสมองได้หรือไม่

    การดูแลตัวเองเบื้องต้น รับประทานยาแก้ปวด ยาไทลินอลดังกล่าวมาก็สามารถรับประทานได้ทุก 4-6 ชั่วโมง ยาแก้อักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ พักผ่อนมากๆ งดกิจกรรมที่ต้องใช้แรง พักสายตา ไม่ใช้กิจกรรมที่ต้องเพ่งสายตานานๆ และสังเกตอาการดังกล่าวไป