ถามแพทย์

  • ปวดศีรษะบริเวณหน้าหู ขมับ บางครั้งก็ปวดบริเวณหลังหู แถวกราม เป็นเฉพาะด้านขวา ร่วมกับมีอาการใจสั่น รู้สึกตนเองกำลังจะตายด้วย เกิดจากอะไร

  •  namo_mo
    สมาชิก

    ผมมี 2 คำถาม อยากถามคุณหมอครับ ยาวหน่อยนะครับ รบกวนด้วยครับ

    1. ผมมีอาการปวดหัว บริเวณหน้าหู ขมับ  บางครั้งก็ปวดบริเวณหลังหู แถวกราม เป็นเฉพาะด้านขวา ปวดแบบตื้อๆ หนักๆ บางครั้งก็ปวดจี๊ดๆ ปวดตลอดเวลา เป็นมา 12 วันแล้วครับ กินยาพาราทุก 5 ชั่วโมง อาการทุเลาลง แต่พอหมดฤทธิ์ยา มันก็ปวดแรงอีก ถ้าปล่อยไว้ลองไม่กินยาดู มันจะปวดเหมือนมีอะไรมารัด หนักๆหัวไปหมด ยิ่งตอนกลางคืน ต้องตื่นมากินยาพาราตอนตี 2 ตี 3 ตลอดเลยคับ ตื่นมาก็ไม่สดชื่น เหมือนหลับไม่สนิท และก็มีอาการปวดหัวบริเวณดังกล่าวอยู่ตลอด ไม่มีอาการอื่นๆ ร่วม แค่รู้สึกว่ารบกวนการใช้ชีวิต ไม่มีความสุขเลย มันหงุดหงิดและรำคาญครับ เมื่อวานได้ไปหาหมอ หมอให้ยา ibuprefen มากิน หมอบอกว่า ถ้าปวดมาก กินคู่กับยาพาราได้เลย อันนี้ผมปวดหัวทั่วไปใช่มั้ยครับ ผมกลัวเส้นเลือดสมองจะแตก และยาพารากินพร้อมกับยา ibuperfen ได้เลยไหมครับ (กินยา ibuprefen หลังจาก 1 ชั่วโมงไปแล้ว แสบช่วงลิ้นปี่และกลางหน้าอก แต่ทนได้ ถือว่าปกติมั้ยครับ)

    2. บางครั้งมีอาการใจสั่น ใจเต้นแรง เคยวัดชีพจรได้ 133 มือสั่น ตัวสั่น กระวนกระวาย หายใจไม่ออก มือเท้าเย็น หวิวๆ เวียนหัวเหมือนจะวูบหรือจะเป็นลม รู้สึกเหมือนจะขาดอากาศหายใจ เหมือนกลัวอะไรสักอย่างแต่ไม่รู้ว่ากลัวอะไร แต่ขณะที่มีอาการ ตอนนั้นรู้สึกกลัวจะตาย ตอนอาการมันเป็นแรงๆจะกลัวตายมากๆ อยู่ๆ ก็มีอาการขึ้นมาเองทันทีทันใด ไม่ทันตั้งตัว มีอาการนี้ทุกเดือน เดือนละ 1-3 ครั้ง พยายามสักเกตอาการแล้ว มันมักจะเกิดตอนอยู่เฉยๆ นั่งเล่นมือถือ เล่นเกมส์หรือตอนดูทีวี เป็นตอนที่ไม่ได้เครียดอะไรเลย เป็นอยู่ประมาณ 10 นาที และจะหายสนิทใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมง หลังจากนั้นก็ทิ้งความกังวลไว้ กลัวมันจะเป็นอีก ตอนทำงาน และตอนออกกำลัง เล่นฟิตเนสไม่มีอาการอะไรเลย เล่นกีฬาได้ปกติเลยครับ อาการแบบนี้ใช้แพนิคไหมครับ

    namo_mo  พญ.นรมน
    แพทย์

     สวัสดีค่ะคุณnamo_mo

    อาการปวดศีรษะบริเวณหน้าหู ขมับ  บางครั้งก็ปวดบริเวณหลังหู แถวกราม เป็นเฉพาะด้านขวา ปวดแบบตื้อๆ หนักๆดังกล่าวมานั้น นึกถึงสาเหตุปวดศีรษะจากกล้ามเนื้อหรือเส้นเอ็นบริเวณรอบศีรษณะตึงตัวได้มากที่สุด มักสัมพันธ์กับการใช้งานระหว่างวัน การเพ่งสายตานานๆ ซึ่งมักจะดีขึ้นได้หลังพักการใช้งานค่ะ สาเหตุอื่นๆเช่น ปวดจากไมเกรน มักปวดมากข้างเดียว มีคลื่นไส้ ตาพร่าได้ หรือปวดจากปลายเส้นประสาทอักเสบก็จะปวดจี๊ดๆได้มากค่ะ ควรพักการใช้งาน กินยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการ และถ้าปวดมากขึ้นเรื่อยๆจนรบกวนการทำงาน ควรรีบไปพบแพทย์

    ส่วนอาการใจสั่น เต้นแรง เวียนหัวเหมือนจะวูบ รู้สึกเหมือนจะตายนั้น อาจเข้าข่ายภาวะแพนิคได้เช่นกัน สาเหตุอื่นๆเช่น ใจสั่นจากหัวใจเต้นผิดจังหวะ การทำงานของไทรอยด์ผิดปกติ หรือการใช้สารกระตุ้นการทำงานของหัวใจหรือระบบประสาท

    โรคแพนิค คือการตื่นตกใจต่อเหตุการณ์ใดๆมากจนเกินไป ทำให้มีอาการทางกายจากการทำงานของระบบประสาทอัตโนมัติที่มากผิดปกติ เช่น หัวใจเต้นเร็ว แน่นอก หายใจไม่ออก ขยับร่างกายไม่ได้ชั่วคราว เหงื่ออกมาก ร้อนวูบวาบ วิตกกังวลมากเหมือนตัวเองกำลังจะตายได้ ซึ่งการรักษาคือการเปลี่ยนความคิด โดยเมื่อรู้สึกเหมือนจะมีอาการดังกล่าว ให้ลองพุ่งความสนใจไปยังเหตุการณ์ที่ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลาย เช่นที่ที่เราชอบไป และต้องตั้งสติว่าเหตุการณ์นี้จริงๆแล้วไม่ทำให้เกิดอันตรายถึงแก่ชีวิต  แต่ถ้าอาการเป็นมากขึ้นเรื่อยๆ ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินสภาพจิต และเข้ารับการรักษาอย่างเหมาะสมด้วยยาหรือการทำจิตบำบัดต่อไป